เยี่ยชิวตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่างทันที
ปลาคริสตัลสามารถเพิ่มพลังได้
เขารู้สึกดีใจจนแทบบ้า รีบหลับตาลง และเริ่มออกกำลังทันที
และในเวลานี้
อีกด้านหนึ่ง อมตะชางเหม่ยได้นั่งขัดสมาธิ และหลับตาเช่นกัน
สุ่ยเซิงกินปลาไปตัวเดียว แต่รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เดิมทีอยากจะถามอมตะชางเหม่ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นอมตะชางเหม่ยนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาจึงไม่กล้ารบกวน ด้วยความจนใจ จึงทำได้เพียงกระโดดลงไปในสระน้ำเท่านั้น
10 นาทีผ่านไป
เยี่ยชิวก็ลืมตาขึ้นมา จ้องมองอมตะชางเหม่ย ด้วยความโกรธเล็กน้อย
ปลาคริสตัลสามตัว สามารถเพิ่มพลังของเขาได้สามปี
ถ้ารู้มาก่อนว่าปลาคริสตัลจะมีประสิทธิภาพอย่างนี้ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คงไม่ให้อมตะชางเหม่ยกินไปมากขนาดนั้นหรอก
2 นาทีผ่านไป
อมตะชางเหม่ยก็ลืมตาขึ้นมา หัวเราหึๆ และเอ่ยถามว่า : "ไอ้เด็กเปรต แกรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ?"
"ช่างเป็นยาบำรุงที่ดีจริงๆ แต่น่าเสียดาย ที่ถูกตาเฒ่าอย่างคุณกินไปตั้งหกตัว" เยี่ยชิวกล่าวอย่างตำหนิ
"ฉันก็ได้รับผลสำเร็จเช่นกัน กำลังของร่างกายฟื้นฟูกลับมามาก น่าจะต้านทานได้อีกหลายวันเลย" อมตะชางเหม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"คุณพูดจริงเหรอ?" เยี่ยชิวตาเป็นประกาย
อมตะชางเหม่ยพยักหน้า
"เช่นนั้นฉันจะไปจับมาอีกสักสองสามตัว" เยี่ยชิวคิดว่า ในเมื่อปลาคริสตัลมีประโยชน์ในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของอมตะชางเหม่ยได้ เช่นนั้นเขาจะไปจับมาอีกสักสองสามตัว เพื่อให้อมตะชางเหม่ยมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายวัน
"อย่าเสียเวลาเลย" อมตะชางเหม่ยบอกกับเยี่ยชิว และกล่าวว่า : "ประโยชน์ของปลาคริสตัลมีขีดจำกัดของมัน จะกินไปอีกก็ไม่มีผลอะไรหรอก ของล้ำค่าหายากเช่นนี้ ไม่ควรที่จะเข่นฆ่ามากมายเกินไป เหลือเอาไว้บ้างเถอะ.....สุ่ยเซิงล่ะ?"
อมตะชางเหม่ยหันไปมอง ก็ไม่เห็นสุ่ยเซิงแล้ว
"บางทีอาจจะอยู่ในสระน้ำ"
เยี่ยชิวพูดจบ ก็เดินมาดูที่สระน้ำ เขาเห็นสุ่ยเซิงกำลังนอนเปลือยกายอยู่ในสระน้ำ หลับตา สีหน้าผ่อนคลาย
"จุ๊ๆๆ มองไม่ออกเลยว่า คุณจะมีต้นทุนไม่น้อยเลย" เยี่ยชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สุ่ยเซิงตกใจ รีบคลานขึ้นมาจากสระน้ำ สองมือปิดกุมจุดสำคัญเอาไว้ และมองเยี่ยชิวด้วยสีหน้าแดงก่ำ : "หมอเยี่ย คุณแอบดูฉันทำไม?"
เยี่ยชิวไม่สนใจ เขากล่าวกับอมตะชางเหม่ยว่า : "จะทิ้งสุ่ยเซิงไว้ที่ภูเขาหลงหู่มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ให้เขาไปในเมืองเถอะ"
"ด้วยหน้าตาและต้นทุนของเขาแล้ว เมื่อเข้าคลับเฮาส์จะต้องถูกใจผู้หญิงรวยๆ มากมายอย่างแน่นอน"
"ไม่แน่นะ เขาเพียงคนเดียวอาจจะเลี้ยงดูคนของภูเขาหลงหู่ทั้งหมดของพวกคุณได้เลย"
อมตะชางเหม่ยถลึงตาใส่เยี่ยชิว : "ไสหัวไปเลย!"
เยี่ยชิวหัวเราะ
"สุ่ยเซิง รีบสวมเสื้อผ้า และเตรียมเร่งการเดินทาง" อมตะชางเหม่ยตะคอกออกมา
ทั้งสามคนทานอาหารกันเล็กน้อย
และเดินทางกันต่อไป
ตลอดเส้นทางถือว่าราบรื่นดี เพราะระหว่างทางไม่ได้เจอกับสัตว์ดุร้ายอะไรเลย
หลังจากผ่านภูเขามาสามลูก ท้องฟ้าก็ได้มืดลงแล้ว
ตรงหน้าปรากฏป่าไม้เขียวชอุ่ม ในยามค่ำคืน ราวกับสัตว์ร้ายขนาดใหญ่กำลังคืบคลานอยู่
"อาจารย์ ยามค่ำคืนยังต้องเร่งเดินทางอีกเหรอ? เราพักผ่อนอยู่ด้านนอกป่าก่อน รอให้รุ่งสางค่อยออกเดินทางจะดีไหม?" สุ่ยเซิงกล่าว
อมตะชางเหม่ยส่ายหัว : "ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้นหรอก จะต้องหาภูเขามังกรใหญ่ให้เจอโดยเร็วที่สุด"
"แต่ป่าที่มืดทึบขนาดนั้น ข้างในนั้นมันจะมีอันตรายหรือเปล่าครับ?"
สุ่ยเซิงกล่าวอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย
พลั๊วะ!
อมตะชางเหม่ยตบหัสของสุ่ยเซิงทันที และด่าทอออกมา : "ถ้ามึงยังขี้ขลาดตาขาวอีก กูจะฆ่ามึงให้ตายเลย"
"จงจำเอาไว้เลยว่า มึงคือคนของภูเขาหลงหู่ ไม่ว่าจะเผชิญกับอันตรายอะไร ก็ห้ามหวาดกลัวแม้แต่น้อย"
"ตราบใดที่ในหัวใจมีพลังลมปราณอันยิ่งใหญ่ ก็จะไม่ขลาดกลัวต่อทุกสิ่งทุกอย่างแน่นอน"
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเวลาผ่านไปนาน บนปืนครกจึงเกิดคราบสนิมหนาแน่น
เยี่ยชิวหยิบปืนกลมือขึ้นมาจากพื้น และทดสอบดูเล็กน้อย ปืนนั้นขึ้นสนิมหมดแล้ว เดิมทีไม่สามารถใช้งานได้
"แม่งเอ๊ย ทหารญี่ปุ่นเหล่านี้เก่งจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะเดินมาถึงที่นี่ได้" อมตะชางเหม่ยก่นด่าออกมา
"ไม่สามารถดูแคลนความเฉลียวฉลาดของทหารญี่ปุ่นได้ พวกเขาเก่งกาจมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่บ้าคลั่งก่อให้เกิดสงครามโลกในปีนั้นหรอก" เยี่ยชิวกล่าว
"คนเหล่านี้ตายได้ยังไง?" อมตะชางเหม่ยเอ่ยถาม
"มองไม่ออก" เยี่ยชิวกล่าว : "บนศพไม่มีร่องรอยของการถูกพิษเลย และไม่มีร่องรอยของการถูกสัตว์ร้ายกัดเลย"
"อาจารย์ หมอเยี่ย สถานที่นี้ไม่ควรอยู่เป็นเวลานาน เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ!" สุ่ยเซิงกล่าวเร่งรัด
"สุ่ยเซิงพูดถูก ไปกันเถอะ" เยี่ยชิวพูดจบ ก็รีบเดินออกไปข้างนอกทันที
เช้าตรู่ตีห้าครึ่ง
เมื่อฟ้าสางทางทิศตะวันออก
ในที่สุดทั้งสามคนก็เดินออกมาจากป่าแห่งนี้
"ผู้เฒ่า คุณรีบมาดูนี่สิ" เยี่ยชิวที่เดินอยู่หน้าสุด ก็ตะโกนเรียกอมตะชางเหม่ย
อมตะชางเหม่ยเดินมาข้างๆ เยี่ยชิว และเงยหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นว่าห่างออกไป 300 เมตร มียอดเขาขนาดใหญ่ 28 ลูกเชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียว กระจัดกระจายไปทั่วเหมือนดวงดาว ดาวกับกลุ่มดาว 28 ดวงบนท้องฟ้า
หนึ่งในนั้นมียอดเขาหนึ่งลูก สูงประมาณ 100 ฟุต แห้งแล้ง และเปลือยเปล่า ราวกับดาบขนาดใหญ่ ที่เสียบทะลุขึ้นไปบนท้องฟ้า
"ภูเขามังกรใหญ่ นั่นคือภูเขามังกรใหญ่"
อมตะชางเหม่ยชี้ไปที่ยอดเขาที่รูปร่างเหมือนดาบ และกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น
"ในที่สุดก็หาเจอแล้ว!"
ใบหน้าของเยี่ยชิวเผยให้เห็นรอยยิ้ม
อมตะชางเหม่ยพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และกล่าวอย่างตกตะลึง : "ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าเพราะอะไรปฐมาจารย์ถึงเอาดาบเทียนซือทิ้งไว้ที่ภูเขามังกรใหญ่"
"เพราะว่า....."
"ภูเขามังกรใหญ่ก็คือชีพจรมังกร!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...