เมื่อเห็นว่าหวงไท่โฮ่วยังคงไม่เห็นด้วย จักรพรรดิก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความผิดหวังว่า “เสด็จแม่ ตอนนี้ท่านสงสารอาเจี๋ย แต่ในตอนนั้นท่านเคยรู้สึกสงสารข้าบ้างหรือไม่?”
หวงไท่โฮ่วได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็ทนไม่ได้ บางทีอาจเป็นเพราะนางแก่ลง ใจถึงได้อ่อนลงไปด้วย บัดนี้จิตใจของนางคิดแต่เรื่องลูกหลานเท่านั้น
นางพูดอย่างใจเย็น “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว แม่พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ อีกทั้งแม่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แม่จะออกคำสั่งให้อาเจี๋ยเข้าวัง เมื่อถึงเวลา เจ้าสามารถออกคำสั่งได้ ตอนนี้เขากักตัวเซี่ยจื่ออันไว้แล้ว เจ้าสามารถสั่งให้เขาพาเซี่ยจื่ออันเข้าวังได้ แล้วถามเขาให้ชัดเจน บางทีเรื่องนี้อาจยังมีลับลมคมในที่ยังไม่รู้อีกก็เป็นได้”
“เสด็จแม่สั่งให้พาเซี่ยจื่ออันเข้าวัง ถ้าเขาขัดขืนคำสั่งและไม่พาเซี่ยจื่ออันเข้ามา ก็แสดงว่าเขาตั้งใจจะปกป้องเซี่ยจื่ออัน ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะผิดหวังในตัวเขามาก” จักรพรรดิกล่าว
หวงไท่โฮ่วมองดูเขา ถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใดอีก
เมื่อหวงไท่โฮ่วกลับไปที่ห้องบรรทม ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องจักรพรรดิตัดสินใจตัดแขน อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะจักรพรรดิต้องการประหารเซี่ยจื่ออัน
“เจ้าคิดว่าท่านอ๋องชอบเซี่ยจื่ออันจริงหรือ?” หวงไท่โฮ่วถามซุนกงกง หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน
ซุนกงกงตอบว่า “ไท่โฮ่ว ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลม ต่างก็สามารถบอกได้ทันทีว่าท่านอ๋องห่วงใยพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
หวงไท่โฮ่วรู้สึกหนักใจนัก “หากข้าสั่งให้เขาพาจื่ออันเข้ามาในวัง จื่ออันจะต้องตายแน่นอน ข้านั้นช่างเหี้ยมโหดเสียจริง”
ซุนกงกงไม่สามารถให้คำแนะนำได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกะทันหัน อันที่จริง ทุกคนคิดว่าอาจไม่ใช่พระชายาที่เป็นคนพูด แต่ข่าวลือกลับชี้ไปยังสาวใช้ที่อยู่ข้างกายพระชายา
ไฉ่เตี๋ย นางกำนัลเข้ามารายงาน “หวงไท่โฮ่วเหนียงเหนียง กุ้ยไท่เฟยเสด็จมาเพคะ”
เมื่อหวงไท่โฮ่วได้ยินดังนั้น ก็ยกมือขึ้นลูบหว่างคิ้ว “นางมาที่นี่เพื่ออะไร?”
ตั้งแต่รู้ว่านางไม่เคยยอมแพ้ หวงไท่โฮ่วก็ไม่ต้องการพบนางอีกต่อไป
ซุนฟางเอ๋อร์เป็นความอัปยศของตระกูลซุน หวงไท่โฮ่วเป็นลูกสาวของตระกูลซุน นางจึงไม่อาจทนเจอหน้าซุนฟางเอ๋อร์ได้
กุ้ยไท่เฟยคุกเข่าลง “พี่สาว น้องเข้าวังมาครั้งนี้ เพราะต้องการขออะไรบางอย่างเพคะ”
หวงไท่โฮ่วขมวดคิ้ว ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ นางต้องมีแผนการเป็นแน่
นางพูดอย่างเย็นชา “ให้นางออกไปก่อน ข้าไม่ต้องการเห็นนาง”
ซุนฟางเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น แล้วโค้งคำนับ “หวงไท่โฮ่ว ฟางเอ๋อร์รู้ว่าเคยทำผิดพลาดมากมายมาก่อน และไม่กล้าขออภัยโทษจากหวงไท่โฮ่ว เพราะเห็นแก่สายเลือดและตระกูล ครั้งนี้ฟางเอ๋อร์เข้าวังมา เพราะต้องการรักษาอาการป่วยของจักรพรรดิ ฟางเอ๋อร์เคยเห็นบาดแผลบนพระพักตร์ของจักรพรรดิมาก่อน และได้ทำการรักษาเพคะ”
หวงไท่โฮ่วพ่นลมหายใจ แล้วพูดประชดประชัน “ข้าคิดว่าคนตระกูลซุนที่เรียนวิชาแพทย์คือโหรวเหย๋า ที่แท้เป็นเจ้าหรอกหรือ? ข้าจำผิดไปหรือไม่? เจ้าเป็นคนเรียนวิชาแพทย์ ส่วนโหรวเหย๋าเป็นคนเรียนคาถาอาคมงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...