วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 402

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กดโทรเบอร์ของไป๋ปิง ก็ไม่มีใครรับสาย

เยี่ยชิวโทรสามครั้งติดต่อกัน แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

นี่ทำให้เยี่ยชิวรู้สึกไม่ดี

ไป๋ปิงไม่รับโทรศัพท์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี

“แล้วก็ไม่รู้ว่าสุขภาพของนายพลไป๋จะเป็นยังไงบ้างนะ เขาคงจะผ่านมันไปได้ใช่มั้ย?”

เยี่ยชิววางโทรศัพท์มือถือลง และกำลังจะลงจากรถ แต่จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

เขาคิดว่าเป็นไป๋ปิงที่โทรกลับมา เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดู แต่พบว่าเป็นสายของฉินหว่าน

เยี่ยชิวรับโทรศัพท์: "พี่หว่าน!"

“นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” ฉินหว่านถามเบา ๆ

“เพิ่งเลิกงานครับ” เยี่ยชิวกล่าว

“คืนนี้นายจะมามั้ย?” ฉินหว่านกล่าวว่า “เชี่ยนเชี่ยนเข้านอนแล้ว และฉันก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ”

หมายความว่าอะไร?

คือจะชวนฉันไปบ้านเธองั้นเหรอ?

เยี่ยชิวยิ้มอย่างฝืนยิ้มในใจ เราก็อยากไปอยู่แหละ เพียงแต่ว่าตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเมื่อเช้านี้ ถูกไป๋ปิง ทรมานหนักเกินไปหน่อย และยังทำงานมาครึ่งวันแล้ว ตอนนี้ร่างกายก็ทั้งเจ็บหลังปวดเอวไปหมด

“พี่หว่านครับ ขอโทษด้วย เกรงว่าคืนนี้ผมคงก็ไปไม่ได้” เยี่ยชิวพูดอย่างขอโทษ

“นายอยู่กับผู้หญิงคนไหนอีกล่ะ?” ฉินหว่านโกรธเล็กน้อย

เยี่ยชิวยิ้มและพูดว่า: "ผมก็แค่เหนื่อยเกินไปหน่อย วันนี้ผมรักษาคนไข้ไปไม่น้อยกว่าร้อยคนเลยนะ เหนื่อยมากจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ผมเลยพาเพื่อนมากินข้าวอยู่ครับ"

"อย่างงี้สินะ!" เสียงของฉินหว่านฟังดูนุ่มนวลขึ้น และเธอก็พูดว่า "นายเป็นคนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน นายก็ต้องกินข้าวนะรู้ไหม?"

“ผมเข้าใจแล้วครับ ต่อไปนี้ผมจะกินข้าวให้ตรงเวลา”

"งั้นก็ดี นายรีบไปกินข้าวเถอะ ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยบอกฉันด้วยนะ" ฉินหว่านมีความเข้าอกเข้าใจดี

“ได้ครับ พี่ก็รีบไปพักเถอะ” เยี่ยชิววางสายโทรศัพท์ แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารอย่างรวดเร็ว

เมื่อเข้ามาถึงห้องอาหารส่วนตัว เขาก็ตกใจมาก

เห็นซาลาเปาชามใหญ่วางอยู่ตรงหน้าเซียวจ้าน อย่างน้อยก็กี่สิบลูกได้

ในมือข้างหนึ่งของเซียวจ้านถือซาลาเปาไว้ในมือและอีกข้างหนึ่งก็ถือถ้วยซุปเนื้อไว้ กลืนมันอย่างหิวโหย

เมื่อเห็นเยี่ยชิวเข้ามา เซียวจ้านก็รีบลุกขึ้นและพูดว่า "คุณหมอเยี่ย..."

“กินข้าวเถอะ”

เยี่ยชิวทำมือบอกให้เซียวจ้านนั่งลง แล้วมองไปอีกด้านหนึ่ง เห็นเซียวอี้เหรินใช้มือทั้งสองข้างถือขนมปังไส้เนื้อไว้ แล้วเคี้ยวมันช้าๆ

“คุณเซียวครับ รสชาติโอเคมั้ยครับ?” เยี่ยชิวถาม

“ดีเลยค่ะ รสชาติเหมือนกับที่บ้านเกิดของเราเลย” เซียวอี้เหรินตอบ

เยี่ยชิวพูดกับฮันหลง: "ทำได้ดีมาก"

ฮันหลงแอบยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า "ผมถามคนมาเยอะเลยล่ะครับ พวกเขาบอกผมว่าอาหารซีเป่ยของร้านนี้ดั้งเดิมที่สุด"

“งั้นเหรอ? งั้นฉันก็ต้องลองสักหน่อย”

มีชามซาลาเปาไว้เนื้อแกะวางอยู่ข้างหน้าเยี่ยชิว และเขาก็หยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกิน

“บอสครับ เด็กคนนี้เป็นใครงั้นเหรอครับ?” ฮันหลงเข้าหาเยี่ยชิวชี้ไปที่เซียวจ้านและถามเบาๆ

“เขาเป็นน้องชายคนใหม่ที่ฉันเพิ่งเก็บมา” เยี่ยชิวกล่าว

“น้องชาย?” ฮันหลงตกตะลึงแล้วพูดว่า “บอสครับ ผมรู้สึกเหมือนว่าคุณจะล้มละลายแน่”

“ทำไมล่ะ?” เยี่ยชิวสงสัย

ฮันหลงกล่าวว่า: "เด็กคนนี้กินเก่งมาก บอสรู้ไหมว่าก่อนที่คุณจะเข้ามา เขากินซาลาเปาไปแล้วหนึ่งชาม"

อะไรนะ?

เยี่ยชิวอึ้งปากค้าง และเงยหน้าขึ้นมองที่เซียวจ้าน และเห็นว่ามีในชามที่อยู่ข้างหน้าเซียวจ้านเหลือซาลาเปาอยู่แค่สองลูกแล้ว

ให้ตายเถอะ ก็กินเก่งเกินไป!

เยี่ยชิวกล่าวว่า: "ก่อนอื่น นายต้องอ่านหนังสือให้มากและต้องมีความรู้ทางวัฒนธรรม รองลงมา นายต้องมีประสบการณ์ทางสังคมให้เยอะๆ สุดท้าย นายต้องมีความสามารถในการวางโครงเรื่องและการเขียนที่ดี"

“นอกจากสามข้อนี้แล้วยังมีจุดสำคัญที่สุดอีกด้วย นั่นก็คือมีใจที่ทนความเหงาได้”

“เพราะว่าเส้นทางการเขียนนิยายนี้มันโดดเดี่ยวมาก นักเขียนส่วนใหญ่จึงเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ต้องพยายามเขียนอย่างสุดชีวิต วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า”

“โดยเฉพาะถ้าเขียนนิยายออนไลน์นั่น จะต้องอัพเดททุกวัน ถ้าใน1วันไม่มีการอัพเดท คนอ่านก็จะมาด่านาย”

"นายคิดว่านายสามารถทำได้มั้ย?"

“ผมทำได้ครับ” เซียวจ้านพูดเสียงดัง

ทำได้กับผีน่ะสิ!

เยี่ยชิวรู้สึกรำคาญเล็กน้อย และพูดตรงๆ: "เซียวจ้าน การเป็นนักเขียนนั้นมันไม่เหมาะกับนายหรอก ฉันจะชี้ทางให้นายเอง!"

“คุณหมอเยี่ยพูดมาเลยครับ”

เยี่ยชิวถามว่า: "เคยได้ยินเรื่องสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์บ้างไหม?"

เซียวจ้านพยักหน้า: “เคยได้ยินครับ”

เยี่ยชิวตกใจมาก เด็กคนนี้รู้เกี่ยวกับสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์จริงหรือ?

เซียวจ้านกล่าวต่อ: "ผมเคยได้ยินปู่ของผมพูดก่อนหน้านี้ว่าสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์นั้น คือสมุดที่มีรายชื่อของยอดฝีมือ และผู้ที่ได้อยู่ในรายชื่อนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้"

“ถูกต้อง ผู้ที่สามารถอยู่ในรายชื่อสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์ได้นั้นคือยอดฝีมือ” เยี่ยชิวกล่าวว่า “ฉันเห็นแล้วว่า ศิลปะการต่อสู้ของนายก็ไม่ได้แย่ และนายอายุยังน้อยมาก หากนายฝึกฝนอีกสองสามปี ก็จะสามารถได้เข้าไปอยู่ใน สมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์ได้ไม่ยาก”

“ผมไม่ได้สนใจที่จะอยู่ในสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์นั่นอยู่แล้วครับ” เซียวจ้านกล่าว

เด็กคนนี้ยังอยากเขียนนิยายอยู่งั้นเหรอ? ไม่ ได้ ต้องหยุดความคิดนี้ของเขาให้ได้!

“เซียวจ้าน นายรู้มั้ย โลกนี้กว้างใหญ่ มีเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นที่สามารถอยู่ในสมุดรายชื่อยอดพยัคฆ์ได้” เยี่ยชิวโน้มน้าว: "การอยู่ในรายชื่อยอดพยัคฆ์นั่นได้จะเป็นความรุ่งโรจน์ของชีวิตนายเลยนะ"

โดยไม่คาดคิด เซียวจ้านพูดโดยไม่ไว้น้ำใจ: "ผมไม่สนใจรายชื่อยอดพยัคฆ์นั่นหรอกครับ"

“ปู่ของผมพูดไว้ตอนที่เขายังมีชีวิตว่า ผมนั้นเป็นยอดฝีมือแห่งศิลปะการต่อสู้ในรอบร้อยปีมานี้”

“ถ้าผมตั้งใจกับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ล่ะก็ แค่ภายในเวลา10ปี ก็สามารถบดขยี้แชมป์โหวเซียวจิ่วได้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ