กว่าสัปดาห์แล้วที่พิยะตาหลบเลี่ยงไม่อยากเจอหน้าคนปากร้าย หญิงสาวแค่อยากจะปลุกความเข้มแข็งก่อนที่จะไปเผชิญกับเขา และทำใจให้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้คนมีบุญคุณอย่างธีร์ผิดหวัง เสียงถอนหายใจเฮือกสุดท้ายดังหนักๆ หญิงสาวจัดแจงตัวเองพร้อมที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคฤหาสน์สินสาโรจน์
“โอเคขึ้นแล้วใช่ไหมพิตต้า”
“ค่ะอา วันนี้จะกลับไปบ้านของคุณธีร์แล้ว อาดูแลตัวเองด้วยนะคะ” หญิงสาวเอื้อนเอ่ยอย่างห่วงใย คนรับรู้ก็ซาบซึ้ง หล่อนส่งยิ้มให้หลานสาวพร้อมโน้มตัวนุ่มนิ่มเข้ามากอด
“อาน่ะไม่เป็นอะไรหรอก...เรานั่นแหละดูแลตัวเอง อย่าทำให้อาผิดแล้วกัน”
“แหมพิตต้าจะกล้าที่ให้อาโด่งผิดหวังได้ยังไงค่ะ” พิยะตาตอบเสียงใส เธอแค่นเสียงสุดความสามารถเพื่อให้ดนุพรคลายกังวล
“รีบไปได้แล้วยายตัวยุ่ง”
“ค่ะอา” ร่างบางคล้อยหลังไปแล้ว ดนุพรจึงทรุดตัวนั่งลงบนเตียงนุ่ม เอื้อมเปิดลิ้นชักข้างเตียงนอน กระดาษหลายแผ่นที่อยู่ในมือเหมือนมีกระแสไฟทำให้มือหนาสั่น ข้อความในกระดาษมีตัวเลขจำนวนมากเขียนหวัดๆ บางแผ่นก็เป็นข้อความนัดหมาย พร้อมลงชื่อผู้นัดเรียบร้อย แถมรายการค่าใช้จ่ายที่หล่อนแบกรับเอาไว้ก็ยาวเป็นหางว่าว
“เฮ้อ จะทำยังไงดี หนี้ที่เหลือเกือบล้าน ไหนจะค่าห้อง ค่ารถ ถ้าพิตต้ารู้เข้ามีหวังเสียใจแน่ๆ” ดนุพรสบถกับตัวเอง ความผิดของหล่อนแท้ๆ เอาเงินทองทุ่มให้บาร์กินนรีทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่คุ้มเสียเลย และยังหลงมัวเมาไปกับหนุ่มหล่อที่ปรนเปรอความสุขให้ แต่สุดท้ายก็ต้องเสียอย่างที่เรียกว่าสิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนคนไม่เกี่ยวข้องอย่างพิยะตากลับเป็นที่พึ่งให้หล่อนประนอมหนี้ ถึงจะสงสารหลานสาวที่มีชะตากรรมชีวิตเป็นเหมือนทาสขัดดอก ดนุพรก็ไม่อาจจะทำอะไรให้มันดีขึ้นหล่อนยอมรับว่าจนปัญญาจริงๆ ก็ได้แต่เชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษของธีร์ว่าเขาจะดูแลหลานอย่างดี
“ติ๊ดๆ” โทรศัพท์มือถือทันสมัยส่งเสียงเตือนว่ามีสายเข้า บนจอสว่างเผยชื่อของคนที่หล่อนกำลังหวาดกลัว
“สวัสดีค่ะเสี่ย”
“อืม คิดว่าจะไม่รับโทรศัพท์ผมเสียอีก” ดนุพรเบ้ปากแลบลิ้น
“รับสิคะ...มีอะไรให้รับใช้เหรอคะเสี่ย” เสียงที่ดัดให้หวานฟังแล้วสะอิดสะเอียนยิ่งนัก
“ใกล้ครบกำหนดที่คุณผ่อนผันแล้วนะ อย่าลืมล่ะ”
“ค่ะๆ โด่งไม่ลืมแน่ค่ะ เตรียมไว้แล้ว ถึงวันเมื่อไหร่โด่งจะรีบเอาไปให้เลยนะคะ”
“ดีมาก อ่อ แต่ถ้าไม่มีก็เอา...หนูคนสวยนั่นมาก็ได้นะ จะได้หักล้างกันไปเลย”
“อุ๊ย ไม่ได้หรอกค่ะ...หลานของโด่งมีคนจองแล้ว”
“แหม น่าเสียดาย รีบๆ หน่อยแล้วกัน” พูดจบดนุพรก็รีบตัดสายทิ้ง เจ้าหนี้รายนี้อยากจะกลืนกินพิยะตาตั้งหลายครั้งแล้ว เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องฝากเธอไว้กับคนที่สามารถดูแลได้ เงินสดจำนวนหนึ่งบรรจุอยู่ในซองสีน้ำตาล หล่อนจำได้ดีว่าใครเป็นคนหยิบยื่นมาให้ ธีร์เอ่ยปากจะช่วยเหลือแลกกับกินนรีบาร์เหล้าเก่าๆ ดนุพรสุดจะเสียดายแต่มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้ตกอยู่ในมือของคนไม่ชอบธรรม
“เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะจบสิ้นซะทีนะ กรรมเวรอะไรของฉัน หนี้ทั่วหัว ผัวก็หาไม่ได้” หล่อนสบถก่อนจะเก็บทุกอย่างเข้าที่
ร่างบางสาวเท้ายาวๆ เข้าไปในบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศครึมราวกับจะมีพายุฝนตกใต้หลังคาบ้านนี้ เพียงก้าวแรกที่พ้นขอบประตูสายตาดุดันก็พุ่งตรงมายังเธอทันที
“ไม่รู้ว่าข้างนอกมันมีอะไรดีนักหนา ถึงได้หายหน้าหายตาไปหลายวัน” เสียงหนักจิกกัด หญิงสาวชะงักแล้วจึงหันไปมองหน้าคนไม่เป็นมิตร
“มันก็มีอะไรให้น่ามองกว่าในบ้านนี้ล่ะ”
“คงจะหมายถึง หนุ่มหล่อรวย เอาใจเก่ง หรือหนุ่มวัยละอ่อนอายุไม่ถึง 20 ล่ะมั้ง” พิยะตาเม้มปากไม่พอใจคนยียวน แต่เธอก็เตรียมพร้อมที่จะตอบโต้เขาอยู่แล้ว
“พิตต้าไม่นิยมวัยละอ่อนค่ะ...กระดูกมันบาง ไซส์ไม่ได้ขนาด” เสียงประชดเน้นหนักให้เขาโมโห ใบหน้าเข้มแดงเล็กน้อย ชายหนุ่มแปลความหมายคำพูดนั้นอย่างที่หญิงสาวจงใจทันที
“ฮึ รสนิยมใช้ได้นี่...แล้วเป็นไงเจอแบบถึงใจหรือเปล่า”
“ก็พอมีค่ะ แต่ยังไงก็ต้องกลับมาหาคุณธีร์อยู่ดีค่ะ อดคิดถึงไม่ได้” นี่เธอกำลังเห็นอาของเขาเป็นคนชั่วคราวอยู่เหรอ เสียงกัดกร้ามคำรามเสียงดัง เขาทั้งโกรธที่หญิงสาวไม่ให้เกียรติธีร์ และโมโหเธอที่ไม่รู้จักพอ ใบหน้าสวยลอยไปมาไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกเช่นไรกับคำพูดนั้น
“เพี๊ยะ” มือเรียวสัมผัสใบหน้านั้นอย่างแรงจนเขาให้ตามทิศทางของมือ นัยส์ตาสาวสั่นไหวเธอควบคุมน้ำตาไม่ให้ไหล ถึงจะเตรียมใจมาสู้กับเขาแต่หัวใจหญิงมันก็อ่อนแอเกินกว่าจะรับความขมขื่นได้ ธัญญ์โกรธจัดรวบร่างสวยเข้ามาซุกไซ้อย่างแรง ซอกคอขาวแดงเป็นทางเมื่อถูกหนวดเคราที่แข็งเสียดสี
“ปล่อยนะคุณธัญญ์ จะย่ำยีกันไปถึงไหนปล่อยนะคะ” มือเรียวทุบตีพร้อมร่ำร้องต่อว่าเขา
“จนกว่าคุณจะยอมรับไงว่าผมคือสามีคุณ”
“ไม่...ฉันไม่รับคนเลวๆ มาเป็นคู่ชีวิตเด็ดขาด ปล่อยนะ” แขนขาที่ต่อต้านกระแทกร่างกำยำไปหลายครั้ง หญิงสาวทุบไหล่หนาหนักๆ ความเจ็บทำให้เขาผลักเธอล้มไปบนที่นอนนุ่ม ร่างชายรีบตามไปทาบทับก่อนที่เธอจะลุกขึ้นขัดขืนลำตัวหนาพันธนาการร่างบางไว้กับที่นอนนุ่มอย่างแน่นหนา
“เลวแล้วยังไง...ผมก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วนี่นาว่าลีลาของผมมันเด็ดขนาดไหน” พูดจบชายหนุ่มก็ซุกใบหน้ากับซอกคอขาวเนียนอีกครั้ง
“คุณธัญญ์ ปล่อย”
“ทีกับสามีทำเป็นสะดีดสะดิ้ง...ผู้ชายคนอื่นคุณคงว่านอนสอนง่าย เล่นทุกลีลาล่ะสิ”
“มันเรื่องของฉัน” ร่างเล็กดิ้นไปมา มือทุบไหล่แข็งเป็นพัลวัน
“ปล่อยๆ บอกให้ปล่อย ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณธีร์” ชายหนุ่มหยุดชะงัก เขามองสบตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ หน้าสวยแดงระเรื่อ เธอสะอื้นเสียใจจนตัวสั่นเทา มือหนาเอื้อมปาดน้ำตาแต่คนสาวเบี่ยงหน้าหลบอย่างรังเกียจ ธัญญ์ก้มลงหอมแก้มเนียนแล้วเลื่อนริมฝีปากไปดูดซับน้ำตาสาวอย่างอ่อนโยน หัวใจชายหนุ่มดิ่งวูบเมื่อเห็นน้ำตาของเธอตอนนี้ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ จากที่หวังจะลวนลามให้เธอเข็ดหลาบแล้วยอมออกไปจากบ้านนี้ แต่ความอ่อนไหวกลับทำให้เขาอยากจะโอบกอดร่างเล็กๆมอบความอบอุ่นให้เธอ หญิงสาวสะอื้นเบาๆเมื่อเขากอดตัวเธอเอาไว้แน่ ชายหนุ่มนอนเคียงข้างจับจ้องหน้าสวยที่เปียกชื้น นิ้วยาวเกี่ยวปัดปอยผมให้พ้นใบหน้า เขาโน้มตัวจูบแผ่วเบาที่เรียวปากหวานอิ่ม คนสาวมองตาคู่ดำอย่างหวาดระแวงหัวใจเธอก็เต้นรั่วไม่เป็นจังหวะ ยิ่งได้สูดลมหายใจอุ่นๆที่เขาพ่นออกมา ร่างกายที่ต่อต้านมันก็อ่อนยวมยอมให้เขาโอบกอดง่ายดาย
“คุณหายไปไหนมา” เสียงเบานุ่มกระซิบถาม พิยะตาหลุบตาหลบเล็กน้อย
“ไม่ได้ไปไหนค่ะ”
“รู้บ้างไหมว่ามีใครเป็นห่วง”
“ไม่รู้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม