เมื่อสุ่ยเซิงได้ยินที่อมตะชางเหม่ยกล่าวก็รู้สึกโกรธจนหน้าบูดบึ้ง
พูดแต่คุณธรรมสัจธรรมความซื่อสัตย์เห็นอกเห็นใจ จะว่าไปแล้วก็คิดถึงแต่เงิน
ไร้ยางอายที่สุด!
เยี่ยชิวเองก็รู้สึกลังเลใจเล็กน้อย
โลงศพนี้มีมูลค่าถึงกว่าห้าพันล้าน หากขายออกไปก็จะได้แบ่งเงินกันคนละครึ่ง
ต้องรู้ว่าบนโลกนี้ คนกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ไม่สามารถเก็บเงินได้เท่านี้ตลอดทั้งชีวิตของเขา
เมื่อมีเงินนี้ เยี่ยชิวก็สามารถกลายเป็นเศรษฐีได้
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น
เยี่ยชิวก็ถอนหายใจ "ไม่ดีกว่า!"
"เพราะอะไร?" อมตะชางเหม่ยไม่เข้าใจ
เยี่ยชิวกล่าว "ที่เรามาภูเขามังกรใหญ่ครั้งนี้ก็ได้รับอะไรหลายอย่างมากมายแล้ว อย่าได้คิดเรื่องนี้เลย"
"โลงศพนี้ยากที่จะพบเห็นได้ง่ายๆ และอาจเรียกได้ว่าเป็นสมบัติของประเทศได้อย่างแน่นอน"
"กลับไปผมจะสั่งให้คนของวังซาตานมาที่นี่แล้วนำโลงศพนี้ออกไปเพื่อมอบให้กับทางการ"
อมตะชางเหม่ยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
"นายต้องคิดให้ดีๆ นะ นี่ไม่เพียงแค่โลงศพโลงหนึ่งเท่านั้น แต่มันเป็นโลงศพที่สามารถทำเงินได้มหาศาล ถ้าส่งให้ทางการคงน่าเสียดายแย่!"
เยี่ยชิวกล่าว "ตาเฒ่า เป็นคนต้องรู้จักความพอดี ถ้าพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีจึงจะมีความสุข"
"ครั้งนี้คุณไม่เพียงตามหาดาบเทียนซือเจอ แถมยังได้ยาแห่งความสุขมาจนสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้และยังเข้าถึงชี่แท้ได้ แค่นี้ก็มากพอแล้ว"
"อีกอย่าง คุณอายุปูนนี้แล้ว คุณจะเอาเงินมากมายไปทำอะไร?"
อมตะชางเหม่ยยิ้ม "ใครจะรังเกียจเงินล่ะ นายลองดูพวกเศรษฐีสิ อายุหกสิบเจ็ดสิบกว่าแล้วยังไม่หยุดทำงานหาเงินกันเลย"
"ทำไมคุณถึงไม่ดูว่าพวกเขาต่างมีจุดจบกันยังไงบ้าง? พวกเศรษฐีระดับต้นๆ เหล่านั้น ตอนนี้ล้วนถูกประชาชนนับไม่ถ้วนคอยก่นด่าและสาปแช่ง บางคนต้องเข้าคุกไป คุณอยากเป็นแบบนั้นเหรอ?"
เยี่ยชิวกล่าว "เงินหาเมื่อไรก็ได้ แต่ความโลภมักนำพาสิ่งไม่ดีเข้ามาเสมอ ดีไม่ดีอาจทำร้ายตัวเอง"
อมตะชางเหม่ยจึงได้กล่าวออกไป "ก็ได้ ครั้งนี้ฟังนายก็ได้ คิดเสียว่าทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติแล้วกัน!"
ทั้งสามออกจากถ้ำหินและกลับไปที่ด้านนอกของภูเขา
"อาจารย์ เรากลับทางเดิมหรือว่าหาเส้นทางใหม่เหรอครับ?" สุ่ยเซิงถาม
"ไม่ต้องรีบร้อน ฉันลองทำนายดูก่อน" อมตะชางเหม่ยหยิบเหรียญสามเหรียญออกมาพร้อมกับท่องคาถาพึมพำ
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง
อมตะชางเหม่ยกล่าว "เดินทางไปทิศตะวันตกต่อไปเรื่อยๆ"
สุ่ยเซิงชำเลืองมองไปและเห็นว่าทางทิศตะวันตกยังมีภูเขาขนาดใหญ่อีกหลายลูกและจากนั้นก็ทำหน้าเศร้า "อาจารย์ เรากลับทางเดิมเถอะ ไม่มีอันตรายอะไรด้วย"
"นายจะไปรู้อะไร!" อมตะชางเหม่ยกล่าว "เมื่อครู่คำทำนายออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าทางทิศตะวันตกดีมาก เราเดินไปทางทิศตะวันตกต่อไปเรื่อยๆ อาจเจออะไรดีๆ ก็ได้"
สุ่ยเซิงแววตาเปล่งประกาย "อาจารย์ อาจารย์พูดจริงเหรอ?"
"ถ้าไม่จริงแล้วคิดว่าฉันโกหกหรือยังไง?" อมตะชางเหม่ยจ้องหน้าสุ่ยเซิงและหันไปพูดกับเยี่ยชิว "เชื่อฉัน ทางทิศตะวันตกจะต้องมีอะไรดีๆ อย่างแน่นอน"
"ตามนั้น"
เยี่ยชิวไม่ได้คาดหวังอะไร เขารู้เป็นอย่างดีว่าคำทำนายของอมตะชางเหม่ยนั้นตรงหรือไม่ ซึ่งแทบทั้งหมดนั้นไม่ตรงแถมยังทำนายออกมามั่วๆ อีกด้วย
อมตะชางเหม่ยเห็นว่าเยี่ยชิวไม่ขัดจึงได้โบกมือ "ออกเดินทางได้ เรามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกกัน!"
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก?
ในหัวของเยี่ยชิวนึกถึงฉากในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขึ้นมา นางเอกในเรื่องนั้น.....
เอ่อ ใหญ่มาก!
ทั้งสามมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและระหว่างทางก็ได้ข้ามผ่านภูเขาขนาดใหญ่สามลูกโดยไม่ได้พบเจออะไรดีๆ อย่างที่อาจคิดเอาไว้เลย
สุ่ยเซิงบ่นออกมา "อาจารย์ ผมสงสัยเหลือเกินว่าผมและหมอเยี่ยจะถูกอาจารย์หลอกเข้า เดินทางมาไกลขนาดนี้แล้วยังไม่พบเจออะไรแม้แต่นิดเดียวเลย"
อีกย่างมันเหมือนกันกับโสมร้อยปีที่เหลือเพียงใบอยู่ตรงนี้ โดยไม่รู้ว่าโคนต้นและกิ่งหายไปไหน
เยี่ยชิวแอบรู้สึกเสียดาย "ตาเฒ่า เรามาช้าไปแล้ว สมุนไพรร้อยปีสองต้นได้ถูกคนอื่นแย่งไปก่อนหน้านี้แล้ว"
"ไม่เป็นไร ยังมีเห็นหลินจือร้อยปีอีกต้นหนึ่ง" อมตะชางเหม่ยชี้ออกไป
เยี่ยชิวเดินไปข้างหน้าและเห็นเพียงต้นไม้โบราณล้มอยู่ที่ขอบทุ่ง
ต้นไม้โบราณแห้งเหี่ยวมาก แต่กลับมีเห็ดหลินจือเติบโตขึ้นดอกใหญ่ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน
"น่าแปลกมาก เอาโสมและหญ้ายืดอายุไป แต่กลับไม่เด็ดเห็ดหลินจือไปด้วย?"
เยี่ยชิวรู้สึกสงสัย
"ฉันเป็นคนเห็นเห็ดหลินจือนั้น นายห้ามมาแย่งฉัน" อมตะชางเหม่ยรีบเดินเข้าไปหน้าต้นไม้โบราณและก้มตัวเตรียมจะเก็บเห็ดหลินจือ
และขณะนี้เอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เงาหนึ่งก็ลอยเข้ามาผ่านหน้าอมตะชางเหม่ยไปและจากนั้นเห็ดหลินจือก็หายไป
"ใครกัน?"
อมตะชางเหม่ยรีบหันไปมองและจากนั้นก็พบว่าบนโขดหินที่อยู่ไม่ไกลออกไปมีสัตว์ขนาดเล็กสีม่วงนั่งอยู่ มันมีขนยาวและหน้าตาเหมือนหนู
ขณะนี้เอง สัตว์ตัวนั้นก็กินเห็ดหลินจือนั้นเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย
"เจ้าหนูตัวนี้รู้จักกินเห็ดหลินจือ พบเห็นได้ยากมาก" สุ่ยเซิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
"ซื่อบื้อ นั่นไม่ใช่หนู แต่เป็นตัวมิงค์" อมตะชางเหม่ยตะโกนใส่มิงค์ "คืนเห็ดหลินจือมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ"
มิงค์สีม่วงเหมือนจะเข้าใจภาษาคน มันส่ายหน้าและกินเห็ดหลินจืออย่างรวดเร็ว
"แย่งเห็ดหลินจือของฉันไป รนหาที่ตาย" อมตะชางเหม่ยโกรธมากและเตรียมลงมือ จากนั้นก็ได้ยินเยี่ยชิวตะโกน "เดี๋ยวก่อน"
"นายคิดจะทำอะไร?" อมตะชางเหม่ยถามด้วยความไม่สบอารมณ์
"อย่าทำร้ายมัน" เยี่ยชิวกล่าว "มันไม่ใช่มิงค์ธรรมดา แต่มันเป็นมิงค์สมุนไพรในตำนาน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...