วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 401

“เป็นอะไรงั้นเหรอครับ ผู้อำนวยการเยี่ย?” ฟู่เหยียนเจี๋ยถามเมื่อเขาเห็นว่าเยี่ยชิวขมวดคิ้ว

“ดวงตาของคุณเซียวได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากพิษนั่น ฉันแค่ใช้เข็มทองคำเพื่อข้ามจุดฝังเข็ม แต่มันก็ได้ผลเพียงแค่นิดเดียว ” เยี่ยชิวกล่าว

สีหน้าของเซียวจ้านเปลี่ยนไปและเขาถามว่า: "หมอเยี่ยครับ ดวงตาพี่สาวผม…"

“ไม่ต้องกังวลหรอก แม้ว่าภายในเวลาอันสั้นนี้มันจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ให้เวลาฉันสักครึ่งปี ดวงตาของพี่สาวนายจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง”

เยี่ยชิวคิดว่าภายในเวลาครึ่งปี ถ้าศิลปะมังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิงของเขาไปถึงขั้นที่สาม ระดับพลังยุทธ์ของเขาก็จะดีขึ้นไปอีก และเขาจะสามารถใช้เทคนิคการฝังเข็มที่ลึกลับและทรงพลังได้

เมื่อถึงตอนนั้น หากรวบรวมเข้ากับคาถา การฟื้นฟูดวงตาของเซียวอี้เหริน ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

“ใช้เวลาอีกครึ่งปีเลยเหรอครับ!” เซียวจ้านรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ฟู่เหยียนเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างรีบพูดขึ้นมาทันที: "คุณควรพอใจซะนะ มีคนตาบอดจำนวนมากที่ไม่มีวันมองเห็นได้อีกตลอดชีวิต พี่สาวของคุณโชคดีมากนะที่ได้พบกับผู้อำนวยการเยี่ย ไม่เช่นนั้น เธอ

“ก็ถูกอย่างที่หมอคนนั้นพูด ฉันโชคดีจริงๆค่ะ” เซียวอี้เหรินพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันสูญเสียการมองเห็นมา3ปีแล้ว ดังนั้นรออีกครึ่งปีก็คงไม่เป็นไร”

"คุณหมอเยี่ย ขอบคุณนะคะ"

เซียวอี้เหรินกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องรักษาอาการเจ็บป่วยและช่วยเหลือผู้คน” เยี่ยชิวพูด “แค่ว่าคนที่ทำให้คุณตาบอดนั้นมันช่างเหี้ยมโหดมาก ถ้าผมเจอผู้ชายคนนี้เมื่อไหร่ ผมจะไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่”

“ยังไงก็ตามคุณเซียวครับ คุณเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนคนนั้นใช่มั้ยครับ เขามีลักษณะอย่างไร?”

เยี่ยชิวกล่าวว่า: "ผมมีลูกน้องอยู่ ผมสามารถขอให้พวกเขาให้ไปตามหาเขาได้ บางทีพวกเขาอาจจะหาผู้ชายคนนั้นเจอก็ได้"

เซียวอี้เหรินยังไม่ทันได้ตอบ เซียวจ้านก็พูดว่า: "ผู้ชายคนนั้นเป็นชายชรา อายุประมาณ60-70ปีได้ครับ เขาไม่สูงและผอมมาก เขามีไฝสีดำขนาดใหญ่อยู่ข้างๆตา"

“อ้อ แล้วก็แขนขวาของเขาขาด มีแค่มือข้างเดียวครับ”

“ดีล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนไปลองตามหาดู” หลังจากที่เยี่ยชิวพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปรอบ ๆ และไม่เห็นซูเสี่ยวเสี่ยว เขาจึงถามว่า "เสี่ยวเสี่ยวไม่มาทำงานเหรอ?"

“เสี่ยวเสี่ยวบอกว่าวันนี้มีธุระ ก็เลยไม่มาครับ” ฟู่เหยียนเจี๋ยตอบ

เหล่าเซียงกล่าวต่อ: "ผู้อำนวยการเยี่ย คนไข้เยอะเกินไปรึเปล่าครับ ตอนนี้กำลังคนพวกเราก็ไม่พอ เราจะทำยังไงกันดีครับ?"

เยี่ยชิวก็ปวดหัวกับเรื่องนี้เช่นกัน

ฟู่เหยียนเจี๋ยกล่าวว่า: "เมื่อก่อนแผนกวิชาการแพทย์แผนจีนของเราเป็นแผนกที่น่าสังเวชที่สุดในโรงพยาบาล ไม่มีคนไข้สักคนเดียว มาคราวนี้ หลังจากที่ผู้อำนวยการเยี่ย เอาชนะลี มยองฮันในการท้าแข่งนั่น เขาก็ดังเป็นพลุแตก มีคนไข้แห่กันมาไม่หยุด และเริ่มตั้งแต่เมื่อวาน ที่เรารับคนไข้ไม่ต่ำกว่าวันละกี่ร้อยคน”

“ใช่ครับ เมื่อวานผม เสี่ยวพ้าง แล้วก็เสี่ยวเสี่ยวทั้งสามคนเหนื่อยจนเกือบจะเป็นลมตาย” เหล่าเซี่ยงพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น: “เมื่อก่อนปัญหาของเราคือไม่มีคนไข้ แต่ตอนนี้ปัญหาของเราคือมีคนไข้เยอะไปซะงั้น"

“ผู้อำนวยการครับ หรือว่า พวกเรารับสมัครหมอเพิ่มมั้ยครับ?” ฟู่เหยียนเจี๋ยเสนอแนะ

เยี่ยชิวพยักหน้าและกล่าวว่า: "เสี่ยวพ้าง เดี๋ยวนายไปแจ้งฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้วยละกัน ว่าให้พวกเขาเปิดประกาศรับสมัครทันที"

“ให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลคัดคนมากับสัมภาษณ์ไป ส่วนคนที่ได้ผ่านเข้ามาเดี๋ยวฉันจะเป็นคนสัมภาษณ์รอบสุดท้ายเอง ถึงจะสามารถจ้างอย่างเป็นทางการได้”

“แม้ว่าตอนนี้เราจะยุ่งกันมาก และเราก็กำลังคนไม่พอ แต่ฉันก็ไม่อยากได้พวกไร้ประโยชน์มาหรอกนะ”

“ผู้อำนวยการครับ แม้ว่าเราจะเริ่มรับสมัครตอนนี้ ก็อาจต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการรับสมัคร” ฟู่เหยียนเจี๋ยพูดด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “ผมเกรงว่าเราจะรับมือไม่ไหว!”

ตอนนี้ภายในหนึ่งวันก็มีคนไข้อย่างน้อยกี่ร้อย และแพทย์ในแผนกวิชาการแพทย์แผนจีนก็มีน้อยเกินไป แต่ละคนจะต้องดูแลคนไข้โดยเฉลี่ยอย่างน้อยวันละหนึ่งร้อยคนขึ้น

อย่างที่คงจินตนาการได้ ภาระงานนี้หนักมากถึงขนาดนั้นเลย

เยี่ยชิวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เอาอย่างนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเข้าเวรที่โรงพยาบาลด้วย"

“อีกอย่าง เดี๋ยวฉันจะให้ซุนเซิ่งโซ่วมาช่วยอีกด้วย”

หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็โทรหาซุนเซิ่งโซ่วศิษย์คนเก่ง ถ้าไม่ใช่งานก็คงจะเสียดาย

“เสี่ยวพ้าง โทรไปที่โรงอาหาร แล้วให้พวกเขาเอาอาหารกลางวันมาที่ออฟฟิศของฉัน เอามาสำหรับสามคนนะ”

หลังจากที่เยี่ยชิวสั่งงานเสร็จแล้ว เขาก็พา เซียวอี้เหรินและเซียวจ้านกลับไปที่ออฟฟิศ

ภายในเวลาครึ่งวัน เยี่ยชิวตรวจดูคนไข้มากกว่า 150 คน

เขายึดถือเสมอว่า ถ้าสามารถรักษาให้หายตรงนั้นได้ก็จะรักษา ถ้ารักษาโดยที่ไม่ต้องกินยาได้ก็จะไม่ให้กิน และถ้าไม่ต้องแอดมิดได้ก็ไม่ต้องแอดมิด

ทำแบบนี้ อย่างแรกสามารถลดภาระทางการเงินของคนไข้ได้ และลดพวกค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองได้

อย่างที่สอง เป็นเรื่องยากมากสำหรับคนไข้บางรายที่จะมาพบแพทย์ และบางรายถึงกับเดินทางมาจากที่อื่น หากสามารถลดปัญหาให้พวกเขาได้ก็พยายามให้มากที่สุด

ท้ายที่สุดแล้ว ในสังคมปัจจุบัน มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน

หลังจากที่เยี่ยชิวเสร็จงานแล้ว เขาก็พาเซียวอี้เหรินและเซียวจ้านออกจากโรงพยาบาล

ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล ก็มีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์มาจอดตรงหน้าทั้งสามคน

จากนั้น ฮันหลงก็ลงมาจากรถ

ฮันหลงเหลือบไปมองที่เซียวจ้านและเซียวอี้เหริน แล้วพูดด้วยความเคารพกับเยี่ยชิว: "บอสครับ เชิญขึ้นรถครับ"

เยี่ยชิวถามฮันหลง: "จัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วใช่มั้ย?"

“ทุกอย่างเป็นไปตามที่บอสสั่งไว้เรียบร้อยดีครับ พวกเราไปทานข้าวกันก่อน แล้วค่อยกลับที่พักนะครับ” ฮันหลงกล่าว

"โอเค ไปกันเลย"

ในขณะนี้ ฮันหลงขับรถพาเยี่ยชิวและคนอื่นๆไปที่ร้านอาหารซีเป่ย

“ฮันหลง นายพาพวกเขาไปทานข้าวกันก่อนเลย ฉันมีธุระนิดหน่อย แล้วฉันจะตามไปทีหลัง” เยี่ยชิวกล่าว

“ครับ”

หลังจากที่ฮันหลงพาเซียวจ้านและเซียวอี้เหรินเข้าไปในร้านอาหารแล้ว เยี่ยชิวก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา และกดเบอร์โทรศัพท์ของไป๋ปิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ