ห่างออกไปสิบเมตร
หลงหนู่ใกล้เข้ามาถึงแล้ว
เยี่ยชิวรู้สึกว่าตาพร่าไปหมด จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง "ปัง" จากด้านข้าง และเยี่ยอู่ตี้ก็ถูกกระแทกออกไป
นี่มัน…
ใบหน้าของเยี่ยชิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เยี่ยอู่ตี้เป็นถึงปรมาจารย์ระดับสูงที่ได้ฝึกฝนชี่แท้ทั้งสองมาแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถป้องกันการโจมตีของหลงหนู่ได้
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
หลงหนู่ไล่ตามเขาและต้องการฆ่าเยี่ยอู่ตี้
“เดี๋ยวก่อน!”
เยี่ยชิวพูดอย่างเร่งรีบ
หลงหนู่หยุดชะงัก จากนั้นหันกลับไปมองเยี่ยชิวด้วยสายตาที่เย็นชา: "นายจะทำอะไร?"
“พี่สาว หยุดก่อนแปปนึงจะได้มั้ย? ผมอยากจะพูดอะไรกับคุณสักหน่อย”เยี่ยชิวตีหน้าแสร้งทำเป็นจริงใจ
หลงหนู่ตะโกน: "จะพูดอะไรก็พูดๆมา!"
ให้ตายเถอะ ดุอย่างกับแม่เสือ
เยี่ยอู่ตี้ยิ้ม และถามว่า "ผมแค่สงสัยว่าพี่สาวอายุเท่าไหร่กันนะ?"
ดวงตาของหลงหนู่แสดงถึงเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า: "นี่นายกำลังล้อฉันเล่นงั้นเหรอ?"
“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่” เยี่ยชิวรีบปฏิเสธและพูดว่า “ก็แค่คุณสวมหน้ากากอยู่ เลยไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคุณ ผมเลยสงสัยว่าคุณจะอายุเท่าไหร่”
“ผมว่า คุณต้องอายุยังน้อยอยู่แน่”
"แล้วก็รูปลักษณ์ของคุณยังดู... " หลังจากที่เยี่ยชิวพูดถึงตรงนี้ เขาก็ตั้งใจหยุดชะงัก และกระพริบตาให้เยี่ยอู่ตี้
เยี่ยอู่ตี้เข้าใจในทันที และใช้โอกาสนี้รีบลุกขึ้นจากพื้น
“ทำไมไม่พูดต่อล่ะ?” เมื่อหลงหนู่เห็นเยี่ยชิวหยุดไป เธอก็รู้สึกไม่หงุดหงิด และถามว่า “นายก็คิดว่าฉันหน้าตาน่าเกลียดด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ?” เยี่ยชิวปฏิเสธทันควัน และพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ผมเคยเห็นคนหน้าสะสวยมาก็เยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดาราดังหรือนางแบบชื่อดังระดับโลก เมื่อเทียบกับพี่แล้ว พวกเธอนั้นยังเทียบไม่ติดหรอกครับ”
“พี่สาวแต่งตัวได้ดูมีรสนิยมขนาดนี้ คงต้องสวยราวกับดอกไม้ งดงามที่สุดในแผ่นดิน สวยแบบวัวตายควายล้มกันไปเลย สวยไปหมดเลยล่ะครับ”
เยี่ยชิวยกสำนวนทั้งหมดมาพูดในคราวเดียว และเยินยอหลงหนู่อย่างถึงที่สุด
แม้ว่าวิธีนี้ของเขาจะดูโบราณไปหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่าผลลัพธ์นั้นดีจริงๆ
จิตสังหารของหลงหนู่นั้นเริ่มหายไปไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
“พูดจบแล้วยัง?”
ทันทีที่เยี่ยชิวหยุด หลงหนู่ก็ถาม
“เอ่อ... จริงๆแล้วผมคิดว่าคำแค่นี้มันยังดูผิวเผินเกินไป และมันยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายความงดงามของพี่สาวได้หมด ผมคิดว่ามีกลอนบทนึงที่เหมาะกับพี่อยู่นะ” เยี่ยชิวกล่าว
“กลอนอะไร?” ดวงตาของหลงหนู่ฉายแววถึงความอยากรู้
"กลอนนั้นก็คือ..." เยี่ยชิวเหลือบมองเยี่ยอู่ตี้
เยี่ยอู่ตี้พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: "ฉันไม่รู้กลอนห่าอะไรทั้งนั้นแหละ"
ไอบ้าเอ้ย!
ฉันอุดส่าหาโอกาสให้คุณหนีไปนะ!
เยี่ยชิวหมดคำจะพูด
“กลอนนั้นคือกลอนอะไร?” หลงหนู่ถาม
เยี่ยชิวพูดเสียงดัง: "ทางเหนือนั้นมียอดหญิงงาม ทั่วแผ่นดินมีเพียงหนึ่งเดียว ชม้ายคราแรกล่มเมือง ชายตาอีกคราล่มชาติ หาได้รู้ล่มชาติล่มเมืองไม่ เพียงเพราะหญิงงามนั้นยากพานพบอีก"
“พี่สาวครับ ผมคิดว่ากลอนนี้เขียนขึ้นมาเพื่อพี่โดยเฉพาะเลยล่ะ”
“เมื่อมองดูแล้ว มีเพียงรูปร่างหน้าตาของพี่เท่านั้นที่คู่ควรกับกลอนบทนี้”
คึคึคึ…
หลงหนู่หัวเราะราวกับว่ากลัวดอกพิกุลจะร่วง
เยี่ยชิวเหลือบไปมองเยี่ยอู่ตี้อีกครั้ง อีกนิดก็อยากจะตะโกนว่า “คุณลุง รีบหนีไปสิ ทำไมยังยืนโง่อยู่ที่นี่อีก?”
ไม่เพียงแต่เยี่ยอู่ตี้ไม่ได้วิ่งหนีไป แต่เขายังเหยียดหยามเยี่ยชิวอีกด้วย
ไอ้หมาชอบเลียเอ้ย!
เพื่อมีชีวิตรอด นี่นายกล้าพูดอะไรที่มันฝืนใจออกมา ศักดิ์ศรีของนายอยู่ที่ไหนกัน?
น่าขยะแขยง!
พอหลงหนู่หยุดหัวเราะ เธอก็มองไปที่เยี่ยชิวแล้วพูดว่า "ปากของนายนี่มันหวานซะจริง"
แบบนี้ก็ไม่มีทางสู้ซะแล้วสิ
ทำยังไงดี?
และจู่ๆเยี่ยชิวก็มีความคิดนึงในหัว…หนี!
แม้ว่าเขาจะตัดสินใจในใจแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงสงบในขณะที่เขาพูดกับหลงหนู่: "พี่สาว เรามาคุยกันดีๆก่อน..."
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เยี่ยอู่ตี้ก็ขัดจังหวะเขาซะก่อน
“เยี่ยชิว นายช่วยหยุดพูดคำก็พี่สาวสองคำก็พี่สาวสักทีเถอะ ฟังแล้วมันขยะแขยง ด้วยอายุของเธอ นายน่าจะเรียกว่าคุณยายได้แล้วนะ”
ดวงตาที่เย็นชาของหลงหนู่จ้องไปที่เยี่ยอู่ตี้ และเธอก็พูดอย่างเย็นชา: "นี่นายกล้าเรียกฉันว่ายายงั้นเหรอ อยากตายมากใช่มั้ย?"
เยี่ยอู่ตี้ต่อล้อต่อเถียง: "ฆ่าได้ก็เอาสิ"
“นายไม่กลัวตายสินะ?” หลงหนู่ถาม
เยี่ยอู่ตี้พูดเสียงดัง: "เป็นถึงผู้นำสำนักพราหมณ์ เธอกลับกล้าถามคำถามอะไรงี่เง่าเช่นนี้ ตอนนี้ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าเธอเป็นโรคประสาทอะไรรึเปล่านะ"
“ขอถามหน่อยเถอะ ใครในโลกนี้ไม่กลัวความตายบ้าง?”
“แม้ว่าฉันจะกลัวความตาย แต่เยี่ยอู่ตี้คนนี้ทำอะไรต้องสง่าผ่าเผยตลอด ฉันจะไม่มีวันกลัวเธอเพียงเพราะระดับพลังยุทธ์ของเธอสูงกว่าของฉันหรอกนะ”
“เธอไม่ได้อยากฆ่าฉันงั้นเหรอ? เอาสิ!”
เยี่ยอู่ตี้ชูดาบนกกระจอกมังกรต้าเซี่ยขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะสู้กับหลงหนู่ให้ตายกันไปข้าง
และไม่คิดว่า หลงหนู่จู่ๆก็หัวเราะออกมา
“เยี่ยอู่ตี้ ฉันจะให้โอกาสนาย ตราบใดที่นายเข้าร่วมสำนักพราหมณ์ของเรา ฉันจะไม่ฆ่านาย คิดว่ายังไง?”
เยี่ยอู่ตี้พูดด้วยสีหน้าที่ตรงไปตรงมา: "ฉันเยี่ยอู่ตี้ เกิดเป็นคนจีนและจะตายบนแผ่นดินจีนและจะไม่มีวันเป็นลูกน้องของเธอเด็ดขาด"
หลงหนู่กล่าวว่า: "นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้ให้นายมาเป็นลูกน้องของฉันสักหน่อย"
หมายความว่ายังไง?
เยี่ยอู่ตี้สับสนเล็กน้อย
หลงหนู่กล่าวว่า “ถ้านายยินดีจะเข้าร่วมกับสำนักพราหมณ์ ฉันจะให้ตำแหน่งผู้นำสำนักแก่นาย”
ยังไงเยี่ยอู่ตี้ก็ไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่เธอพูดมา และถามว่า: "ผู้นำสำนัก ให้ฉัน แล้วเธอล่ะ?"
ความเขินอายแวบขึ้นมาในดวงตาของหลงหนู่ง และตอบว่า “ฉันก็จะเป็นภรรยาของผู้นำสำนักไงล่ะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...