จู่ๆ เยี่ยชิวก็พูดขึ้นมาก
“จางจื้อหาว รอสักครู่!”
จางจื้อหาวหยุดชั่วคราว ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเยี่ยชิว และถามว่า: "คุณเป็นใคร"
“เขาเป็นหลานเขยของฉัน” ผู้เฒ่าซวีพูดขึ้นทันที
เยี่ยชิวพูดไม่ออก ฉันกลายเป็นหลานเขยของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทำไมฉันไม่ทราบมาก่อน?
ใบหน้าของ ซวีชางจิน เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย
จางจื้อหาว เหลือบมองที่ ซวีชางจิน และถาม เยี่ยชิวด้วยรอยยิ้มว่า: "ไม่รู้ว่าคุณผู้ชายมีอะไรจะชี้เเจงหรือเปล่า?"
“ฉันชื่อ เยี่ยชิวมาจากเจียงโจวของแคว้นหวา” เยี่ยชิวแนะนำตัวเองก่อน จากนั้นจึงเดินไปที่จางจื้อหาว และกระซิบว่า “ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”
“ไม่ทราบว่าคุณเยี่ยต้องการถามอะไรเหรอ”
เยี่ยชิวกล่าวว่า: "คุณรู้จักลีจองฮี หรือเปล่า"
ดวงตาของจางจื้อหาวกะพริบ และเขาก็ถามว่า: "หมอเยี่ยถามถึงลีจองฮีทำไมเหรอ"
“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักเขา” เยี่ยชิวกล่าว: “ภาพวาดโบราณของลีจองฮีเหล่านั้นเขาได้ซื้อมาจากคุณใช่ไหม?”
ในสายตาของจางจื้อหาวมีความระมัดระวังขึ้น
เยี่ยชิวยิ้มและพูดว่า: "บอกตามตรงนั้นว่าฉันชอบสะสมของโบราณอย่างภาพวาดโบราณพวกนี้ คุณยังมีอยู่ไหม? ตราบใดที่คุณมีไม่ว่าเท่าไหร่ ฉันเอาหมดเลย แน่นอนว่าคุณต้องพอใจกับราคาแน่”
ปรากฎว่าเป้าหมายของผู้ชายคนนี้คือภาพวาดโบราณ!
“ฉันขายภาพวาดโบราณทั้งหมดเกล่านั้นให้กับลีจองฮีแล้ว” จางจื้อหาว กล่าว
"น่าเสียดาย……"
เยี่ยชิวดูเสียใจ และถามต่อว่า "คุณจาง คุณยังของมีค่าอื่นๆอีกไหม"
เขาได้ยินมาจากเทพทหารว่าชายคนนี้เพิ่งขโมยสุสานโบราณของราชวงศ์เกาหลีไป
จางจื้อหาว ส่ายหัวแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ฉันได้ของดีๆมาตั้งเยอะแต่น่าเสียที่ขายไปหมดแล้ว"
เชี้ย!
เยี่ยชิว แอบสาปแช่งว่าจางจื้อหาวนั้นโลภมาก คุณได้ขโมยสุสานโบราณไปแล้วยังจะลักพาตัวลูกนอกสมรสของผู้เฒ่าซวี ช่างเป็นคนที่ไม่รู้จักพอสักจริงๆ
เสียงของจางจื้อหาวเปลี่ยนไป: "คุณเยี่ย เนื่องจากว่าคุณชอบสะสมของโบราณ ต่อไปนี้ถ้าฉันได้ของดีๆมาจะติดต่อคุณเป็นคนแรก"
“งั้นตกลงตามนี้นะ คุณจาง ฉันหวังว่าอานาคตเราจะได้ร่วมมือกันอย่างมีความสุข” เยี่ยชิวยื่นมือขวาออกมา
จางจื้อหาวไม่ได้คิดมากและจับมือกับเยี่ยชิวด้วยรอยยิ้ม
ต่อมา
จางจื้อหาวก็ขึ้นรถแล้วจากไป
ทันทีที่เขาจากไป ซวีจื้อหมิงก็พูดอย่างสงสัยว่า: "เยี่ยชิว ก่อนหน้าที่อยู่ในห้องสมบัตินี้ คุณพ่อจะมอบสมบัติมากมายให้กับคุณคุณก็ไม่เอา อต่ตอนนี้ทำไมคุณถึงไปหาซื้อภาพวาดโบราณกับจางจื้อหาวล่ะ"
เยี่ยชิว กล่าวว่า: "ฉันแค่อยากแน่ใจว่าหัวหน้าแก๊งปล้นสุสานที่ลีจองฮีพูดถึงนั้นใช่ จางจื้อหาวหรือเปล่า?"
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าชุดภาพวาดโบราณที่ลีจองฮีมอบให้ผู้เฒ่าซวีนั้นจะซื้อมาจากจางจื้อหาว”
ซวีจื้อหมิงด่าว่า: "ไอ่จางจื้อหาวคนนี้ไม่เพียงแต่จะลักพาตัวแต่ยังปล้นสุสานอีก ช่างไม่กลัวตายสักเลยจริงๆ "
เยี่ยชิวเห็นด้วยกับคำพูดของซซีจื้อหมิง และพยักหน้า: "เขาสมควรตายจริงๆ"
ในเวลานี้ ซซีจื้อหมิงก็พูดกับผู้เฒ่าซวีว่า: "คุณพ่อ จางจื้อหมิงนั้นเป็รอันธพาล คุณสุภาพกับเขาเกินไปหรือเปล่า?"
ผู้เฒ่าซวียิ้มและพูดว่า "ฉันทำแบบนี้ เพราะหวังว่าเขาจะไม่ทำร้ายชางซู"
“คุณพ่อ งั้นห้าพันล้านจะให้จางจื้อหาวจริงๆเหรอ?”
“ความน่าเชื่อถือคือกฎแรกของนักธุรกิจ ในเมื่อฉันได้ตกลงไปแล้ว แน่นอนว่าฉันก็จะให้กับเขา”
“คุณพ่อ คุณเคยคิดเรื่องนี้ไหม? หากข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ออกไปในภายหลัง และพวกอันธพาลคนอื่นๆก็เลียนแบบจางจื้อหาว ลักพาตัวฉัน หรือลักพาตัว ฮุ่ยเสียนและชางจิน คุณจะทำยังไง”
“ฉันก็จะจ่ายค่าไถ่ให้เหมือนกัน”
เยี่ยชิววางภาชนะเฉียนคุนลง และนั่งขัดสมาธิบนพื้นเพื่อฝึกซ้อม
ในไม่ช้า ก็มีแสงสีทองจาง ๆ เปล่งออกมาจากพื้นผิวร่างกายของเขา
เยี่ยชิว ใช้ศิลปะวิชามังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิง และกระแสชี่แท้สองสายก็เดินไปในเส้นลมปราณทั้งแปดของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ร่างของเยี่ยชิว ค่อยๆ ลอยออกจากพื้นและหมุนตัวขึ้นไปในอากาศ
ในตอนแรกความเร็วในการหมุนนั้นช้ามาก จากนั้นมันนก็หมุนเร็วขึ้นตามเวลา ในท้ายที่สุดร่างกายของ้ยี่ยชิว ก็กลายเป็นร่างเงาพร่ามัว ซึ่งยากที่จะมองเห็นด้วยตามเปล่า
ในเวลาเดียวกัน
แสงสีทองบนร่างของเยี่ยชิว ก็เปลี่ยนจากสีทองอ่อนเป็นสีทองสว่าง และตัวเขานั้นก็เหมือนกับพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง
ฝึกซ้อมไปเป็นเวลาสองชั่วโมง
เยี่ยชิวก็หยุดลง
ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็มีแสงสีทองอยู่ในรูม่านตาของเขา ซึ่งราวกับว่าเป็นตาทิพย์ วาบไปมาในพริบตา
“ไปต้าตงมารอบนึง ได้ฝึกฝนชี่แท้โดยกำเนิดขั้นสองมาได้แล้ว แต่วิชาวิชามังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะบรรลุผ่านไปสู่อาณาจักรที่สี่”
“แม้ว่าดรรชนีกระบี่หกชีพจรมีพลังในการสังหารที่ทรงพลังมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสูง เหตุผลหลักนั้นก็คือพลังยุทธ์ของฉันนั้นยังอ่อนแอไปหน่อย”
“ต้องหาวิธีเพิ่มพลังยุทธ์ให้เร็วที่สุด”
“ยิ่งระดับพลังยุทธ์แข็งแกร่งขึ้น พลังของการเคลื่อนไหวพิเศษเหล่านั้นก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น หากอนาคตต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดแก่ในพระราชวังต้องห้ามพวกนั้น ก็มีโอกาสรอดเพิ่มขึ้น”
“หากสามารถฝึนฝนพลังแท้จริงโดยกำเนิดทั้งเจ็ดขั้นในช่วงเวลาสั้น ๆได้ก็อาจจะสามารถสังหารหลงอีได้”
เมื่อเยี่ยชิวนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็อดยิ้มไม่ได้
สำหรับเขา ความคิดแบบนี้เป็นเพียงจินตนาการและไม่สมจริงเกินไป
จากนั้นเยี่ยชิว ก็เดินไปที่หน้าต่างและมองดูค่ำคืนที่มืดมิดด้วยเจตนาฆ่าที่แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา
“ถึงเวลาที่ต้องไปกำจัดจางจื้อหาวแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...