ซูลิ่วหลางมองออกไปด้านนอกด้วยสายตาที่ง่วงนอน“ท่านพี่ คนคนนั้นไปแล้วเหรอ”
“อืม เจ้าก็งีบอีกสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่จะเฝ้ายามเอง”ซูหวั่นให้ซูลิ่วหลางนอนกับซูเหลียนเฉิง ขณะที่นางเฝ้ายามอยู่ด้านนอก
ภายนอกถ้ำมืดมิดและฝนตกกระหน่ำ
เสียงฟ้าร้องครืนๆ ดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด ฟังแล้วน่าหดหู่เป็นอย่างมาก
นางรู้ดีแก่ใจว่า ชายที่มาเมื่อสักครู่นั้นไม่ใช่เป็นคนที่จะรับมือได้ง่ายๆ เขาได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่ให้ลิ่วหลางตะโกนร้องออกมา นั่นก็หมายความได้เพียงอย่างเดียวว่าเขากำลังถูกคนตามล่าอยู่อย่างแน่นอน
และในตอนนี้นางก็ได้แต่หวังว่า หยาดเม็ดฝนด้านนอกจะสามารถชะล้างร่องรอยของชายคนเมื่อสักครู่นี้ออกไปได้ เพื่อให้คนอีกกลุ่มตามมาไม่เจอเขา เพราะนางไม่อยากจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วย
โชคดีที่คืนนั้นไม่มีใครเข้ามาอีกแล้ว
ซูหวั่นนำหยกและเงินอัดใส่ไว้ในพื้นที่จินตนาการ จากนั้นก็เดินทางเข้าเมืองในตอนกลางคืนเพื่อซื้อยารักษาอาการบาดเจ็บที่ขา แล้วก็รีบกลับมาที่ถ้ำ
นางยื่นซาลาเปาเนื้อร้อนๆให้กับซูลิ่วหลาง“รีบกินเถอะ กินเสร็จเราก็จะกลับกันแล้ว”
“ท่านพี่ พี่ก็กินด้วยสิครับ”ซูลิ่วหลางกะพริบตาปริบๆ และแบ่งซาลาเปาให้ซูหวั่นครึ่งหนึ่ง
“ข้ากินมาแล้วล่ะ เจ้ากินเถอะนะ”ซูหวั่นหยุดชะงัก เมื่อเห็นว่าซูลิ่วหลางต้องการที่จะเก็บมันเอาไว้ให้พ่อและแม่ นางจึงรีบห้ามเอาไว้ทันที“พี่ได้เก็บไว้ให้ท่านพ่อและท่านแม่แล้ว อันนี้สำหรับเจ้า ไม่ต้องเก็บเอาไว้หรอกนะ”
ซาลาเปาเนื้อมีขนาดใหญ่เท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่ ซึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กน้อยดื่มน้ำและอิ่มท้องได้
ถ้าแบ่งให้คนอื่นๆก็คงจะไม่อิ่มอย่างแน่นอน
ซูหวั่นจะไม่ยอมให้น้องชายของตัวเองต้องทนหิวอีกต่อไป นางคิดทบทวนแล้วว่า นางจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ครอบครัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
และซูลิ่วหลางก็ไม่สงสัยแต่อย่างใด เขาหยิบซาลาเปาเนื้อและกินเข้าไปอย่างเต็มคำ รสชาติอร่อยมากจนแม้แต่ลิ้นก็ยังแยกไม่ออกแล้ว
ซูเหลียนเฉิงยังไม่ตื่นขึ้นมา ซูหวั่นจึงสัมผัสไปที่หน้าผากของเขา และทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดี
อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสจริงๆ และหากไม่มีนางหรือเปลี่ยนเป็นหมอในยุคสมัยนี้นั้น ซูเหลียนเฉิงก็คงจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
“อาหวั่น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา