ขนาดเธอที่เห็นเขาในทุกลุคแม้แต่ตอนไม่ใส่เสื้อผ้า ยังอดใจสั่นกับความหล่อมีเสน่ห์ของเขาในวันนี้ไม่ได้เลย นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ไม่อยากอยู่นานเพราะกลัวจะมีพิรุธ
“คุณติณห์คะ น้องตัวแทนในสำนักงานของพราวผ่านควอลิฟายแต่ติดธุระไปไม่ได้ ขอถ่ายรูปคู่กับคุณติณห์ไว้เป็นโปรไฟล์หน่อยได้ไหมคะ”
พราวตาเอ่ยปากขอ ติณห์เหลือบตามามองบุรฉัตร ตาสบกันอีกครั้ง บุรฉัตรหลบตาเขาพยายามทำหน้านิ่งๆ แต่ก่อนตอนที่เธอแอบปลื้มเขา เธอคงตัวลอยและดีใจมากที่ได้เจอติณห์แบบนี้
แต่วันนี้มันหน่วงๆในใจแปลกๆ อยู่ใกล้แค่นี้แต่เอื้อมไม่ถึง
“ได้สิครับ”
ติณห์ยิ้มกว้างให้พราวตา แล้วเดินเข้ามาหาเธอ
บุรฉัตรไม่รู้จะทำหน้ายังไงเพราะทำตัวไม่ถูก สนิทสนมเกินไปก็กลัวเขาจะว่า เฉยชาเกินไปก็กลัวคนอื่นจะสงสัย เพราะใครๆก็ตื่นเต้นกระดี๊กระด๊ากันทั้งนั้นที่ได้ถ่ายรูปคู่กับติณห์
บุรฉัตรบังคับให้ตัวเองยิ้มน้อยๆและยืนเรียบร้อยอยู่ข้างๆเขา
“บลู มาเจ๊ถ่ายให้เอามือถือมา”
บุรฉัตรกำลังจะยื่นมือถือให้ แต่ก็ดึงคืนเมื่อนึกได้ว่ารูปวอลล์เปเปอร์ในมือถือเธอคือรูปคู่ของเธอกับติณห์
“เจ๊ บลูขอยืมโทรศัพท์เจ๊ถ่ายแทนได้ไหม พอดีมือถือบลูถ่ายไม่สวย แล้วก็เอ่อแบตจะหมดด้วย”
บุรฉัตรยัดมือถือไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม พราวตาเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาถ่ายแทน
ติณห์มองพฤติกรรมของบุรฉัตรอย่างสงสัย ทำอะไรลับๆล่อๆ จะมาบอกว่าถ่ายไม่สวยอะไร เขาซื้อรุ่นที่ดีที่สุดให้เธอ
และมือถือของบุรฉัตรก็แบตเต็มตลอด
เพราะเขาสั่งว่าเธอต้องติดต่อได้ตลอดเวลา
ติณห์ไปยืนข้างเธอ ร่างเล็กที่สูงเลยไหล่เขามานิดเดียวทั้งที่ใส่ส้นสูงยืนนิ่งจนเหมือนเกร็ง
เกร็งขนาดนี้เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี
แต่ก่อนเธอร่าเริงจะตายเวลามาขอถ่ายรูปกับเขา ดูสิ ยืนจนเหมือนเคารพธงชาติ
“ถ่ายอีกรูปดีไหมครับคุณพราว ผมว่าเด็กในความดูแลของคุณพราวดูเกร็งๆไปนะครับ”
ติณห์แกล้งพูดออกมา พราวตาเสริมทันที
“จริงด้วยบลู เป็นอะไร ทุกทีเห็นยิ้มกว้างเวลาถ่ายรูปกับคุณติณห์”
แนทตี้เห็นท่าไม่ดี เลยช่วยคลี่คลายสถานการณ์แกล้งบอกว่า
“บลูแกเขินเหรอ อยากถ่ายแบบเซลฟี่กับคุณติณห์ใช่ไหมฉันรู้นะ เจ๊มันเขินมันเลยเกร็ง”
บุรฉัตรขยิบตาให้แนทตี้ บอกว่าอย่าเล่น แต่คนอื่นกลับมองว่าบุรฉัตรส่งซิกให้แนทตี้ชง เลยพากันหัวเราะกันใหญ่
“นั่นไงเห็นไหมเจ๊ มันอยากเซลฟี่”
เมื่อชงมาแบบนั้นติณห์เลยแสดงความมีน้ำใจต่อหน้าทุกคน
“มาครับใช้โทรศัพท์ผมก่อนก็ได้”
ติณห์ยื่นโทรศัพท์มาข้างหน้าแล้วก้มหน้าลงมาใกล้เธอ แล้วกดถ่ายเซลฟี่
บุรฉัตรเกร็งไปหมดเมื่อลมหายใจอุ่นจนร้อนของติณห์ปะทะข้างแก้ม นึกตำหนิติณห์ว่าไม่ระวังตัวเอาเสียเลย เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี
“เป็นอะไรทำไมเกร็งขนาดนั้น เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยเอาหรอก หรืออยากให้คนอื่นรู้? ”
“คุณติณห์!”
ก่อนที่ทั้งคู่จะถกเถียงกันมากกว่านี้ แนทตี้ที่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆเห็นท่าไม่ดีเลยรีบปราม เพราะหลายคนที่ไปรอรับเอกสารจากทัวร์ลีดเดอร์เริ่มทยอยเดินมาทางนี้แล้ว
“บลู เราไปกันเลยไหม
บุรฉัตรหันมาลาติณห์
“บลูไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้เขาแล้วกำลังจะเดินออกไป
“อยู่ที่นี่ก็ทำตัวดีดีล่ะ อย่ามัวแต่ออกไปหาลูกค้า จนไม่รู้เวล่ำเวลา สำนึกไว้บ้างว่าผมซื้อคุณแล้ว”
ถ้อยคำบาดหูที่ติณห์พูดออกมามันบาดใจของเธอมาก พักนี้เขาย้ำเตือนแบบนี้กับเธอบ่อยๆว่าเธอมันเป็นผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงิน
ซื้อได้ด้วยเงินแล้วยังไงล่ะ เขาต้องดูถูกเธอขนาดนี้ด้วยเหรอ เธอก็คนนะมีความรู้สึก เจ็บเป็นเสียใจเป็นร้องไห้เป็น ทำไมต้องดูถูกกันด้วย
“ค่ะบลูสำนึกอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลนะคะ ตราบใดที่เงินยังเข้าบัญชีบลูตรงเวลา บลูจะไม่รับลูกค้าคนอื่นแน่นอนค่ะ คุณติณห์สบายใจได้”
บุรฉัตรพูดจบก็หันหลังเดินจากไป ติณห์ได้แต่มองตามด้วยความโมโห
หน้าเงิน!เห็นแก่ได้!
สี่วันแล้วที่ติณห์ไปฝรั่งเศส ไม่มีแม้แต่ข้อความสักข้อความจากเขา จะคาดหวังอะไรล่ะก่อนไปก็ฟาดฟันกันขนาดนั้น กลับมาเขาอาจจะยกเลิกสัญญากับเธอก็ได้
ยกเลิกก็ดีเหมือนกัน จะได้รับเงินก้อนมาทีเดียวโทษฐานที่เขาเป็นฝ่ายผิดสัญญา เงินก็ได้ แถมยังไม่ต้องทรมานจิตใจแบบนี้ด้วย นี่แค่ไม่กี่เดือนเขายังทำเธอเจ็บขนาดนี้ อยู่ต่อไปก็จะยิ่งเจ็บ ถ้าเธอไม่รักเขาบางทีอาจจะเจ็บน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่รักทั้งใจแล้วเขากลับใจร้ายกับเธอแบบนี้ มันเจ็บจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา