วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 7

ความรู้สึกซาบซึ้งของฉินซูนั้นสลายหายไปหมดสิ้นในชั่วพริบตา

เธอพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “คุณท่านจะไม่เป็นอะไร”

ดวงตาที่นิ่งเฉย น้ำเสียงที่ไพเราะ แสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจไปโดยปริยาย

แค่เพียงชั่วพริบตาของฉู่หลินเฉิน เมื่อเขามองเธออีกครั้ง ก็เห็นเธอก้มลงไปเริ่มทำการปฐมพยาบาล

โรคลมชักเมื่อกำเริบดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ความจริงแล้ว ขอเพียงแต่คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้วิธีจัดการที่ถูกต้อง ก็จะสามารถช่วยเหลือได้ ทำให้ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต

แต่ถ้าโกลาหลเหมือนอย่างคนในตระกูลฉู่ก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็นอีกอย่าง

ขณะที่ฉินซูเข้าสู่กระบวนการรักษา เธอก็จะจดจ่ออยู่กับการรักษาอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

ในตอนนี้ เธอพูดออกมาโดยที่ไม่เงยหน้า “พวกคุณถอยออกไป อย่ามุง ให้อากาศได้ถ่ายเท!”

ฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่หลอกลวงคนนี้กล้าออกคำสั่งกับคนในครอบครัวเธอ

แต่เธอสิ่งทำให้เธอตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉู่หลินเฉินลุกขึ้นให้ความร่วมมือเป็นคนแรก เขาถอยออกไปด้านข้าง

และยังส่งสัญญาณให้ฉู่สวี่และภรรยาถอยออกมา

ฉู่หยุนซีกัดฟันกรอด ยิ่งเห็นสายตาของฉินซูยิ่งทำให้ไม่พอใจ

ฉินซูเริ่มจากปลดกระดุมของหญิงชรา จากนั้นพยายามเอาเสื้อผ้ามารองแขนของหญิงชราไว้อย่างลวก ๆ เพื่อป้องกันการกระแทก

คนใช้ยกน้ำและผ้าขนหนูเข้ามา

มองเห็นริมฝีปากที่สั่นเทาของหญิงชรา เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วรีบนำผ้าขนหนูยัดใส่ปากของหญิงชราอย่างรวดเร็ว

ขณะดึงมือออก เธอขมวดคิ้วพร้อมกับพูดออกมา

“ในตอนที่อาการของโรคลมชักกำเริบ สิ่งที่ควรระวังคือผู้ป่วยกัดตัวเอง การประทะกันของเหงือกอย่างรุนแรงในขณะที่ชักนั้น อาจจะทำให้ฟันหลุดออกมาได้ ถ้าหากฟันที่หลุดออกมาไปติดในลำคอก็จะอันตรายถึงแก่ชีวิต”

ฉินซูพูดอธิบาย

การกระทำของเธอต่อเนื่องเป็นระบบระเบียบเรียบร้อย และมีความเป็นมืออาชีพ

คนตระกูลฉู่ที่อยู่ข้าง ๆ มองเธออย่างคล้อยตาม

พวกเขาเชื่อถือคำพูดของเธอ

สายตาของฉู่หลินเฉินมองไปที่เธอตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ความรู้สึกสงสัยปรากฏขึ้นในแววตาดำขลับคู่นั้น

ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้?

ลักษณะท่าทางที่สงบนิ่งและใจเย็น การกระทำที่เป็นระเบียบ น้ำเสียงที่เรียบเฉย… เกือบจะทำให้คิดว่า คนที่ช่วยเขาในคืนนั้นคือเธอ!

หรืออาจจะเป็นเพราะว่าทั้งเธอ และหวังอี้หลินต่างก็เป็นนักศึกษาแพทย์?

เขาสลัดความคิดเหลวไหลออกไปอย่างเงียบ ๆ

เธอนั่งยอง ๆ อยู่ตลอดเพื่อสังเกตดูอาการของหญิงชราอย่างใกล้ชิด

ผ่านไปไม่กี่นาที หญิงชราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

ฉินซูนำผ้าขนหนูที่อยู่ในปากของหญิงชราออก แล้วช่วยพยุงเธอลุกขึ้น

เธอไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากนักเนื่องจากนั่งยองนานเกินไป เข่าของเธอจึงเกิดอาการชา

เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรง แขนยาวข้างหนึ่งยื่นออกมารับน้ำหนักทั้งหมดเอาไว้

“ขอบ…”

ฉินซูกำลังเอ่ยขอบคุณ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เย็นชาและเฉยเมยของฉู่หลินเฉินนั้น เธอก็กลืนคำว่า “คุณ” ลงไป

ฉู่หลินเฉินพยุงหญิงชราไปนั่งพักบนเก้าอี้

ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้สติ

“เกิดอะไรขึ้น…”

เมื่อคนตระกูลฉู่แน่ใจว่าซ่งจิ่นหรงไม่เป็นอะไรแล้ว ก็คลายความกังวลใจลงไปได้ในที่สุด

“คุณย่าเพิ่งจะล้มลงไปบนพื้นและหมดสติ! ทั้งหมดเป็นความผิดของยัยของเลียนแบบคนนี้” ฉู่หยุนซีพูดอย่างโกรธแค้น เธอชี้ไปยังฉินซู “เว่ยเหอ รีบแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาพาตัวผู้หญิงหลอกลวงคนนี้กลับไป คุมขังเธอไว้สักสามสี่ห้าปี เธอจะได้ไม่กล้าไปหลอกใครอีก!”

จิตใต้สำนึกสั่งให้เว่ยเหอมองไปยังฉู่หลินเฉิน

เขาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณชายฉู่ โดยปกติแล้วก็จะฟังคำสั่งของคุณชายฉู่เท่านั้น

“เอ๋? นักข่าวล่ะ...”

สายตาของหลายคนจับจ้องไปที่ทะเบียนสมรสที่อยู่ในมือของลุงหมิง ซับซ้อนอะไรอย่างนี้

ใครจะคิด ว่าคุณท่านของตระกูลฉู่จะแอบเตรียมการไว้มากมายขนาดนี้ เพื่อให้หลานชายของเธอแต่งงาน?

ทันใดนั้น บรรยากาศภายในห้องโถงก็อึดอัด และตึงเครียดขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าตระกูลฉู่กำลังพบเจอกับปัญหาที่ยากจะแก้ไข ทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบ

มีเพียงฉินซูเท่านั้นที่ก้มมองดูปลายเท้าตัวเอง ในใจคิดว่าถ้าตนเองถูกตำรวจจับ จะโดนตัดสินจำคุกนานแค่ไหน…

เรื่องที่ฉินซูสวมรอยมาเป็นคุณหนูของตระกูลฉู่ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่…

เชิญนักข่าว ส่งรถไปรับฉินซูเข้ามา ประกาศข่าวออกไปทุกเครือข่าย แม้กระทั่งทำทะเบียนสมรสล่วงหน้า… ล้วนเป็นฝีมือคุณท่านของตระกูลฉู่

หากเรื่องราวแพร่กระจายออกไปจะทำให้ตระกูลฉู่เสียหน้า

ตระกูลสูงศักดิ์อย่างพวกเขาไม่สามารถอดทนกับข่าวอื้อฉาวได้

แต่ฉินซูเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ได้มีใครมาสนใจ

สองสามีภรรยาฉู่สวี่และหลิ่วเหวยลู่กำลังพิจารณาชั่งน้ำหนักและตัดสินใจ

“อาเฉิน เราเก็บเธอไว้ก่อนดีกว่าไหม ลูกทั้งคู่ช่วยกันรักษาความสัมพันธ์ตอนนี้ไว้ก่อนชั่วคราว รอให้สังคมให้ความสนใจกับเรื่องนี้น้อยลง แล้วค่อยคิดกันว่าจะจัดการกับเธอยังไง ลูกคิดว่าไง?”

ทันทีน้ำเสียงของฉู่สวี่หยุดลง ฉู่หยุนซีก็กระทืบเท้าไม่ยอมด้วยความโกรธ “ไม่โอเคอย่างแน่นอน! คุณพ่อ คุณพ่อจะให้ของเลียนแบบมาอยู่ในบ้านเราได้ยังไง? ถ้าเธอไม่ยอมจากไปจากบ้านเราจะทำยังไง? แล้วยังจะให้เธอมาเป็นพี่สะใภ้หนูอีกเหรอ!”

“หุบปาก!” หลิ่วเหวยลู่ดุเธอด้วยเสียงต่ำ

สองสามีภรรยาหันไปมองฉู่หลินเฉิน ขอความคิดเห็นของเขา

ใบหน้าที่เย็นชาของฉู่หลินเฉินมองไปยังฉินซูด้วยความเกลียดชัง

เขากำลังจะปฏิเสธ แต่กลับมีใครบางคนพูดขึ้นก่อน

“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะยังไม่ได้ถามความคิดเห็นของฉัน?”

ฉินซูที่เงียบมาโดยตลอด จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง