วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1200

“หืม?”

เยี่ยชิวแปลกใจเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกได้ว่า มังกรน้ำทั้งสองตัวนี้ดูเหมือนหวาดกลัวเขา

“ทำไมพวกมันถึงได้กลัวผมล่ะ?”

เยี่ยชิวสังเกตมังกรน้ำทั้งสองอย่างระมัดระวัง ไม่นาน เขาก็รู้สาเหตุ

เขาสังเกตเห็นว่ามังกรน้ำทั้งสองตัวมักจะจ้องมองไปที่หม้อเฉียนคุนบนศีรษะของเขาอยู่หลายครั้งด้วยความกังวล

“ผมรู้แล้ว พวกมันไม่ได้กลัวผมหรอก แต่พวกมันกลัวหม้อเฉียนคุนต่างหาก”

เมื่อเยี่ยชิวเห็นว่ามังกรน้ำทั้งสองหยุดโจมตีเขา ก็ถามขึ้นว่า “ตาเฒ่า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

อมตะชางเหม่ยตอบกลับว่า “ข้ายังมีชีวิตอยู่ ยังตายไม่ได้”

“ยังมีแรงอยู่หรือเปล่า?”

“มี!”

“อย่าชักช้า รีบใช้โอกาสนี้รีบเอามันมา”เยี่ยชิวกล่าว

“ขอบใจมาก”อมตะชางเหม่ยกล่าวคำขอบคุณแล้วรีบลอยตัวเข้าไปหาแสงสีขาวนั่นทันที

เกือบจะเวลาเดียวกันที่มังกรน้ำทั้งสองตัวก็มีการเคลื่อนไหว

เคลื่อนตัวไปด้านหน้าอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของอมตะชางเหม่ยเพื่อขัดขวาง

“ฉันขอเตือนพวกแกอีกครั้งนะ รีบหลบไปซะ ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าฉันใจร้าย”

เยี่ยชิวพูดจบ เขานำหม้อเฉียนคุนออกมา

ทันใดนั้น มังกรน้ำทั้งสองก็ถอยออกไปหลายสิบเมตร นัยตาหวาดกลัว

แต่ทว่า พวกมันยังคงอยู่หน้าแสงสีขาวกลุ่มนั้น ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ต้องการให้อมตะฉางเหม่ยเข้าไปถึงสมบัติได้

“ทำไม พวกแกอยากจะสู้ให้ถึงที่สุดงั้นเหรอ?”

เยี่ยชิวเรียกหม้อเฉียนคุนใบที่สามออกมา

หม้อเฉียนคุนทั้งสาม แสดงพลังของจักรพรรดิที่น่าหวาดกลัวออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวณของมังกรน้ำทั้งสอง

วินาทีต่อมา มังกรน้ำทั้งสองก้มหัวและหมอบลงบนผิวน้ำดูคล้ายกับพวกมันกำลังคุกเข่าลงกราบ

“ไอ้เด็กเปรต หม้อเฉียนคุนเหล่านั้นของเจ้าไม่เลวเลยนี่” อมตะชางเหม่ยกล่าว

“หยุดพูดไร้สาระแล้วรีบเอาสมบัตินั้นมาให้ได้เถอะ” เยี่ยชิวเร่งเร้า

ถึงแม้ว่า มังกรน้ำสองตัวจะกลัวหม้อเฉียนคุน แต่เยี่ยชิวก็ยังคงกังวลอยู่ดี ถ้าหากว่ามังกรน้ำสองตัวพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวาง เขาและอมตะชางเหม่ยคงจะเจอกับปัญหาใหญ่แน่ๆ

ยิ่งกว่านั้น พลังยุทธ์ของเขายังไม่ฟื้นตัวดีนัก เดิมทีก็ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของมังกรน้ำทั้งสองตัวนี่หรอกนะ

“ไอ้เด็กเปรต ขอบใจมากที่เจ้ามีน้ำใจกับข้า ไว้เสร็จเรื่องที่นี่เมื่อไหร่ ข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้าแล้วกัน”

อมตะชางเหม่ยพูดจบ ก็ลอยตัวออกไปอย่างเร็วคว้าแสงสีขาวนั่นเอาไว้ในฝ่ามือของเขา

มังกรน้ำทั้งสองไม่มีท่าทีที่จะขัดขวางอีกต่อไป

ในใจของอมตะชางเหม่ยตื่นเต้นมาก ตอนนี้เวลานี้เขารู้สึกเหมือนน้ำตาปริ่ม

“บรรพบุรุษในอดีตของภูเขาหลงหู่ พวกท่านเห็นหรือยัง สมบัติล้ำค่าที่พวกท่านหาไม่เจอ วันนี้มันอยู่ในมือของลูกศิษย์แล้ว”

เขามองดูและกำลังที่จะคว้าแสงสีขาวนั่นมาไว้ในมือ ทันใดนั้น ก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

“ตูม!”

กลุ่มแสงสีขาวระเบิดแสงสว่างออกมา ทันใดนั้นอมตะชางเหม่ยรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลราวกับทะเลที่มีคลื่นและซัดเขาตกลงไปในน้ำ

“ตาเฒ่า!”

เยี่ยชิวส่งเสียงร้องทันที

ร่างของอมตะชางเหม่ยพุ่งออกมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว ตัวของเขาเปียกชุ่มปากมีเลือดไหลออกมา เขาเหมือนลูกหมาตกน้ำและอับอายมาก

“ไอ้เวรเอ้ย สมบัติล้ำค่าจะได้มาง่ายๆเสียเมื่อไหร่” อมตะชางเหม่ยพูดไปด่าไป

เขามองไปที่แสงสีขาวกลุ่มนั้นอีกครั้ง มันเหมือนกับพระอาทิตย์ที่ย่อส่วน แสงของมันสว่างจ้าจนไม่กล้าที่จะจ้องมองโดยตรง

“ตาเฒ่า ท่านรู้มั้ยว่าเจ้านี่คือสมบัติล้ำค่าอะไร?” เยี่ยชิวถามขึ้น

“ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะ ไม่งั้นข้าจะมาหลงเหมินทำไมกัน?” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็พุ่งตัวไปด้านหน้าแสงสีขาวอีกครั้ง

เพราะว่าไข่มุกเม็ดนี้ คือสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้และมีคุณค่าอย่างมาก

“มีข่าวลือในโลกว่า ไข่มุกซุยโหวอยู่ในสุสานของกษัตริย์ฉินซี คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมาอยู่ที่นี่ได้”

จู่ๆเยี่ยชิวก็รู้สึกเสียดายนิดหน่อย หากเขารู้ว่าสมบัติล้ำค่าคือไข่มุกซุยโหว เขาคงไม่รับปากอมตะชางเหม่ยว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้

“สมบัติที่ดีขนาดนี้ ถ้าหากเอากลับไปให้พี่หลิน พี่หลินต้องดีใจมากแน่ๆ น่าเสียดายที่ไข่มุกเม็ดนี้ถูกตาเฒ่าสอยไปซะแล้ว”

เยี่ยชิวถอนหายใจในใจ

“ไอ้เด็กเปรต จะบอกความลับเจ้าอย่างนึง”

“ไข่มุกซุยโหวไม่ใช่ไข่มุกราตรีธรรมดา มันมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกเป็นเซียนอย่างมากเลยล่ะ”

“ไม่อย่างนั้น เจ้าคิดว่าบรรพบุรุษภูเขาหลงหู่ของเรานั้นกินเยอะเกินไป ไม่มีอะไรจะทำ เลยต้องตามหาไข่มุกเม็ดนี้งั้นหรือ?”

หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็ยื่นมือออกมาและถือไข่มุกซุยโหวไว้ในมือ

“ในที่สุดข้าก็ได้สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้มาแล้ว ต่อจากนี้ข้าก็สามารถ…”

ไม่ทันพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด “โอ้ยๆๆๆ”

เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้น เห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของอมตะชางเหม่ย และมือที่จับไข่มุกซุยโหวแดงไปทั่วฝ่ามือ ราวกับถูกไฟเผา

“ตาเฒ่า เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?”เยี่ยชิวรีบถามทันที

อมตะชางเหม่ยรีบดึงมือกลับมาและกล่าวว่า “ไข่มุกเม็ดนี้ช่างแปลกประหลาด มันร้อนแผดเผายิ่งเสียกว่าอะไร”

“หืม?”เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจ

อมตะชางเหม่ยพยายามลองอีกหลายครั้ง แม้กระทั่งใช้วิชาลับต่างๆแล้วก็ยังไม่เป็นผล สุดท้ายเขาก็จับไข่มุกซุยโหวไม่ได้ มือขวาของเขาถูกไฟไหม้และเต็มไปด้วยแผลพุพอง

ตอนที่หมดหนทาง

อมตะชางเหม่ยทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเยี่ยชิวเท่านั้น “ไอ้เด็กเปรต ข้าจำได้ว่าเนื้อหนังของเจ้าไม่ปกติ เจ้าลองดูหน่อยซิ”

เยี่ยชิวเดินไปและถือไข่มุกซุยโหวอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้น ความรู้สึกหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา

“ทำไมผมถึงไม่รู้สึกร้อนเลยสักนิดล่ะ”เยี่ยชิวไม่ทันจะพูดจบ ไข่มุกซุยโหวก็แตกสลายบนฝ่ามือของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ