แววตาของหญิงสาวแฝงด้วยประกายเยียบเย็น ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา
"ชวับ ชวับ ชวับ!"
ร่างเงานับสิบปรากฏขึ้นจากความมืดของสายฝนกลางดึก ล้อมรอบศาลาจากทุกทิศทุกทาง
ทุกคนสวมชุดดำสำหรับเคลื่อนไหวกลางคืน ศีรษะสวมหมวกงอบ ใบหน้าใช้ผ้าดำปิดบัง มีเพียงแววตาอันเย็นชาเท่านั้นที่จับจ้องมายังหญิงสาวในศาลา
ในมือของแต่ละคน ล้วนถือกริช ที่แวววาววับ
นักฆ่า!
หญิงสาวกลับไม่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ใบหน้านิ่งสงบ กวาดตามองเหล่านักฆ่า ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆปรากฏบนใบหน้า
"สาวน้อย เจ้าไม่คิดจะถามหน่อยหรือว่าพวกเราเป็นใคร?"
หัวหน้านักฆ่าคนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มเย็นเยียบ
หญิงสาวเอ่ยอย่างเย็นชา “พวกเจ้าก็แค่พวกหนูขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผยโฉมหน้าจริง มีอะไรให้น่าถาม?”
“โอ้ ดูไม่ออกเลยนะ ว่าหญิงสาวตัวเล็กๆแบบนี้จะกล้าหาญถึงเพียงนี้ ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ” หัวหน้านักฆ่าพูดเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “น่าเสียดาย...ที่เจ้ากำลังจะตายแล้ว”
“พูดตามตรง เห็นเจ้าสวยขนาดนี้ ข้ายังไม่อยากลงมือฆ่าเลย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเจ้าเป็นเชื้อสายราชวงศ์ต้าโจว...”
คำพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกหญิงสาวขัดขึ้นกลางคัน
“ตกลงพวกเจ้าเป็นนักฆ่า หรือเป็นแสมาคมม่บ้านกันแน่ พูดจาไร้สาระอะไรกันนักหนา?”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา เหล่านักฆ่าก็พากันโกรธเกรี้ยวทันที
“บังอาจ เจ้ากล้าพูดกับพวกเราแบบนี้ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”
"แค่เด็กสาวตัวเล็กๆคนนึง กล้าดูถูกพวกเรา แบบนี้ตายไปก็ไม่เสียดาย!"
"ฆ่านางซะ!"
"……"
แม้จะเผชิญกับเสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวของเหล่านักฆ่า สีหน้าของหญิงสาวกลับสงบนิ่ง ราวกับบ่อน้ำลึกไร้คลื่น ดูเงียบสงบจนเกินไป
"ถ้าอยากจะฆ่าข้า ก็รีบลงมือเถอะ มิฉะนั้นหากองครักษ์ของข้ามาถึง พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว"
เมื่อหัวหน้านักฆ่าได้ยินคำพูดของนาง ก็หัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า "เคยเจอคนอยากตาย แต่ไม่เคยเจอใครกระตือรือร้นอยากตายขนาดนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะส่งเจ้าไปเอง"
"สาวน้อย ลาก่อนตลอดกาล"
พูดจบ นักฆ่าคนนั้นก็กำมีดกริชไว้แน่น แล้วพุ่งเข้าหาหญิงสาวทันที ทันใดนั้น บนใบมีดกริชก็ปลดปล่อยไอสังหารเย็นเยียบออกมา หนาวเหน็บราวกับน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิรอบๆดูเหมือนจะลดต่ำลงจนติดลบ
มือขวาของหญิงสาวที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ แอบกำแน่นอย่างเงียบงัน ในขณะเดียวกัน ดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นแวววาวดุดัน
ขณะที่นักฆ่าคนนั้นกำลังจะเข้าถึงตัวหญิงสาว แต่ใครจะรู้ว่าทันใดนั้น ก็มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
"ฟิ้ว!"
พลังแห่งดาบสายหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน เจาะทะลุกลางหว่างคิ้วของนักฆ่าคนนั้น ในพริบตา เขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง ตายทั้งที่ยังลืมตา
“ใคร?”
นักฆ่าคนอื่นๆพากันตกใจ รีบหันไปมองด้านหลังของหญิงสาว
หญิงสาวเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย นางหันไปมองข้างหลัง แล้วในดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจออกมา
“ทำไมถึงเป็นเขา?”
ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความงุนงง
ผู้ที่ลงมือไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเยี่ยชิว
เยี่ยชิวในชุดขาว สง่างามราวหยกงาม มือไพล่หลังเดินเข้ามาช้าๆ อย่างสงบนิ่ง
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”
นักฆ่าคนหนึ่งตะโกนถาม
แต่เยี่ยชิวทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างหญิงสาว แล้วเอ่ยถามด้วยความห่วงใย “แม่นางโหรวเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หญิงสาวส่ายศีรษะเบาๆ
เยี่ยชิวหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงละเมียดละไม “มีคำกล่าวว่า ‘เมื่อดอกไม้บานสวย ควรเด็ดทันที อย่ารอจนเหลือแต่กิ่งว่างเปล่าไร้ดอก’ ของสวยงามเช่นดอกไม้ มอบให้หญิงงาม ย่อมเหมาะสมที่สุด”
เมื่อหญิงสาวได้ยินเช่นนั้น หน้าก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ เพื่อไม่ให้เยี่ยชิวเห็นความเขินอายของตน นางจึงรีบก้มหน้าลง
และในตอนนั้นเอง เหล่าทหารองครักษ์ของนางก็มาถึง
เมื่อเห็นศพกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น หล่าวเจ่อก็รีบถามด้วยความเป็นห่วง “คุณหนู ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ “ข้าไม่เป็นไร”
“คุณชายผู้นี้คือใครหรือขอรับ?” หล่าวเจ่อผู้เป็นองครักษ์เอ่ยถามพลางมองไปยังเยี่ยชิว
“อ๋อ ลุงจู ข้าแนะนำให้รู้จัก นี่คือคุณชายเยี่ย เยี่ยชิว เมื่อครู่มีนักฆ่าพยายามจะฆ่าข้า เขาช่วยชีวิตข้าไว้” จากนั้นหญิงสาวจึงหันไปกล่าวกับเยี่ยชิว “คุณชายเยี่ย นี่คือลุงจู”
ลุงจูยิ้มกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “คุณชายเยี่ย ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตคุณหนูไว้”
“ลุงจูไม่ต้องเกรงใจหรอก” เยี่ยชิวกล่าวว่า “แม่นางโหรวเอ๋อร์ นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าขอตัวกลับห้องไปพักก่อน ราตรีสวัสดิ์”
หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ “ราตรีสวัสดิ์”
นางยืนมองเยี่ยชิวค่อยๆเดินห่างออกไป ยังคงไม่ยอมละสายตา
เมื่อเยี่ยชิวจากไปแล้ว จู่ๆลุงจูและองครักษ์อีกสี่คนก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าหญิงสาวทันที
“คุณหนู ข้าทั้งหลายปกป้องท่านไม่ดี ขอท่านลงโทษด้วยเถิด” ลุงจูเอ่ย
หญิงสาวดึงสติกลับมา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเมตตา “ลุงจู เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า อีกอย่าง ข้าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมิใช่หรือ?”
ลุงจูกล่าวว่า “แต่ว่า...”
“พอเถอะ ลุกขึ้นกันได้แล้ว!” แม้ถ้อยคำของหญิงสาวจะอ่อนโยน แต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจขัดขืน
ลุงจูและองครักษ์ทั้งสี่จึงลุกขึ้นยืนตามคำสั่ง
“คุณหนู จะให้ข้าสืบหาที่มาของพวกนักฆ่าหรือไม่?” ลุงจูถาม
“อย่าไปเสียเวลากับคนตายเลย” หญิงสาวพูดจบ ก็เหลือบมองดอกท้อในมือ แล้วยิ้มเล็กน้อยอย่างสดใส และหันหลังเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...