อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 8

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ช่อเอื้องถามอย่างทำตัวไม่ถูก ที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ทำตัวแปลกๆ ทั้งที่กำลังเจียวไข่อยู่

“เปล่า แค่อยากกอดเธอเท่านั้น” แม่ทัพคลายอ้อมแขนออกแล้ว ตักไข่เจียวใส่ลงจานใบใหญ่ จากนั้นก็รีบเดินไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ใกล้ๆ แก้เขิน

“นี่ค่ะ” ช่อเอื้องหันไปหยิบช้อนกับส้อม แล้วส่งให้กับอีกฝ่ายก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม

“ขอบคุณครับ” แม่ทัพรีบตักไข่เจียวใส่เนื้อปูวางลงในจานของสาวเจ้าอย่างเอาใจ

“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะหยิบช้อนกลาง ตักแกงเขียวหวานที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนลงในจานข้าวของตัวเอง แล้วตักขึ้นมาทานพร้อมกับไข่เจียวที่มี เนื้อปูเป็นก้อนๆ

“เป็นไงบ้าง?” แม่ทัพถามยิ้มๆ

“เป็นไข่เจียวและแกงเขียวหวานที่อร่อยที่สุดเลยค่ะ” ช่อเอื้องบอกพร้อมกับยกนิ้วให้พ่อครัวสุดหล่อ

“อร่อยก็ทานเยอะๆ นะ” แม่ทัพบอกก่อนจะตักกับข้าวขึ้นมาทานอย่างอารมณ์ดี ที่เห็นสาวเจ้าสดใสขึ้นกว่าเมื่อวาน

“ค่ะ” ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานต่อ เพราะรู้สึกเขินกับสายตาหวานเยิ้มของพ่อครัวหน้าโหดที่ขยันส่งมาให้ทุกๆ สิบวินาที

สองชั่วโมงต่อมา...แม่ทัพพาช่อเอื้องเดินทางไปยังศาลาที่ตั้งบำเพ็ญศพของบิดา ทันทีที่จอดรถเสร็จก็รีบหันไปเอ่ยกับสาวเจ้า หลังเห็นรถตู้ของมารดาแล่นเข้ามาจอดข้างๆ

“แม่ฉันมาพอดี! ท่านเป็นโรคหัวใจ ไม่สามารถรับเรื่องที่สะเทือนความรู้สึกได้ เธออย่า...”

“ค่ะ หนูจะไม่พูดว่าคุณให้หนูเล่นละครหลอกท่าน” ช่อเอื้องบอกอย่างเข้าใจในความหมาย

“...” แม่ทัพได้ฟังคำตอบที่แสนซื่อก็ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้ก็รีบพาสาวเจ้าลงจากรถ แล้วเดินไปหามารดาของตนที่กำลังก้าวออกมาจากรถตู้

“สวัสดีครับแม่” แม่ทัพเอ่ยทักทายมารดาด้วยสีหน้ายิ้มๆ

“สวัสดีค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้อย่างรู้สึกเขินอายที่ต้องเล่นบทคนรักของพ่อเทพบุตรสุดเถื่อน

“เอื้อง...แม่เสียใจด้วยนะลูก” มาลีนบอกพร้อมกับดึงเด็กสาวเข้ามากอดปลอบอย่างรู้สึกสงสารและตื้อไปทั้งหัวใจ ที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับครอบครัวของว่าที่ลูกสะใภ้อย่างเป็นทางการ บิดาของอีกฝ่ายก็มาด่วนจากไปเสียก่อน

“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องรู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“หนูเอื้อง ฉันเสียใจด้วยนะ” วินัย เสี่ยใหญ่วัย 57 ปี รูปร่างสูงท้วมนิดๆ เอ่ยแสดงความเสียใจกับเด็กสาวที่ตนหมายตามาได้สองปี

ทันทีที่ทราบข่าวว่าบิดาของอีกฝ่ายเสีย เขาก็ตั้งใจจะยื่นข้อเสนอส่งเสียเลี้ยงดูให้เป็นบ้านเล็ก แต่พอมาถึงงานก็ต้องตกใจที่เห็นเด็กสาวก้าวลงมาจากรถหรูพร้อมกับชายหนุ่มที่หน้าตาดีและรูปร่างดูภูมิฐานซะจน...เห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดหัวใจสุดๆ

“ขอบคุณค่ะคุณวินัย เชิญด้านในค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้เจ้าของบ้านเช่า ขในชุมชนที่เธออยู่อย่างซึ้งใจ ที่อีกฝ่ายมาร่วมงานศพของบิดา

แม่ทัพยืนจ้องมองเสี่ยใหญ่ที่ทราบจากคงศักดิ์มาว่า...อีกฝ่ายเคยเข้าไปทาบทามและยื่นข้อเสนอเรื่องขอเลี้ยงดูช่อเอื้องตั้งแต่ตอนที่บิดาของสาวเจ้าป่วยเป็นอัมพฤกษ์

“แล้วนี่ใครเหรอหนูเอื้อง?” วินัยหน้าตึงขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นสายตาที่ชายหนุ่มมองมายังตน

“ผมแม่ทัพ อินธิรากรณ์ เป็นคนรักของน้องเอื้องครับ” แม่ทัพเอ่ยแนะนำตัว

“ไม่จริง! ก่อนหน้านี้ทำไมผมถึงไม่เห็นคุณมาก่อน” วินัยใจหายวูบ! ตั้งใจจะมาเล่นบทพระเอกปลอบใจนางเอกที่สูญเสียบิดา แต่พอมาถึงกลับมีคนแย่งบทนั้นไปเล่นก่อนแล้ว

“ก่อนหน้าไม่เห็น...แต่ตอนนี้ก็เห็นแล้วนี่ครับ” แม่ทัพบอกพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ อย่างรู้สึกสมเพชชายรุ่นพ่อที่คิดจะฟาดเด็กสาวเอ๊าะๆ

“เอ่อ...เสี่ยครับไปนั่งฟังพระสวดทางนั้นดีกว่าครับ” คงศักดิ์รีบเข้ามาเชิญ ก่อนจะเกิดมวยข้ามรุ่นขึ้นในงานศพ

“ขอตัวก่อนนะครับ” วินัยบอกก่อนจะเดินเข้าไปในงานกับคงศักดิ์และลูกน้องอีกสองคนด้วยสีหน้าตึงๆ

แม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างๆ อีกฝั่งของมารดา มองตามคนที่ลุกเดินออกไปกับนิลยาด้วยสีหน้าตึงๆ

“อย่าทำหน้าแบบนั้น หนูเอื้องเป็นเจ้าของงาน” มาลีนรีบเตือนสติของบุตรชาย

“แต่ไอ้แก่นั่นมัน...”

“ทัพ! นั่งลง นี่งานศพนะ ไม่ใช่สังเวียนชก จะทำอะไรก็ให้เกียรติคนตาย ให้เกียรติหนูเอื้อง และให้เกียรติแม่ที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย” มาลีนต่อว่าพร้อมกับดึงแขนของบุตรชายที่ลุกยืนให้นั่งลงที่เดิม

“ครับ” แม่ทัพกัดฟันตอบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

“จะเป็นฝั่งเป็นฝาอยู่แล้ว หัดใจเย็นและใช้สติเยอะๆ ใจร้อนแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะทน?”

“ผมขอโทษครับ”

“แม่ชอบหนูเอื้องนะ กิริยามารยาทเหมือนกับได้รับการอบรมมาอย่างลูกผู้ดี” มาลีนบอกพลางเหลือบมองเด็กสาวอย่างรู้สึกเอ็นดู

“ครับ” แม่ทัพขานรับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“คืนนี้พาหนูเอื้องไปนอนบ้านแม่นะ” มาลีนชวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เอ่อ...ผมคิดว่า...” คนที่อยากจะใช้เวลากับสาวเจ้าตามลำพังตอบไม่เต็มเสียง ขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวในรอยยิ้มของมารดาอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ และเขาไม่สามารถจะเดาทางได้

“แม่อยากทำความรู้จักกับว่าที่ลูกสะใภ้”

“ก็ได้ครับ” แม่ทัพรับคำ ก่อนจะหันไปมองตามสาวเจ้าที่กำลังเดินเข้าไปหาเสี่ยใหญ่ด้วยสายตาขวางๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)