เยี่ยชิวไม่อยากฟังอีกต่อไปแล้ว เขาจึงก้าวเดินไปข้างหน้า
"ไอ้เด็กเปรต เจ้าจะไปไหน? ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ" อมตะชางเหม่ยวิ่งตามไป แล้วยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไปว่า "จริงๆ นะ ขอแค่ได้ตัวจิ้นปิงหยุนมา ผลประโยชน์ก็มีไม่สิ้นสุด เจ้าลองคิดดูสิ"
"พอเถอะ อย่ามาเสนอความคิดโง่ๆ เลย" เยี่ยชิวกล่าว "พวกเราจะไปสำรวจบริเวณหอเด็ดดาว"
อมตะชางเหม่ยก็จับความคิดของเยี่ยชิวได้ในทันที แล้วถามว่า "เจ้าคิดจะเข้าไปตอนกลางวันงั้นหรือ?"
"แล้วจะให้เข้าไปตอนไหนล่ะ?" เยี่ยชิวถามกลับ
อมตะชางเหม่ยกล่าว "ข้าว่าพวกเราเข้าไปตอนกลางคืนน่าจะดีกว่านะ ตอนกลางคืนเหมาะกับการลงมือมากกว่า อีกอย่างตอนกลางคืนผู้คนก็เงียบสงบ บางทีเจ้ากับจิ้นปิงหยุนอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้นะ"
"พูดดีๆ ไม่ได้หรือ?" เยี่ยชิวกล่าว "ครั้งนี้มีเวลาจำกัด ยิ่งได้พบจิ้นปิงหยุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งไขปริศนาได้เร็วขึ้นเท่านั้น"
อมตะชางเหม่ยหัวเราะอย่างลามก "จิ้นปิงหยุนก็แน่น..."
"หุบปาก!" เยี่ยชิวตำหนิอมตะชางเหม่ย "ไอ้แก่ เจ้าดูสภาพของเจ้าตอนนี้สิ ยังมีภาพลักษณ์ของคนในสำนักเต๋าเหลืออยู่บ้างไหม?"
อมตะชางเหม่ยบ่นพึมพำว่า "ข้าก็หวังดีกับเจ้าไม่ใช่หรือ"
"ความหวังดีของเจ้า ข้าไม่มีวาสนาจะรับมันหรอก" เยี่ยชิวพูดอย่างหัวเสีย
อมตะชางเหม่ยเบ้ปาก แล้วกล่าวว่า "หวังว่าเมื่อเจ้าได้ตัวจิ้นปิงหยุนมาแล้ว จะยังพูดแบบนี้อยู่นะ"
เยี่ยชิวหยุดก้าว แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ไอ้แก่ เจ้าต้องจำไว้ว่า ครั้งนี้พวกเรามาทำเรื่องใหญ่"
"เจ้าห้ามทำเรื่องวุ่นวาย และห้ามมีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา ทุกการกระทำต้องฟังคำสั่งจากข้า เข้าใจไหม?"
"เข้าใจ เข้าใจ" อมตะชางเหม่ยพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
"หากเจ้ากล้าก่อเรื่อง ข้าจะจัดการเจ้าเป็นแน่" เยี่ยชิวพูดคำขู่แล้วก็เดินต่อไป
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้หอเด็ดดาวมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าหอเด็ดดาวไม่ธรรมดา
หอคอยสูงตระหง่านเสียดฟ้า ราวกับสามารถเอื้อมถึงดวงดาวได้
ในแต่ละชั้นก็มีการออกแบบเชิงชายคาและค้ำยันที่สลับซับซ้อนอย่างประณีต ซ้อนกันไปมาเหมือนกับยอดเขาที่เรียงซ้อนกัน
เยี่ยชิวหยุดก้าวอีกครั้ง
หอเด็ดดาวถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ในรัศมีห้าลี้ ด้านนอกก็มีทหารลาดตระเวน เยี่ยชิวสำรวจดูแล้วก็พบว่าที่นี่เหมือนกับอุทยานหลวง
หอเด็ดดาวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางอุทยาน
ประตูอุทยานอยู่ข้างถนน แต่ก็ถูกปิดไว้ มีหินสลักสูงสามจื่อตั้งอยู่หน้าประตู แกะสลักคำหกคำไว้
"ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า!"
เยี่ยชิวสำรวจอย่างเงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้างูให้ตื่น เขาก็ไม่ได้ปล่อยจิตสัมผัสออกมา
"ไอ้แก่ เตรียมตัวให้พร้อม พวกเราจะเข้าไป" เยี่ยชิวกล่าว
อมตะชางเหม่ยกล่าว "เจ้าจะเข้าไปตอนกลางวันจริงๆ หรือ? ข้าคิดว่าเมื่อกี้เจ้าล้อเล่นซะอีก"
เยี่ยชิวกล่าว "เวลามีจำกัด การได้พบกันเร็วย่อมดีกว่า"
"ก็ได้ ข้าจะเชื่อฟังเจ้า ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าก็จะไปเป็นเพื่อนเจ้า" อมตะชางเหม่ยพูดจบก็หยิบยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง
"นี่คือยันต์มุดดินที่ข้าทำเอง มีมูลค่านับหมื่นตำลึง"
อมตะชางเหม่ยกล่าว "ไอ้เด็กเปรต ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราไม่ธรรมดา การพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ มันทำร้ายความรู้สึกกันนะ... แต่เจ้าก็ต้องเห็นใจความลำบากของข้าด้วยไม่ใช่หรือ?"
"การเขียนยันต์มันเหนื่อยมากนะ"
"เจ้ารู้ไหม ยันต์มุดดินแผ่นนี้ข้าเขียนอยู่สามวันสามคืน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย ปวดเมื่อยตามตัวไปหมดจนตะคริวกิน"
"ข้าก็ไม่ขออะไรมากหรอกนะ แบบนี้ดีไหม เอาหินวิญญาณหนึ่งร้อยล้านที่ข้าเคยให้เจ้าไว้คืนมา แล้วข้าจะยกยันต์มุดดินแผ่นนี้ให้เจ้าดีไหม?"
เยี่ยชิวก็ด่าออกมา "ยันต์เก่าๆ แผ่นเดียว เจ้าจะเอาหนึ่งร้อยล้านหินวิญญาณเลยหรือ ไอ้แก่ เจ้ามันไร้ยางอายจริงๆ"
อมตะชางเหม่ยแก้ต่างว่า "หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่ธรรมดา แค่หนึ่งร้อยล้านหินวิญญาณก็ไม่พอแล้วนะ สำหรับคนอื่นอย่างน้อยก็สองร้อยล้านหินวิญญาณ"
เยี่ยชิวก็หัวเราะออกมา "หมายความว่าเจ้าลดราคาให้ข้าหรือ? ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะดีกับข้าขนาดนี้ ขอบคุณมากนะ"
"ไม่ต้องขอบคุณ ไม่ต้องขอบคุณ ใครใช้ให้พวกเราเป็นสหายที่ตายแทนกันได้ล่ะ" อมตะชางเหม่ยยื่นมือออกไปแล้วกล่าวว่า "เอาหินวิญญาณให้ข้ามาเถอะ!"
"หึ หึ..." เยี่ยชิวหัวเราะเยาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...