หลี่หรูยืนอยู่ที่นั่นด้วยตัวเปล่า และมีใบหน้าที่เขินอายเล็กน้อย ผสมผสานเสน่ห์ของแม่หญิงเข้ากับความเขินอายของหญิงสาวได้อย่างลงตัว ทำให้คนอื่นเอาสายตาออกจากตัวเธอไม่ได้
ผิวขาวที่ราวกับหิมะ งดงามราวกับหยก
ที่สุดของความสวย!
อมตะชางเหม่ยกลืนน้ำลายอย่างแรง
หลี่หรูมองตรงไปที่อมตะชางเหม่ยแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า: "ชีวิตนี้ฉันไม่ขออะไรอีก ฉันขอแค่อยากมีเซ็กส์กับคุณ ตราบใดที่คุณยอมรับคำขอของฉัน ฉันก็จะบอกตำแหน่งของดาบเทียนซือให้คุณ”
อมตะชางเหม่ยหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า: "เสี่ยวหรู คุณน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ฉันเป็นนักบวช ถ้าเธอกับฉันมีอะไรกัน มันจะผิดศีล คุณเปลี่ยนเป็นเงื่อนไขอื่นเถอะ!"
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณจะพูดแบบนี่”
หลี่หรูกลอกตาไปที่อมตะชางเหม่ย แล้วพูดว่า "นักบวชลัทธิเต๋าทิ้งยาเม็ดอมฤตไว้และขอให้ฉันส่งมันให้กับคุณ"
“ยาอมฤตอยู่ที่ไหน” อมตะชางเหม่ยถามอย่างเร่งรีบ
หลี่หรูหันกลับไปและก้มลงมองหาบางอย่างใต้หมอน
อมตะชางเหม่ยใช้โอกาสนี้แอบดูร่างของหลี่หรูเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนลงไปอย่างแรง
หลี่หรูหยิบกล่องไม้สี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากใต้หมอน จากนั้นเดินไปส่งให้อมตะชางเหม่ย
อมตะชางเหม่ยเปิดกล่องไม้และเห็นเม็ดยาทรงกลมอยู่ข้างใน มันใส และดูเหมือนเป็นของที่มีค่า
“นี่คือยาอมฤตอะไร?” อมตะชางเหม่ยถาม
“ยาแห่งความสุข” หลี่หรูกล่าวว่า: “นักบวชลัทธิเต๋าบอกว่ายานี้สามารถรักษาบาาแผนผลกระทบจากฟ้าดินของคุณได้”
"จริงเหรอ?"
อมตะชางเหม่ยหยิบยาเม็ดขึ้นมา ถทอไว้หน้าจมุกของเขาแล้วดมสูบเข้าไปลึกๆ
ทันใดนั้น กลิ่นหอมอันแรงกล้าก็พุ่งเข้าจมูกของเขา และอมตะชางเหม่ยก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังบินขึ้นไปบนก้อนเมฆ ลอยอยู่ในอากาศ
ในเวลาเดียวกัน หลี่หรูที่เปลือยเปล่าก็เต้นต่อหน้าเขา ยิ้มหวาน ๆ ซึ่งทำให้หัวใจของคนนั้นเต้นเร็วขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดวงตาของอมตะชางเหม่ยค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง และความคิดชั่วร้ายในใจก็เดือดพล่านราวกับน้ำเดือด
เขารีบถอดเสื้อคลุมออก
…
เยี่ยชิว และ สุยเซิงที่ยืนอยู่ที่นั่น จ้องมองไปที่การกระทำของอมตะชางเหม่ย
หลังจากที่อมตะชางเหม่ยเข้าสู่ค่ายกลแล้ว เขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพียงสองก้าวแล้วหยุดการเคลื่อนไหวใด ๆ โดยยังคงติดอยู่กับที่เหมือนก้อนหิน
ยี่สิบนาทีผ่านไป
อมตะชางเหม่ยยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
สุ่ยเซิงกังวลเล็กน้อยและพูดว่า "ศิษย์ลุงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
“ไม่ต้องกังวล ในเมื่อเขาบอกว่าเขาสามารถทำลายค่ายกลได้ งั้นก็คงมีวิธีรับมืออยู่” ทันทีที่เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็เห็นอมตะชางเหม่ยเคลื่อนไหว
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้ เยี่ยชิว และ สุ่ยเซิง ไม่คาดถึงคืออมตะชางเหม่ยมีพฤติกรรมแปลกๆ เขาถอดเสื้อคลุมลัทธิเต๋าออกภายในไม่กี่วินาทีโดยเหลือเพียงกางเกงสีแดงสดไว้คู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็กอดมนุษย์หินและจูบที่มันอย่างดุเดือด
สุ่ยเซิงดูหวาดกลัว: "หมอเยี่ย ศิษย์ลุง เขาบ้าไปแล้ว!"
เกิดอะไรขึ้น?
เยี่ยชิว หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าอย่างเงียบ ๆ และถ่ายรูปการกระทำของอมตะชางเหม่ย
…
"มาสิ มามีความสุขกัน~" หลี่หรูราวกับงูน้ำ ริเริ่มที่จะพันตัวเองไว้รอบๆ อมตะชางเหม่ย
แม้ว่าอมตะชางเหม่ยจะเป็นนักบวชลัทธิเต๋า แต่เขาก็เป็นผู้ชายเช่นกัน
ผู้ชายคนไหนที่สามารถทนต่อสิ่งล่อใจเช่นนี้ได้?
อมตะชางเหม่ยกอดหลี่หรูและจูบเธอในขณะที่มีการต่อสู้ทางอุดมการณ์อันดุเดือดในใจของเขา
“ไม่ได้ ฉันทำแบบนี่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะผิดศีล”
“แต่เสี่ยวหรูได้ริเริ่มเช่นนั้น ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย ฉันยังจถือว่าเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?”
“นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าปฐมาจารย์ได้เดาไว้แล้ว เมื่อฟังจากคำพูดของเสี่ยวหรู เขาคงไม่ตำหนิฉันหรอก”
“ครั้งนี้ครั้งเดียว หลังจากครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจะตัดขาดกับเสี่ยวหรูแน่นอน”
“ ไม่ใช่สิ ในเมื่อปฐมาจารย์ได้คาดเดาไว้แล้ว เขาจะไม่ยอมให้ฉันทำผิดศีลอย่างแน่นอน เพราะยังไงแล้วฉันก็เป้นพระอาจารย์ของภูเขาหลงหู่”
อมตะชางเหม่ยตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง จึงผลักหลี่หรูออกไปอย่างกะทันหัน กัดปลายลิ้นของตัวเอง และฟื้นคืนสติในทันที
“ฉางเหมย ทำไมคุณถึงทำเช่นนี้? คุณไม่ชอบฉันเหรอ?”
หลี่หรูมองไปที่อมตะชางเหม่ยด้วยท่าทางน่าสงสาร ทำให้คนอื่นเอ็นดู
สุ่ยเซิงกลัวเล็กน้อยและหยุดทันที หลังจากรอสักพัก เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง
ฉากตรงหน้าเขาเปลี่ยนไป
มีหิมะตกหนักจากบนท้องฟ้า และบนฝั่งแม่น้ำมีเด็กทารกนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ ยิ้มให้เขา
“เด็กคนนี้คือฉันหรือเปล่า”
“ฉันย้อนเวลากลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อน?”
“ไม่ใช่สิ ศิษย์ลุงบอกว่า นี่เป็นเพียงภาพลวงตา ต้องตั้งสติให้จิตใจสงบ” สุ่ยเซิงรีบหลับตาและท่องมนต์แห่งความสงบอย่างเงียบ ๆ
สิบนาทีต่อมา
สุ่ยเซิงลืมตาขึ้นและพบว่าเขายืนอยู่ท่ามกลางมนุษย์หินสิบแปดตัว ภาพริมแม่น้ำที่เขาเคยเห็นมาก่อนได้หายไปแล้ว
เขารีบเดินออกจากค่ายกลหินอย่างรวดเร็ว
“เอ้ะ ทำไมคุณออกมาเร็วขนาดนี้” อมตะชางเหม่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “คุณไม่เจอภาพลวงตาเหรอ?”
“ฉันเจอ แต่ฉันทำตามคำแนะนำของศิษย์ลุงว่าตั้งสติให้จิตใจสงบและก็ท่องมนต์สงบเจ็ดครั้งอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินออกจากภาพลวงตา”
แบบนี้ก็ได้เหรอ?
อมตะชางเหม่ยสาปแช่งในใจ ปฐมาจารย์ คุณจะหลอกใครก็ได้ทำไมต้องมาหลอกฉัน ทำให้ฉันต้องถอดเสื้อออกหมด
“ศิษย์ลุง หมอเยี่ยได้เข้าสู่ค่ายกลแล้ว” ทันใดนั้นเสียงของสุ่ยเซิงก็ดังขึ้น
อมตะชางเหม่ยเงยหน้าขึ้นและเห็นเยี่ยชิวเดินเข้าไปในค่ายกลหิน
“ศิษย์ลุง คุณคิดว่าหมอเยี่ยต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจากออกจากค่ายกล?” สุ่ยเซิงถามอย่างสงสัย
“ไอ่หนุ่มนี้แบกภาระไว้เยอะมากเกิน เกรงว่าเขาจะต้องใช้เวลาสักชั่วโมงสองชั่วโมงถึงจะออกมาได้”
อมตะชางเหม่ยเตือนอย่างเสียงดัง: "ไอ้หนุ่ม คุณต้องยึดมั่นในหัวใจและอย่าคิดมาก ไม่อย่างนั้นคุณจะตกอยู่ในภาพลวงตาและไม่สามารถออกมาได้"
“ภาพลวงตาของปฐมาจารย์นั้นทรงพลังมาก ฉันเกือบจะติดกับดักไป คุณต้องระวัง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดวงตาของอมตะชางเหม่ยก็เบิกกว้างขึ้น
เพราะเยี่ยชิวได้ออกมาจากค่ายกลแล้ว
เมื่อมองไปที่อมตะชางเหม่ยที่ตกตะลึง เยี่ยชิว ก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม: "ภาพลวงตาของจางเทียนซือ แค่นี้เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...