“หืม?”
เยี่ยชิวแปลกใจเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกได้ว่า มังกรน้ำทั้งสองตัวนี้ดูเหมือนหวาดกลัวเขา
“ทำไมพวกมันถึงได้กลัวผมล่ะ?”
เยี่ยชิวสังเกตมังกรน้ำทั้งสองอย่างระมัดระวัง ไม่นาน เขาก็รู้สาเหตุ
เขาสังเกตเห็นว่ามังกรน้ำทั้งสองตัวมักจะจ้องมองไปที่หม้อเฉียนคุนบนศีรษะของเขาอยู่หลายครั้งด้วยความกังวล
“ผมรู้แล้ว พวกมันไม่ได้กลัวผมหรอก แต่พวกมันกลัวหม้อเฉียนคุนต่างหาก”
เมื่อเยี่ยชิวเห็นว่ามังกรน้ำทั้งสองหยุดโจมตีเขา ก็ถามขึ้นว่า “ตาเฒ่า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
อมตะชางเหม่ยตอบกลับว่า “ข้ายังมีชีวิตอยู่ ยังตายไม่ได้”
“ยังมีแรงอยู่หรือเปล่า?”
“มี!”
“อย่าชักช้า รีบใช้โอกาสนี้รีบเอามันมา”เยี่ยชิวกล่าว
“ขอบใจมาก”อมตะชางเหม่ยกล่าวคำขอบคุณแล้วรีบลอยตัวเข้าไปหาแสงสีขาวนั่นทันที
เกือบจะเวลาเดียวกันที่มังกรน้ำทั้งสองตัวก็มีการเคลื่อนไหว
เคลื่อนตัวไปด้านหน้าอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของอมตะชางเหม่ยเพื่อขัดขวาง
“ฉันขอเตือนพวกแกอีกครั้งนะ รีบหลบไปซะ ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าฉันใจร้าย”
เยี่ยชิวพูดจบ เขานำหม้อเฉียนคุนออกมา
ทันใดนั้น มังกรน้ำทั้งสองก็ถอยออกไปหลายสิบเมตร นัยตาหวาดกลัว
แต่ทว่า พวกมันยังคงอยู่หน้าแสงสีขาวกลุ่มนั้น ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ต้องการให้อมตะฉางเหม่ยเข้าไปถึงสมบัติได้
“ทำไม พวกแกอยากจะสู้ให้ถึงที่สุดงั้นเหรอ?”
เยี่ยชิวเรียกหม้อเฉียนคุนใบที่สามออกมา
หม้อเฉียนคุนทั้งสาม แสดงพลังของจักรพรรดิที่น่าหวาดกลัวออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวณของมังกรน้ำทั้งสอง
วินาทีต่อมา มังกรน้ำทั้งสองก้มหัวและหมอบลงบนผิวน้ำดูคล้ายกับพวกมันกำลังคุกเข่าลงกราบ
“ไอ้เด็กเปรต หม้อเฉียนคุนเหล่านั้นของเจ้าไม่เลวเลยนี่” อมตะชางเหม่ยกล่าว
“หยุดพูดไร้สาระแล้วรีบเอาสมบัตินั้นมาให้ได้เถอะ” เยี่ยชิวเร่งเร้า
ถึงแม้ว่า มังกรน้ำสองตัวจะกลัวหม้อเฉียนคุน แต่เยี่ยชิวก็ยังคงกังวลอยู่ดี ถ้าหากว่ามังกรน้ำสองตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวาง เขาและอมตะชางเหม่ยคงจะเจอกับปัญหาใหญ่แน่ๆ
ยิ่งกว่านั้น พลังยุทธ์ของเขายังไม่ฟื้นตัวดีนัก เดิมทีก็ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของมังกรน้ำทั้งสองตัวนี่หรอกนะ
“ไอ้เด็กเปรต ขอบใจมากที่เจ้ามีน้ำใจกับข้า ไว้เสร็จเรื่องที่นี่เมื่อไหร่ ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้าแล้วกัน”
อมตะชางเหม่ยพูดจบ ก็ลอยตัวออกไปอย่างเร็วคว้าแสงสีขาวนั่นเอาไว้ในฝ่ามือของเขา
มังกรน้ำทั้งสองไม่มีท่าทีที่จะขัดขวางอีกต่อไป
ในใจของอมตะชางเหม่ยตื่นเต้นมาก ตอนนี้เวลานี้เขารู้สึกเหมือนน้ำตาปริ่ม
“บรรพบุรุษในอดีตของภูเขาหลงหู่ พวกท่านเห็นหรือยัง สมบัติล้ำค่าที่พวกท่านหาไม่เจอ วันนี้มันอยู่ในมือของลูกศิษย์แล้ว”
เขามองดูและกำลังที่จะคว้าแสงสีขาวนั่นมาไว้ในมือ ทันใดนั้น ก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
“ตูม!”
กลุ่มแสงสีขาวระเบิดแสงสว่างออกมา ทันใดนั้นอมตะชางเหม่ยรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลราวกับทะเลที่มีคลื่นและซัดเขาตกลงไปในน้ำ
“ตาเฒ่า!”
เยี่ยชิวส่งเสียงร้องทันที
ร่างของอมตะชางเหม่ยพุ่งออกมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว ตัวของเขาเปียกชุ่มปากมีเลือดไหลออกมา เขาเหมือนลูกหมาตกน้ำและอับอายมาก
“ไอ้เวรเอ้ย สมบัติล้ำค่าจะได้มาง่ายๆเสียเมื่อไหร่” อมตะชางเหม่ยพูดไปด่าไป
เขามองไปที่แสงสีขาวกลุ่มนั้นอีกครั้ง มันเหมือนกับพระอาทิตย์ที่ย่อส่วน แสงของมันสว่างจ้าจนไม่กล้าที่จะจ้องมองโดยตรง
“ตาเฒ่า ท่านรู้มั้ยว่าเจ้านี่คือสมบัติล้ำค่าอะไร?” เยี่ยชิวถามขึ้น
“ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะ ไม่งั้นข้าจะมาหลงเหมินทำไมกัน?” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็พุ่งตัวไปด้านหน้าแสงสีขาวอีกครั้ง
เพราะว่าไข่มุกเม็ดนี้ คือสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้และมีคุณค่าอย่างมาก
“มีข่าวลือในโลกว่า ไข่มุกซุยโหวอยู่ในสุสานของกษัตริย์ฉินซี คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้”
จู่ๆเยี่ยชิวก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย หากเขารู้ว่าสมบัติล้ำค่าคือไข่มุกซุยโหว เขาคงไม่รับปากอมตะชางเหม่ยว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้
“สมบัติที่ดีขนาดนี้ ถ้าหากเอากลับไปให้พี่หลิน พี่หลินต้องดีใจมากแน่ๆ น่าเสียดายที่ไข่มุกเม็ดนี้ถูกตาเฒ่าสอยไปซะแล้ว”
เยี่ยชิวถอนหายใจในใจ
“ไอ้เด็กเปรต จะบอกความลับเจ้าอย่างนึง”
“ไข่มุกซุยโหวไม่ใช่ไข่มุกราตรีธรรมดา มันมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกเป็นเซียนอย่างมากเลยล่ะ”
“ไม่อย่างนั้น เจ้าคิดว่าบรรพบุรุษภูเขาหลงหู่ของเรานั้นกินเยอะเกินไป ไม่มีอะไรจะทำ เลยต้องตามหาไข่มุกเม็ดนี้งั้นหรือ?”
หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็ยื่นมือออกมาและถือไข่มุกซุยโหวไว้ในมือ
“ในที่สุดข้าก็ได้สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้มาแล้ว ต่อจากนี้ข้าก็สามารถ…”
ไม่ทันพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด “โอ้ยๆๆๆ”
เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้น เห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของอมตะชางเหม่ย และมือที่จับไข่มุกซุยโหวแดงไปทั่วฝ่ามือ ราวกับถูกไฟเผา
“ตาเฒ่า เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?”เยี่ยชิวรีบถามทันที
อมตะชางเหม่ยรีบดึงมือกลับมาและกล่าวว่า “ไข่มุกเม็ดนี้ช่างแปลกประหลาด มันร้อนแผดเผายิ่งเสียกว่าอะไร”
“หืม?”เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจ
อมตะชางเหม่ยพยายามลองอีกหลายครั้ง แม้กระทั่งใช้วิชาลับต่างๆแล้วก็ยังไม่เป็นผล สุดท้ายเขาก็จับไข่มุกซุยโหวไม่ได้ มือขวาของเขาถูกไฟไหม้และเต็มไปด้วยแผลพุพอง
ตอนที่หมดหนทาง
อมตะชางเหม่ยทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเยี่ยชิวเท่านั้น “ไอ้เด็กเปรต ข้าจำได้ว่าเนื้อหนังของเจ้าไม่ปกติ เจ้าลองดูหน่อยซิ”
เยี่ยชิวเดินไปและถือไข่มุกซุยโหวอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น ความรู้สึกหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
“ทำไมผมถึงไม่รู้สึกร้อนเลยสักนิดล่ะ”เยี่ยชิวไม่ทันจะพูดจบ ไข่มุกซุยโหวก็แตกสลายบนฝ่ามือของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...