บทที่392 บิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก(2)
เดิมทีเขายังคิดไว้ว่า หากเย่ซือเฉินเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดเขา เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ว่าเขาและน้องสาวของเขาจะไม่ได้รับการยอมรับจากเย่ซือเฉิน
แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้?
แต่เรื่องนี้เขายังไม่ได้ไปตรวจสอบอย่างละเอียด และยังไม่มั่นใจ ดังนั้น เขายังพูดเรื่องนี้กับแม่ของเขาไม่ได้
แต่ว่า ต่อให้ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว และแม่กับเย่ซือเฉินนั้นหย่ากันแล้ว แล้วเขายังสามารถบอกให้แม่เขาได้อีกหรือเปล่า?
หากว่าแม่ไม่ได้รักเย่ซือเฉิน เขาคงจะบังคับแม่เพราะพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาไม่ได้
“พวกคุณหย่ากันแล้วจริงเหรอครับ?”ถังจื่อโม่ตัดสินใจลองทดสอบ
“หย่าร้างยังจะมีเรื่องเท็จอีกเหรอ?”เวินลั่วฉิงมองไปที่เขา แล้วยิ้มเบาๆ เรื่องหย่าร้างต้องเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว จะปลอมได้อย่างไร?
“เขาเห็นด้วยเหรอครับ?”ถังจื่อโม่คิดว่าในเมื่อตอนนั้นเย่ซือเฉินยินยอมที่จะแต่งงานกับแม่ของเขา แล้วทำไมถึงยินยอมหย่าร้างไวขนาดนี้?
“อืม เห็นด้วย”เวินลั่วฉิงตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ:“จื่อโม่ อันที่จริงแม่แต่งงานกับเขาเพราะข้อตกลง และแม่ก็สำเร็จเรื่องข้อตกลงของเราเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราจึงหย่ากัน”
เวินลั่วฉิงรู้ว่าแม้จื่อโม่จะยังเด็กอยู่ แต่ว่าเขานั้นก็รู้และเข้าใจอะไรมากมาย และในเมื่อเขาถามมาเช่นนี้ เธอจึงไม่ได้ปิดบังอะไรเขา
“ดังนั้น ที่เขาแต่งงานกับแม่ก็เป็นเพียงแค่ข้อตกลง แต่ไม่ใช่ว่าเขารักแม่เหรอครับ?”ดวงตาของถังจื่อโม่หมองลงเล็กน้อย และถ้าเป็นเช่นนี้จริง ๆล่ะก็เย่ซือเฉินก็ทำกันเกินไป
“แน่นอนสิว่าไม่ใช่ ก่อนหน้านี้แม่กับเขาไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เขาจะชอบแม่ได้อย่างไร?ผู้ชายอย่างเขาน่ะเป็นไปไม่ได้แน่นอนว่าจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ อีกอย่าง ต่อให้เป็นไปได้ว่าเขาจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ แต่การแสร้งทำเป็นของแม่ในตอนนั้น เขาจะชอบได้อย่างไร?ดังนั้น ระหว่างเรานั้นก็เป็นเพียงแค่การแต่งงานตามข้อตกลงที่ไร้เดียงสาเท่านั้น”ตอนที่เวินลั่วฉิงตอบคำถามนี้เธอไม่ได้คิดอะไรเลย เธอตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว เพราะว่าเธอคิดอย่างนี้มาตลอด
“ผมรู้แล้วครับ ถ้าอย่างนั้นหย่าแล้วก็หย่าแล้วเถอะครับ”ถังจื่อโม่แอบถอนหายใจเบาๆ และเขามองไปที่เวินลั่วฉิงอีกครั้ง น้ำเสียงของเขานั้นนุ่มนวลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ต่อไปนี้แม่ก็สามารถอยู่กับพวกหนูทุกวันแล้ว”เวินลั่วฉิงก้มหน้าลง แล้วจูบไปที่ใบหน้าของจื่อโม่ และบนใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสุข
เด็กทั้งสองคนนี้เป็นทุกสิ่งอย่าง และชีวิตของเธอ
สำหรับเธอแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าเด็กสองคนนี้แล้ว
“คุณแม่ครับ แม่คิดที่จะแต่งงานใหม่ไหมครับในอนาคตข้างหน้า?”เมื่อถังจื่อโม่ฟังคำพูดของเธอแล้ว เขามีความรู้สึกว่าอยากร้องไห้เล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่หวังให้แม่อยู่แต่กับเขาและน้องสาวตลอด เขาหวังเสมอว่าแม่ของเขาจะพบกับความสุขของตัวเอง
“ไม่แต่งแล้ว”คำพูดนี้ เวินลั่วฉิงพูดมันออกมาจากปากของเธอโดยไม่ต้องคิด และครั้งนี้ เธอถูกบังคับโดยเย่ซือเฉิน ตอนนั้นเธอไม่มีหนทางอื่นจริง ๆ แต่ต่อจากนี้เธอจะไม่แต่งงานอีกแน่นอนในอนาคต
เธอแต่งงานกับเย่ซือเฉินมาสามเดือน โดยตอนแรกนั้นยังดีอยู่ เยซือเฉินไม่สนอะไรเธอมากนัก แต่ว่าช่วงเวลาหลัง เยซือเฉินแทบอยากจะขังเธอไว้กับเขา
เธอไม่มีเวลาอิสระของเธอเลยแม้แต่นิด และทุกวันในช่วงเวลากลางคืนเธอก็ถูกเยซือเฉินทรมานจนไม่มีเวลานอนพักเลยสักนิด
เรื่องการแต่งงานน่ะ มีแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว และเธอไม่อยากมีรอบที่สองแล้ว อันที่จริงหลังจากที่เธอคลอดลูกสองคนนี้แล้ว เธอก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานอีกเลย และในครั้งนี้ถือว่าเป็นข้อยกเว้น
และในขณะนี้ถังไป๋เชียนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูห้องผู้ป่วยและเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเวินลั่วฉิง ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปหมด
เธอบอกว่า เธอไม่คิดจะแต่งงานใหม่อีกแล้วในอนาคต?
“จื่อโม่ ที่จริง แม่รู้แล้วว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของพวกหนูเป็นใคร เขาชื่อโม่เหยียน รอให้พวกหนูโตกว่านี้ ไม่สิ หรือว่าตอนนี้ก็ได้ ถ้าหนูอยากจะเจอหน้าเขา แม่ก็จะไม่ห้าม……”เวินลั่วฉิงครุ่นคิดไปสักพัก แล้วตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ถังจื่อโม่ฟัง
เวินลั่วฉิงหายใจเข้าลึกๆ เธอรู้สึกว่าเธอจะเห็นแก่ตัวเกินไปไม่ได้ และเธอก็ไม่สามารถพรากลูกจากความรักของพ่อได้ตลอดเวลา และถ้าหากว่าลูกอยากเห็นหน้าพ่อ เธอก็จะไม่ห้าม หรือว่าเธอเองก็สามารถพาลูกทั้งสองคนไปเจอหน้าเขาได้
ครั้งก่อนเย่หยู่เฟยบอกกับเธอว่า เมื่อ5ปีก่อนผู้ชายคนนั้นคือโม่เหยียน เพียงแต่ว่า เธอไม่รู้ตัวตนของโม่เหยียนคนนั้นมากนัก หรือว่า เธอควรที่จะตรวจสอบให้ดี ๆก่อน เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าโม่เหยียนคนนั้นคือใคร?
หากว่าโม่เหยียนคนนั้นไม่แย่งลูกกับเธอ และถ้าลูกอยากเจอหน้าพ่อของเขาจริง ๆ เธอเองก็จะไม่ห้าม และแน่นอนว่า ต้องอยู่ในความยินยอมของโม่เหยียนคนนั้นด้วย และในสถานการณ์ที่เขามีเวลาว่างเท่านั้น แต่หากว่าโม่เหยียนคนนั้นแต่งงานแล้ว และมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นแล้ว เรื่องนี้ต้องวางแผนใหม่อีกครั้ง
เวินลั่วฉิงหวังแค่ให้ลูกทั้งสองคนของเธอนั้นมีความสุข และเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข และสิ่งที่เธอสามารถให้พวกเขาได้นั้น เธอก็จะพยายามทำให้พวกเขาอย่าสุดความสามารถ และตราบใดที่มันเป็นเรื่องที่ดีต่อเด็ก ๆ เธอก็จะไม่ไปห้าม
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าการทำเช่นนั้น จะมีความเสี่ยงที่เด็กจะถูกแย่งไป
“จื่อโม่ หนูอยากเจอเขาหรือเปล่า?”จะบอกว่าในใจของเวินลั่วฉิงนั้นไม่กังวลนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเธอไม่รู้จักโม่เหยียนคนนั้นดีเลย และเธอเองก็รู้ว่าหากเธอเดินก้าวออกไป จะนำพาปัญหาเข้ามามากมาย และไม่แน่……
“อยาก”ถังจื่อโม่ครุ่นคิดไปเพียงแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างจริงจรัง ถังจื่อโม่นั้นรู้จักแม่ของเขาเป็นอย่างดี หากว่าแม่ของเขาตกลงให้เขาเจอหน้าพ่อ ตามนิสัยของแม่แล้ว แม่ของเขาจะตรวจสอบเรื่องให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนล่วงหน้าแน่นอน
จู่ ๆเขาก็อยากให้แม่ของเขาไปตรวจสอบเอง และถ้าแม่ของเขาตรวจสอบออกมาว่าเย่ซือเฉินก็คือโม่เหยียน ไม่รู้ว่าแม่ของเขาจะทำอย่างไร?
ไม่รู้ว่าแม่ยังยอมให้พวกเขาไปเจอหน้าพ่ออยู่หรือเปล่า?เพราะว่าตอนนี้แม่กับเย่ซือเฉินนั้นได้หย่าร้างกันแล้ว
เห็นว่าถังจื่อโม่ตอบตกลงได้ไวขนาดนี้ อีกทั้งในน้ำเสียงของเขาก็มีความตื่นเต้นปรากฏอยู่ เวินลั่วฉิงก็สะดุ้งเล็กน้อย และมุมริมฝีปากของเธอโค้งงอโดยไม่รู้ตัว และมีความรู้สึกอึดอัดเหมือนจะโดนทอดทิ้งอยู่ในใจของเธอ แต่ว่าเธอเองก็ไม่ต้องการให้ลูกผิดหวัง ดังนั้นเธอจึงพยายามแสดงรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย:“ได้ แม่รู้แล้ว”
ดูเหมือนว่า เธอควรที่จะไปตรวจสอบโม่เหยียนคนนั้นให้ละเอียดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...