ทัณฑ์นางโลม นิยาย บท 24

เหตุการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะเดิมแล้วหลังจากที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวตักตวงความโหยหากันอิ่มหน่ำ ธีร์ สินสาโรจน์ เจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่นั่งหน้าตึงเครียดรอคนที่เรียกหาเข้ามาพบ เขาพยายามจะทำให้หลานชายมีความรับผิดชอบดูแลทุกอย่างแทนเขา แต่คนหนุ่มกลับทำให้เขาผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“แกสายอีกแล้วนะเจ้าธัญญ์” เพียงเห็นเงาของหลานชาย ธีร์ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ทันที

“ขอโทษครับอา” มือหนาตบโต๊ะทำงานเสียงดัง

“ขอโทษงั้นเหรอ ถ้านี่เป็นเรื่องงานที่เร่งด่วน หรือความเป็นความตายของคนที่แกรัก แกจะมาใช้คำนี้ไม่ได้”

“ก็มันไม่ใช่”

“หยุดเถียงได้แล้ว...หัดมีความรับผิดชอบได้แล้วเจ้าธัญญ์”

“ผมก็มีความรับผิดชอบในส่วนของผมแล้วนี่ครับ”

“งั้นเหรอ...ช่วงที่ฉันไม่อยู่แกรักษาสัญญาหรือเปล่า” ธีร์ถามเสียงเรียบเย็น เล่นเอาชายหนุ่มอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร ปากหนาเม้มแน่น

“ทำสิครับ”

“แกแน่ใจนะ” เหมือนคนอายุมากกว่าจะต้อนเขาให้จนมุม ชายหนุ่มอึกอักเล็กน้อยคิดหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเอง

“ว่าธุระของอามาดีกว่าครับ ผมมีงานอีกมาก”

“แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ” มือทั้งสองของธีร์กำแน่น เขาพอจะอ่านแววตาของหลานชายออก ช่วงที่เขาไม่อยู่คงจะทำอะไรตามใจตัวเองแน่ๆ

“ฉันอยากจะแกรีบเร่งทำบาร์ให้เสร็จเร็วที่สุด”

“ทำไมต้องเร่งขนาดนั้นครับ ของก็ยังส่งมาไม่ครบ”

“ฉันมีเหตุผลของฉันแล้วกันน่า...แกทำงานของแกไป”

“เหตุผลของอา มันเกี่ยวกับพิตต้าหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มจงใจจ้องมองใบหน้าคมของอา

“หมายความว่ายังไง”

“ผมไม่ได้โง่นะครับอา...ที่จะไม่รู้ว่าอาคิดจะทำอะไรกับพิตต้าแล้วก็บาร์เหล้านั่น”

“แกรู้งั้นเหรอ ฮึ ถ้ารู้ก็ต้องรีบทำให้เสร็จ เพราะฉันใจร้อน” ประโยคหลังธีร์พูดราวกับกระซิบให้หลานชายรับรู้เพียงคนเดียว

“แล้วฉันเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย ห้ามยุ่งกับพิตต้าเด็ดขาด” เสียงขบกรามของทั้งคู่ดังพอกันทีเดียว แต่แรงที่หัวใจเต้นนั้นดูแล้ว ธัญญ์จะมากกว่าเขาทั้งโมโห และกังวลกับสิ่งที่ธีร์จะกระทำกับหญิงสาวที่เขาหลงรัก เขาไม่รู้เรื่องราวตามที่หยั่งเชิงอาหนุ่มเท่าไรนัก ที่รู้คงมีเพียงเจ้าของบาร์คนเดิมติดหนี้ธีร์มากมายจนต้องยอมเอาหลานสาวคนสาวมาขัดดอกเท่านั้น

พิยะตากำลังวุ่นอยู่กับการทำขนมหวานที่เธอเพิ่งหัดทำกับแม่ครัวของคฤหาสน์นี้ หญิงสาวตั้งใจเต็มที่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านั่นแสดงได้ชัดเจนว่าคนที่เธออยากให้ลองชิมอาหารเป็นคนแรกคงจะเป็นที่นั่งอยู่ในใจเป็นแน่ ถ้วยคริสตัลลายสวยในมือสาวบรรจุอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ กลิ่นหอมอบอวลเรียกน้ำลายของคนสูดดม

“กลิ่นหอมจัง”

“คุณธีร์...มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ พิตต้าไม่ทันได้มอง”

“ฉันคงมีความสำคัญน้อยกว่าขนมพวกนี้” หญิงสาวย่นจมูกเล็กน้อย

“อย่าน้อยใจพิตต้าสิคะ...เพิ่งหัดทำขนมก็เลยตั้งใจเป็นพิเศษค่ะ”

“งั้นเหรอ...ฉันขอเป็นหนูทดลองตัวแรกได้ไหม” หญิงสาวหลบสายตาเขา เธอตั้งใจจะให้ชายหนุ่มอีกคนเป็นคนชิม แต่เมื่อเจ้าของบ้านเอ่ยขอเธอจะปฏิเสธอย่างไรได้

“แน่ใจเหรอคะว่าจะกล้าชิมฝีมือพิตต้า”

“ก็ต้องกล้าสิ เว้นเสียแต่ว่าขนมถ้วยนี้มีเจ้าของแล้ว” พิยะตาอึกอักก่อนจะมองสบตาคนถาม เธอค้นหาเจตนาที่แฝงอยู่ในแววตาสีดำขลับ

“ยังหรอกค่ะ...งั้นเชิญคุณธีร์ที่โต๊ะอาหารดีกว่า พิตต้าจะยกไปเสิร์ฟให้” ธีร์ส่งยิ้มให้คนสาวก่อนที่จะเดินไปตามที่เธอแนะนำ ไม่กี่นาทีขนมที่เขาขอชื่นชมก็มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมคนเสิร์ฟหน้าตาจิ้มลิ้ม

“ยิ่งดูยิ่งน่าทานนะเนี่ย”

“สวยแต่รูปหรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ พิตต้าไม่มั่นใจเลย”

“เอาน่าเดี๋ยวฉันพิสูจน์ให้เอง” ธีร์ตักขนมในถ้วยขึ้นชิม ชายหนุ่มเม้มปากเล็กน้อยพร้อมหลับตานิ่ง ทำเอาคนลุ้นเหงื่อตก มือเรียวทั้งประสานกันอย่างตื่นเต้น

“เป็นยังไงบ้างคะ พอจะดูเป็นขนมกับเค้าบ้างหรือเปล่า”

“อืม...มันก็ขนมอะนะ จะให้ดูเป็นอย่างอื่นได้ยังไง”

“แสดงว่ามันไม่ได้เรื่องใช่ไหมคะ” พิยะตาหน้าถอดสีอย่างผิดวัง

“ฉันยังไม่ได้บอกเลย...ว่ามันอร่อยมาก”

“จะ จริงเหรอคะ หลอกให้พิตต้าดีใจหรือเปล่า”

“ลองชิมดูสิ” ชายหนุ่มถือโอกาสตักขนมในถ้วยเดียวกันส่งให้หญิงสาว เธอตกใจเล็กน้อยที่เขาจะป้อนให้แต่เมื่อมองแววตาที่ยิ้มกริ่มทำให้เธอต้องรับมันไว้อย่างลำบากใจ ปากบางค่อยๆ เลื่อนรับขนมที่ชายหนุ่มบรรจงป้อนให้ เธอเอียงอายเล็กน้อยก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดส่วนที่เปรอะเปื้อน

“เป็นยังไง...สมกับที่หนูตั้งใจทำหรือเปล่า”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ พิตต้าว่ามันยังไม่ได้ที่เลย...คุณธีร์ชมเกินไปแล้ว”

“งั้นเหรอ...เยินยอว่าที่ภรรยาหน่อยจะเป็นไรจริงไหม” คำตอบของเขาทำให้สีหน้าสาวซีดเผือด ดวงตากลมกระพริบอย่างคนทำอะไรไม่ถูก

“ฮึ พูดไม่ออก ไม่มีคำแก้ตัวล่ะสิ”

“พิตต้าไม่แก้ตัวค่ะ พิตต้าทำตามที่อาโด่งสั่งเท่านั้น”

“เป็นเหมือนกันทั้งอาทั้งหลาน หลานสาวก็ใจแตกเต้นกินรำกิน ส่วนอาก็วิปริตผิดเพศ”

“เพี๊ยะ” มือเรียวกระแทกลงบนใบหน้าคมเข้ม หญิงสาวสุดจะอดกลั้นที่ชายหนุ่มดูถูกอาของเธอ ยิ่งแววตาเกลียดชังกลับมาเยือนอีกครั้ง หญิงสาวก็แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านคนใจร้าย สายตาที่สั่นสะท้านมองใบหน้าที่หันตามแรงมืออย่างปวดร้าว

“ฮึ กล้าดียังไงมาตบหน้าผม” แขนหนาคว้าร่างบางเข้าไปเชยชิดประกบปากจูบ บดขยี้แรงเสียจนริมฝีปากบางเป็นรอยแดง มือที่กำระดมกำลังทุบตีไหล่หนา หญิงสาวสะบัดตัวให้ออกจากพันธนาการที่โหดร้าย แต่ความโกรธของเขามันแรงยิ่งกว่า มือหนาบีบไหล่บางอย่างแรงจนเจ็บระบม

“ปล่อยนะคะ พิตต้าเจ็บ”

“ฮึ” ดวงตาแข็งกร้าวมองหน้าสวยเล็กน้อยก่อนจะผลักเธอล้มลงกับพื้น

“โอ๊ย”

“อย่ามาสำออยกับผม แผนของคุณมันใช้ไม่ได้แล้ว”

“ฮือ คุณพูดอะไรของคุณ พิตต้าไม่เข้าใจ”

“ไร้เดียงเสียจริงนะ”

“บอกมาสิคะ”

“ไม่จำเป็นมั้ง คนอย่างคุณมันรู้อยู่แก่ใจ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องนี่นา อยากได้ปลดหนี้จนต้องเอาตัวเองเข้าแลก ถามจริงเถอะคุณไม่ละอายใจบ้างเหรอ” พิยะตาเม้มปากจนแน่นเธอผิดหวังกับเบื้องหน้าจริงๆ เขากลับไปเป็นคนโหดร้ายอารมณ์ร้อนที่คอยพูดจาดูถูกเธออีกแล้ว

“ใช่พิตต้าอยากปลดหนี้” ร่างบางค่อยๆลุกขึ้น เธอเก็บอาการเจ็บปวดเอาไว้ไม่ให้เขาเห็น เดี๋ยวจะหาว่าเธอสำออยอีก หญิงสาวมองจ้องดวงตาสีน้ำตาลเข้มหวังจะให้เขาเห็นภาพสะท้อนในดวงตาคู่นี้บ้าง

“แต่พิตต้าไม่ได้เอาตัวเข้าแลก พิตต้าไม่ได้ต้องการที่จะให้ใครมาดูถูกนะคะ ฮือๆ”

“แล้วไง ไม่ต้องการแต่คุณก็ทำ”

“พิตต้าไม่มีทางเลือกนี่คะ”

“คำตอบยอดฮิตจริงๆ คุณจำไว้นะที่ผ่านมาผมแค่รู้สึกเหงาไม่ที่ระบาย มองไปทางไหนก็ไม่เห็นใคร พอดีเจอคุณเข้าก็เลยเข้าล็อค คุณก็เป็นแค่ที่ระบายความเหงาเท่านั้น ไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว”

“คุณธัญญ์ เพี๊ยะ” มือที่แทบไม่มีเรี่ยวแรงรวบรวมกำลังทั้งหมดตบหน้าเขาอีกครั้ง คนเจ็บตัวจ้องมองราวกับจะกินเลือดเธอแววตานั้นไม่เหลือเยื่อใยของความรักอีกแล้ว ร่างหนาหันออกแล้วเดินกระแทกเท้าออกไป

“คุณธัญญ์ ฮือ” พิยะตาปล่อยโฮออกมาทันทีที่เขาจากไป เธอยกมือข้างที่ทำร้ายเขาขึ้นมาช้าๆ ความเจ็บรวดทวีมากยิ่งขึ้น เธอพยายามฝืนอาการเจ็บเอาไว้ แต่ร่างกายที่ไม่รักดีกลับอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม