บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /1
ชายชุดดำทั้งสองแทบไม่เชื่อสายตา เด็กหญิงตรงหน้ามีธาตุมืด! หรือแท้จริงแล้ว นางคือเผ่ามนุษย์สายเลือดมารสวรรค์ชั้นสูงของตำหนักเทวาอนธการ!! หากเป็นอย่างที่คิด พูดได้คำเดียวว่า ซวยแล้ว! ซวยทั้งพวกเขาและผู้ว่าจ้าง
ในมหาพิภพทงเทียนถึงได้มีคำกล่าวไว้ว่า
หาเรื่องใครก็หาไป แต่อย่าริอาจไปหาเรื่องคนตำหนักเทวาอนธการ! และอย่าไปยุยั่วคนตำหนักเทพอนันต์
ขนาดราชวงศ์ของทั้งสี่อาณาจักร ยังไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขา!!!
ความหวาดผวาจู่โจมจิตใจของนักฆ่าที่ยังรอดชีวิต เด็กหญิงตรงหน้าอายุเพียงเก้าหนาว ทว่าระดับตบะสูงถึงเจี๋ยตันขั้นกลาง แต่สิ่งที่น่าหวาดหวั่นกว่า คืออัคคีนิลกาฬในมือของนางต่างหาก!!
การถูกช่วงชิงและควบคุมจิตวิญญาณ คือสิ่งที่นักบำเพ็ญเกรงกลัวเป็นที่สุด พวกเขามิอาจไปผุดไปเกิด แต่กลายเป็นวิญญาณรับใช้ของผู้ที่ช่วงชิงออกมาได้ และหากวิญญาณไม่ได้รับการปลดปล่อย ก็จะกลายเป็นทาสรับใช้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์…ทรมานยิ่งกว่าตกนรก!
“ข้าบอก ข้ายอมบอกแล้ว แต่ได้โปรดอย่าช่วงชิงจิตวิญญาณของข้าเลย” นักฆ่าอีกคนรีบส่งเสียงปากคอสั่น
“จะ เจ้าเมืองเผยคังขอรับคุณหนู ที่ว่าจ้างพวกเราให้มาจับตัวท่าน ข้ายอมสารภาพแล้ว คุณหนูโปรดเมตตาด้วย”
ครั้นได้รู้คำตอบ รวี่เยว่มิอาจควบคุมโทสะได้อีกต่อไป มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ดวงตากลมโตที่เคยสดใสพร่างพราวราวลูกกวางน้อย เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบประหนึ่งผิวทะเลสาบน้ำแข็ง รอบกายแผ่จิตสังหารหนาวยะเยือกน่าพรั่นพรึง
ในวันประลองเผยหลงตั้งใจสังหารนาง ทว่านางไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่าเขาได้รับกรรมไปแล้ว คาดไม่ถึงว่ามาวันนี้คนเป็นบิดาที่มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมือง กลับผูกใจเจ็บจนสิ้นคิด ส่งนักฆ่ามาทำร้ายเด็กตัวเล็กๆอย่างนาง เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเด็กอย่างนางรังแกผู้ใหญ่ก็แล้วกัน!
ร่างเล็กปล่อยอัคคีนิลกาฬใส่หัวหน้านักฆ่า มันดิ้นทุรนทุรายก่อนสิ้นใจ รวี่เยว่ร่ายสัญลักษณ์ในอากาศ ก่อนส่งมันลงสู่ร่างตรงหน้า
จิตวิญญาณสีขาวราวหมอกขุ่นโผล่ขึ้นมาจากร่าง ลอยมาอยู่เบื้องหน้าของรวี่เยว่ มือเล็กฉวยกระบี่บนพื้นและสั่งให้มันลงไปสิงอยู่ในนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง