ซึ่งธนาคารพิจารณาให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเธอเพิ่งบรรจุเข้าเป็นพนักงานบริษัทแค่เดือนเดียวโดยปกติกรณีแบบนี้จะกู้ไม่ได้ ผู้จัดการขออนุมัติเคสนี้ให้เป็นกรณีพิเศษเพราะเฮียมิกซ์มีเงินฝากอยู่ที่สาขานี้หลายสิบล้าน พอเธอโทรไปขอบคุณเขามิกซ์ก็บอกกับเธอว่า
‘เล็กน้อยมากเลยบลูแค่ค้ำประกันเอง เฮียเสนอให้กู้กับเฮีย จะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยบลูก็ไม่เอา แค่ค้ำประกันเองไม่มีปัญหาหรอก’
พอเขาบอกแบบนั้นเธอยิ่งรู้สึกผิดกับเขา อยากจะตอบรับเขาแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเธอไม่มีใจเหลือให้ใครอีกแล้ว ยิ่งช่วงนี้ติณห์กลับมาดีกับเธอเธอยิ่งตกหลุมรักเติณห์ลึกกว่าเดิมอีก
“คุณติณห์!”
บุรฉัตรตกใจที่เดินเข้าห้องนอนไปแล้วเจอติณห์นอนอยู่บนเตียง เขาลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียก
“กลับมาแล้วเหรอบลู รอตั้งนาน”
หืมรอตั้งนาน รออะไร เขาไม่ได้บอกเธอด้วยซ้ำว่าจะมาหา เธอเลยไม่ได้รีบร้อนอะไร อยู่ช่วยพ่อแม่จัดบ้านใหม่ แล้วก็วางแผนร่วมกันว่าจะเปิดร้านขายของชำเล็กๆที่หน้าบ้านและแม่จะทำขนมแบบที่แม่เคยทำขายตอนเธอยังเล็กมาขายที่หน้าบ้าน พ่อก็บอกว่าจะขายข้าวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้าหาเงินช่วยเธอผ่อนตึกอีกแรงด้วย
เธอต้องผ่อนตึกเดือนละสองหมื่นหกพันบาทแถมผ่อนตั้งยี่สิบห้าปี พอพ่อกับแม่รู้ว่าเธอต้องผ่อนตึกเดือนละเกือบสามหมื่นก็พากันตกใจมาก พ่อกับแม่เลยค่อนข้างกังวลอยากจะหาเงินช่วยเธอ
แม้เธอจะบอกว่าไม่ต้องห่วงให้ทำใจให้สบายเธอจะหาเอง แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ยอม บอกว่าสงสารเธอที่ต้องหาเงินคนเดียวเพื่อเลี้ยงคนทั้งบ้าน
แต่เธอไม่หนักใจเลย เธอภูมิใจมากกว่าที่ทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ แม้ว่าหลังจากนี้อาจจะต้องทำงานเหนื่อยมากหน่อยประหยัดขึ้นหน่อยเธอก็พร้อมสู้ เพื่อครอบครัวของเธอ
“ขอโทษค่ะบลูไม่รู้ว่าคุณติณห์มารอ ทำไมถึงไม่บอกล่ะคะบลูจะได้รีบ นี่ก็มัวแต่ช่วยพ่อกับแม่เก็บของอยู่”
ติณห์ลุกขึ้นนั่งแล้วยื่นมือมาหาเธอ
“เหนื่อยไหมมานั่งนี่มา”
เขาเป็นอะไร แปลกมาก บุรฉัตรมองติณห์อย่างสงสัย วันนี้ดูใจดีกว่าที่เคย มีถามด้วยว่าเหนื่อยไหม ปกติไม่เคยถามหรอกขนาดตอนอยู่บนเตียง เธอบอกว่าไม่ไหวแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมหยุด
บุรฉัตรวางของลงบนโต๊ะแล้วเดินไปนั่งบนเตียงข้างเขา ติณห์ฉุดเธอไปกอดแล้วก้มลงหอมที่ขมับ
“คิดถึงจัง”
บุรฉัตรมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ติณห์มองหน้าเหวอๆของเธอแล้วอดหัวเราะออกไม่ได้ รู้สึกอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมดเลยสินะ เด็กคนนี้
“เป็นอะไรครับบลู”
ติณห์กดจูบลงมาที่ข้างขมับอีกหนึ่งที
“คุณติณห์ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
บุรฉัตรมองเขาอย่างระแวง แม้ว่าช่วงหลังๆเขาจะไม่ได้เกรี้ยวกราดหรืออารมณ์เสียใส่เธอแล้ว แต่อีประเภทดูใจดีเกินกว่าเหตุนี่ไม่ปกติ
ติณห์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะถามเธอว่า
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ”
“ก็...วันนี้ป๋าดูอารมณ์ดีมาก นี่ถ้าเป็นคุณบารมีพ่อของบลู บลูต้องคิดว่าถูกหวยมาแน่ๆ”
ติณห์หัวเราะเสียงดัง เมื่อเธอบอกแบบนั้น
“ผมไม่ซื้อหวยบลู”
บุรฉัตรมองติณห์อย่างแปลกใจกว่าเดิม ผีอารมณ์ดีที่ไหนมาเข้าสิงพิลึกคน วัยทอง?
“บลูยังไม่ตอบคำถามผมเลยว่าคิดถึงผมไหม”
แค่น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เขาพูดกับเธอ ใจอีบลูก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว ถ้าหัวใจมันมีหางก็คงกระดิกให้เขารัวๆ ไหนจะแววตาอ่อนโยนที่มองมาอีก ตายอย่างเดียว เอาไปเผาได้เลย
“เพิ่งห่างกันสองคืนเองนะคะ จะมาคิดถึงอะไร”
ไม่อยากไว้วางใจเขาเลย เขาดูแปลกๆ จะหลอกอะไรเธออีก
“เย็นชาจัง”
“บลูซื้อตึกเท่าไหร่นะ”
ติณห์ถามเธออย่างอยากรู้ เขารู้แล้วว่าเธอเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว เธอเพิ่งทำงานแม้จะเป็นตัวแทนที่ผลงานยอดเยี่ยมแต่ระยะเวลาไม่กี่เดือนที่มาขายประกัน
ไม่น่าจะมีเงินพอซื้อตึก
“สี่ล้านห้าค่ะ แต่บลูไม่ได้ซื้อสดนะคะ บลูกู้ธนาคาร”
กู้ธนาคารเหรอ ก็ต้องผ่อนอีกใช่ไหม
“ทำไมไม่มาบอกผมล่ะ”
บุรฉัตรผงกหัวมาดูติณห์อย่างแปลกใจ บอกเขาเนี่ยนะ
“บอกคุณติณห์?บลูไม่กล้าหรอกค่ะใครจะกล้ารบกวน”
เธอกับเขาเป็นแค่ป๋ากับอีหนู จะให้เธออ้อนขอเงินเขาไปซื้อตึก เธอไม่ทำหรอก
“อ้อแล้วอีกอย่างจะให้บลูบอกว่าอะไรคะ คุณติณห์ขาบลูอยากได้ตึกค่ะ แบบนี้เหรอคะ”
ติณห์อดยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อเธอลองทำเสียงหวานอ้อนขอจากเขา
“ก็บอกประมาณนี้แหละหนู แค่หนูพูดเพราะๆขึ้นให้ป๋าทุกวัน ป๋าซื้อให้หนูได้สบายมาก”
บุรฉัตรเบ้หน้าอย่างไม่เห็นด้วย
“ไม่เอาหรอกค่ะ หาเองภูมิใจกว่า”
เธอเขี่ยเบาๆที่หน้าอกของเขา แม้จะดีใจที่ติณห์จะบอกว่าเขาซื้อให้เธอได้ แต่เธอก็รู้ดีว่า ในตอนที่ดีติณห์ดีมาก แต่ตอนที่เขาร้ายเขาก็ร้ายมากเช่นกัน เธอไม่อยากกลับไปเจ็บอีก
“แล้วไปขอกู้เงินแบบนั้น ธนาคารเขายอมปล่อยเงินกู้ด้วยเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา