ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 964

“ปากก็เอาแต่บอกว่าตนเองเกลียดกู้โม่หานเข้ากระดูกดำ แต่ท้ายที่สุดแล้วเป็นอย่างไร? ชัดว่าปากไม่ตรงกับใจ! ไม่รู้ว่าทั้งวันท่านจะแสร้งยกตนเป็นผู้สูงส่งบริสุทธิ์เช่นนี้ให้ผู้ใดได้ยลกัน!”

ยิ่งได้พูด ลู่เจียวเจียวก็ยิ่งมีโทสะ แม้กระทั่งสีหน้ายังแสดงออกชัดถึงความดื้อรั้นและริษยา

“หนานหว่านเยียน บรรดาเสด็จพี่ทั้งรักและให้ท้ายเจ้าออกเพียงนี้ คิดว่าตัวเจ้ามีดีเพียงใดกันเชียว ก็แค่คนที่มีดีสวยหรูแต่เปลือกนอก ไม่รู้ว่าโม่เหยียนคนนั้นตาบอดหรือว่าอะไร ถึงได้ทำทุกอย่างเพื่อเจ้า สุดหัวจิตหัวใจ กล้าแม้กระทั่งล่วงเกินหยามเกียรติตัวข้า!”

“เจ้าอย่าลืมสิ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน จนถึงบัดนี้ยังนอนซมติดเตียงลุกขึ้นมาไม่ได้เลย! หากเขาทราบว่าเจ้าคืนดีกับอดีตสามีแล้ว จะไม่ตรอมใจตายเลยหรือ!”

ลู่เจียวเจียวกำลังหงุดหงิดใจยิ่งนัก ไม่กระจ่างแม้แต่น้อยว่าคนอย่างหนานหว่านเยียน มีดีอะไรนักหนาถึงได้รับความรักใคร่ทะนุถนอมจากคนจำนวนมากเช่นนั้น

พวกเสด็จพี่แทบทุกคน ล้วนทะนุถนอมนางไว้ในฝ่ามือ ทั้งรักใคร่และเอ็นดูอย่างสุดซึ้ง

ทั้งที่นางเองก็เป็นองค์หญิงเหมือนกัน เมื่อก่อนพวกเสด็จพี่ก็แทบจะไม่เคยเอ็นดูทะนุถนอมนาง กลับกันแล้วยังอาฆาตมาดร้ายตาต่อตาฟันต่อฟันกับนาง ทว่านับแต่หนานหว่านเยียนกลับมา ทุกสิ่งล้วนกลับตาลปัตร

หนานหว่านเยียนฟังลู่เจียวเจียวแดกดันเหยียดหยาม คล้ายกับกำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้โม่เหยียนอยู่ก็ไม่ปาน ดวงหน้างามสุขุมยังคงเรียบเฉย ทว่าในใจกลับแค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบไม่สิ้นสุด

หากว่าโม่เหยียนไม่ใช่กู้โม่หานแล้ว ในใจของโม่เหยียนย่อมมีคนรักอยู่แล้ว เช่นนั้นจะมีอะไรไม่เป็นธรรมอีก

แต่ถ้าหากโม่เหยียนเป็นคนเดียวกับกู้โม่หาน เช่นนั้นแล้ว…

นางปรายสายตามองลู่เจียวเจียว ก่อนจะหยิบโอสถพิษเม็ดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้ออย่างไม่ลังเล เดินตรงเข้าไปบีบกรามล่างของลู่เจียวเจียวไว้ ยัดโอสถนั้นเข้าปากนางด้วยกำลังบังคับ

ลู่เจียวเจียวถูกหนานหว่านเยียนกรอกโอสถพิษโดยไม่ทันระวังตัว เกือบจะสำลักตายให้ได้

นางไอออกมาอย่างรุนแรง “หนานหว่านเยียน เจ้าให้ข้ากินอะไร?!”

“โอสถพิษน่ะสิ” แววตาหนานหว่านเยียนเย็นเยียบน่าเกรงขาม “ในเมื่อยามนี้เจ้ายอมเชื่อฟังทำตามคำสั่งข้าแล้ว ก็รู้จักทำปากให้สะอาดบ้าง ข้าจะได้ลดโทษให้เจ้าบ้าง”

โอสถพิษ?!

นัยน์ตาลู่เจียวเจียวฉายประกายวาวโรจน์ บีบคอตนเองจนไอออกมาอย่างรุนแรง หมายจะขย้อนเม็ดยาออกมาแต่กระนั้นก็ทำไม่ได้ นางทั้งไอทั้งอาเจียนจนหน้าแดงก่ำ ถลึงตาอาฆาตมองหนานหว่านเยียน “หนานหว่านเยียน! เจ้า เจ้ากล้าดีอย่างถึงได้จิตใจอำมหิตเช่นนี้? ทำไมข้าพูดความจริงแล้วรับไม่ได้หรือ?!”

“เอาโอสถถอนพิษให้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะ…”

“ลู่เจียวเจียว” หนานหว่านเยียนตัดบทนางอย่างไม่ไยดี ดวงหน้างดงามสุขุมนั้น ถูกเคลือบด้วยความเยียบเย็นน่าเกรงขามไว้ “ข้ามิได้ล้อเจ้าเล่น ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีอารมณ์รักษาเจ้าด้วย หากหนนี้เจ้ายังลากตัวคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังออกมาไม่ได้ เจ้าก็เตรียมตัวตายได้เลย”

“ท่านแม่ขอรับ หลังจากนี้พวกข้า จะไม่ได้พบท่านพ่อใหญ่แล้วใช่หรือไม่ขอรับ…”

ท่าทางกระเง้ากระงอดน้ำตารื้นของเขาช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก ก้อนไขมันกลมเกลี้ยงบนพวงแก้มปูดขึ้นมา มองแล้วน่ารักน่าทะนุถนอมสุดดวงใจ

ไม่คอยให้หนานหว่านเยียนทันตอบคำถาม เด็กน้อยพลันเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นต่ออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ข้ากับท่านพี่ เพิ่งจะเคยพบท่านพ่อครั้งแรก อยู่กับท่านพ่อ ได้เพียงวันเดียว ก็ต้องแยกจากกันแล้วหรือ…”

สิ้นเสียงนั้น อันอันก็ทำตามน้องชายบ้าง สีหน้าท่าทางเศร้าซึมหมองหม่นอย่างถึงที่สุด ในแววตาเต็มด้วยความผิดหวังและกลัดกลุ้มทุกข์ใจ

หนานหว่านเยียนเม้มปากอย่างอดไม่ไหว ก่อนจะยื่นมือออกไปลูบศีรษะปลอบประโลมเจ้าเด็กน้อยสองคนอย่างอ่อนโยน ในเสี้ยวขณะที่นางกำลังจะเอ่ยวาจาปลอบโยน นอกม่านรถม้าพลันมีเสียงลนลานของอวี๋เฟิงแว่วดังขึ้นมา

“ช้าก่อนฮองเฮาเหนียงเหนียง ฝ่าบาททรงรับสั่ง ให้ข้าน้อยรับพระราชดำรัสมาถวายต่อท่านและเหล่าองค์หญิงองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ”

ฟังว่ากู้โม่หานฝากคำพูดมา เจ้าตัวน้อยทั้งสี่พลันตื่นเต้นมีชีวิตชีวาขึ้นทันใด เกี๊ยวน้อยตรงไปเลิกม่านรถม้าขึ้นอย่างไม่รอช้า มองปราดเดียวก็เห็นอวี๋เฟิงท่าทางกระหืดกระหอบอยู่ตรงนั้น

ซาลาเปาน้อยและหนานหว่านเยียนต่างทอดสายตามองไปทางเขาพร้อมกัน ส่วนอันอันและน่าวน่าวต่างตาลุกวาวพราวแพรว หยัดกายลุกขึ้นทันที เข้าไปดึงรั้งแขนเสื้อของอวี๋เฟิงไว้

“ท่านพี่อวี๋เฟิง ท่านพ่อฝากมาบอกว่าอะไรหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้