บทที่176คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณจะไปดูตัว(2)
คุณปู่เวินอึ้งไปแล้วหลังจากนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา
ดวงตาของคุณย่าเหอปรากฎถึงความตื่นเต้นและความซาบซึ้งอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแต่ เวินจีหยันและคนอื่นกลับแสดงสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อออกมาด้วยความโมโห
“อะไรนะ? เธอว่าอะไรนะ? เรื่องดี? ปู่อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะแต่งงานอีก เธอยังจะบอกว่านี่เป็นเรื่องดีอีกหรือ? นี่มันน่าขายหน้าจะตายอยู่แล้ว” เวินหรวนหรวนรีบโพล่งออกมา หน้าแดงด้วยความร้อนรน
“มีใครกำหนดไว้หรือว่าอายุเยอะแล้วจะไม่สามารถหาความสุขให้กับตัวเองได้?” เวินลั่วฉิงมองดูท่าทางของเวินหรวนหรวน มุมปากปรากฏรอยยิ้มอันแสนเย็นชาออกมา : “เธอบอกว่าขายหน้า? อายใครหรือ? อายคนของเธอ? สิ่งที่คุณปู่ทำมันทำให้เธอต้องอายคนของเธออย่างนั้นหรือ?”
“ฉิงฉิง เธออย่ามาบิดเบือน หรวนหรวนไม่ได้หมายความแบบนั้น หรวนหรวนแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่เหมาะสม คนอื่นๆจะต้องเอามาพูดนินทากันอย่างแน่นอน” ดวงตาของหลี่หยุนมีความไม่พอใจแสดงออกมา แต่ไม่นานก็ปกปิดเอาไว้ แล้วจึงรีบอธิบายออกมาแทนเวินหรวนหรวนเพื่อเป็นการไกล่เกลี่ย
“ในเมื่อคุณบอกว่าล้วนแต่เป็นคำนินทา แล้วคุณจะไปสนใจมันทำไมล่ะคะ?” เวินลั่วฉิงกวาดตามองเธอไปแวบหนึ่ง ตอบกลับไปอย่างสงบจิตสงบใจ
“เธอ......”หลี่หยุนถูกเธอดักเอาไว้เสียจนพูดไม่ออก โมโหเสียจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
“ไม่ว่าจะพูดยังไง เรื่องนี้ฉันก็ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมเด็ดขาด” เวินจีหยันเห็นว่าเวินลั่วฉิงพูดดีๆด้วยไม่ได้นั้น จึงมีท่าทางที่แข็งขึ้นมา
“การแต่งงานไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุนี่คะ กฎหมายบ้านเมืองยังให้แต่งได้ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ยอม?” เวินลั่วฉิงหัวเราะเยาะออกมา เขาไม่ยอมอย่างนั้นหรือ? ช่างตลกเสียจริงๆ
คุณย่าเวินคนก่อนเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว คุณปู่อยู่คนเดียวมาตลอดหลายปีนี้ คนอายุเยอะต้องการจะหาใครซักคนนึงแล้วมันเป็นอย่างไรกัน?
คนพวกนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ยอม?
ความคิดของคนในครอบครัวนี้เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน ไม่ใช่กลัวว่าคุณปู่แต่งงานใหม่แล้วพอถึงตอนนั้นจะถูกแบ่งมรดกทรัพย์สินของตระกูลเวินไปหรอกอย่างนั้นหรือ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น
“เวินลั่วฉิง แกหมายความว่าอะไร?” เวินจีหยันเองก็ถึงโต้ตอบไปเสียจนพูดไม่ออกเช่นกัน แน่นอนว่าเขารู้สึกโมโหไม่น้อยเลย
“เรื่องนี้ฉันเคารพความคิดของคุณปู่ อีกทั้งยังสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ” เวินลั่วฉิงเอ่ยพูดออกมาอย่างสบายๆ แต่กลับดูมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวอย่างไม่สามารถมองข้ามไปได้เลย
คุณปู่และคุณย่าเหอจะต้องรู้จักกันมาตั้งแต่แรกแล้วอย่างแน่นอน เมื่อก่อนทั้งสองคนนี้จะต้องเป็นเพราะเรื่องกังวลบางอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แต่หลังจากครั้งที่แล้วที่คุณปู่ไปตรวจสุขภาพที่จิงเฉิงแล้วพาคุณย่าเหอกลับมาด้วยนั้น เห็นได้ชัดว่าอาการป่วยของคุณปู่ได้ทำให้ทั้งสองคนอยากจะใช้วันที่เหลืออยู่ให้มีค่ามากที่สุด
ความรู้สึกเช่นนี้เธอจะไม่สนับสนุนได้อย่างไรกัน
คุณปู่เวินสูดหายใจเข้าเบาๆ อารมณ์แย่ๆเมื่อครู่นี้ได้หายไปหมดแล้ว ใบหน้าปรากฏความปลื้มปีติออกมา
“ถ้าหากพวกคุณมีความเห็นอื่นล่ะก็....”ดวงตาของเวินลั่วฉิงมองไปยังเวินจีหยันกับคนที่เหลือ หลังจากนั้นจึงเอ่ยต่อขึ้นมาอย่างช้าๆ : “มีความเห็นอะไรก็เก็บเอาไว้แล้วกันนะคะ”
“มีสิทธิ์อะไร? เวินลั่วฉิงแกมีสิทธิ์อะไร?” ทั้งสามคนได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิงแล้ว แทบจะตำหนิออกมาพร้อมกัน เวลานี้พวกเขากลับสามัคคีกันเป็นอย่างมาก
“ก็มีสิทธิ์ที่ว่าตระกูลเวินนี้ฉันเป็นเจ้าของไงคะ” ใครเป็นคนดูแลบริษัทเวินซื่อกรุ้ป คนนั้นก็เป็นเจ้าของตระกูลเวิน นี่คือกฎของตระกูลเวิน
คำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงทำให้ทั้งสามคนไม่สามารถตอบโต้ได้เลย สีหน้าของแต่ละคนนั้นดูแย่มาก
“อืม ฉิงฉิงเป็นเด็กดีมากคนนึงจริงๆ เพราะฉะนั้น งานเลี้ยงครั้งนี้ จริงๆแล้วผมจัดขึ้นก็เพื่อฉิงฉิงนี่แหล่ะ” คุณปู่เวินมองเธอ แล้วยิ้มออกมาอย่างดูมีลับลมคมใน
“จัดเพื่อฉิงฉิง?” คุณย่าเหอรู้สึกอึ้ง และหาคำตอบไม่ได้ด้วยเช่นกัน
“ฉิงฉิงอายุไม่น้อยแล้ว สุขภาพของผมก็ไม่ดี สิ่งที่ผมหวังและต้องการมากที่สุดก็คือเห็นเธอได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมคู่ควรกับเธอ อยากให้เธอมีความสุข ดังนั้นงานเลี้ยงครั้งนี้ผมเตรียมว่าจะเชิญให้หนุ่มๆที่มีความสามารถมาร่วมงานด้วย ถึงตอนนั้นก็ดูว่าจะมีคนที่ฉิงฉิงชอบหรือเปล่า ปกติแล้วฉิงฉิงไม่ชอบไปร่วมงานเลี้ยง ผมก็เลยคิดจะใช้โอกาสครั้งนี้” ใบหน้าของคุณปู่เวินมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้คุณปู่เวินได้เตรียมแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
“นี่คุณเตรียมที่จะจัดงานดูตัวให้กับฉิงฉิงอย่างนั้นหรือคะ? ฉิงฉิงจะยอมไหม?” คุณย่าเหอเข้าใจความหมายของเขา เพียงแต่เธอรู้สึกลังเล
“ถึงตอนนั้นถ้าหากมีคนที่ฉิงฉิงชอบ นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีไป แต่ถ้าหากไม่มีคนที่ฉิงฉิงชอบ ก็จะเป็นเพียงแค่งานเลี้ยงธรรมดาเพียงเท่านั้น เรื่องนี้ผมจะไม่บังคับฉิงฉิงหรอก” คุณปู่เวินรักเวินลั่วฉิงมากจริงๆ และแน่นอนว่าก็ต้องให้ความเคารพกับความคิดเห็นของเธอด้วยเช่นกัน
เมื่อเวินลั่วฉิงรู้ว่างานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นในอีกสามวัน เธอวางแผนที่จะไปช่วยงาน แต่กลับถูกคุณปู่เวินห้ามเอาไว้ คุณปู่เวินบอกเธอว่าเพียงแค่ถึงตอนนั้นแล้วเธอมาก็พอ เรื่องอื่นๆนั้นไม่ต้องให้เธอมาจัดการ
เวินลั่วฉิงเดิมทีที่ไม่ได้ถนัดเรื่องเตรียมงานพวกนี้อยู่แล้วด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก
เดิมทีที่เวินลั่วฉิงคิดอยากจะโทรหาเย่ซือเฉิน แต่เธอนึกขึ้นมาได้ว่าเย่ซือเฉินกับเมิ่งโร่ถิงไปประเทศRด้วยกัน อีกทั้งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เรื่องการแต่งงานของเธอกับเย่ซือเฉินก็จำเป็นที่จะต้องปิดเป็นความลับ ถึงแม้เย่ซือเฉินจะอยู่ที่เมืองAแต่เขาก็ไม่สามารถมาร่วมงานได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา
หลังจากนั้นสองวัน ที่ประเทศR
“ท่านประธานครับ คุณปู่เวินจัดงานเลี้ยงดูตัวให้กับคุณผู้หญิงครับ ต้องการให้คุณผู้หญิงเป็นคนเลือกคู่ครับ” หลังจากที่เลขาหลิวได้รับข่าวนี้มาแล้วจึงรีบมารายงานให้กับท่านประธานของเขาทราบ
คุณผู้หญิงจะดูตัว นี่เป็นเรื่องใหญ่ค้ำฟ้าเชียวนะ!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...