ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 162

พ่อบ้านฟั่นอยู่ได้ไม่เกินสองชั่วยามก็พลันสิ้นใจ

แม่นมลี่ได้ยินข่าวก็วิ่งมาเรียนหลิงอวี๋ให้ทราบทันควัน

นางถ่มน้ำลายพลางด่าทอ “ตาเฒ่าเดรัจฉานผู้นี้ เขาตายแบบนี้สบายเกินไปแล้ว!”

แม่นมลี่ถอนหายใจ เอ่ยอีกว่า “เฒ่าเดรัจฉานถึงตายก็ไม่สาสมต่อความผิด! อย่างไรเสียภรรยากับลูกสะใภ้ของเขาต้องรับโทษตาม! ท่านอ๋องไม่อภัยพวกนางแน่!”

หลิงอวี๋นึกถึงสีหน้าเปี่ยมความผันผวนของแม่นางฟั่นก็เอ่ยถามทันใด “ภรรยากับลูกสะใภ้ของเขาเป็นคนเช่นไร?”

แม่นมลี่ตอบ “แม่นางฟั่นคือคนซื่อสัตย์ทำตามกฎ เทียบไม่ได้กับความคิดโสมมพวกนั้นของพ่อบ้านฟั่น! พ่อบ้านฟั่นช่วยท่านอ๋องดูแลตำหนักอ๋องอี้ แม่นางฟั่นไม่ได้ทำอะไรเลยไม่มีคนกล้าต่อว่านาง!”

“แต่แม่นางฟั่นซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไหนมาไม่เคยอวดอำนาจของพ่อบ้านฟั่น หากในตำหนักมีเรื่องอะไรนางล้วนรีบไปทำ!”

“นางช่วยปะซ่อมเสื้อผ้าขององครักษ์พวกนั้นด้วย มีคนเจ็บป่วยนางก็จะช่วยต้มยา! พูดได้ว่าหลายคนในตำหนักเคยได้กรุณาคุณจากนางทั้งนั้นเจ้าค่ะ!”

หลิงซินพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ “แม่นางฟั่นเป็นคนดีนัก! เมื่อก่อนเราไม่มีข้าวกิน แม่นางฟั่นเห็นบ่าวเดินเตร่ที่ห้องครัวยังแอบเคยยัดหมั่นโถวให้บ่าวด้วยเจ้าค่ะ!”

หลิงเยวี่ยก็เอ่ยอย่างไร้เดียงสาเช่นกัน “แม่นางฟั่นก็ให้โจ๊กข้าดื่ม ยังเคยให้แป้งทอดข้าด้วย แม่นางทำแป้งทอดอร่อยมากขอรับ!”

แม่นมลี่ส่ายศีรษะ “แม่นางฟั่นมีลูกชายสองคน คนโตป่วยตายเมื่อหลายปีก่อน! ช่วงก่อนหน้าลูกที่เหลือคนเดียวมีไข้ไม่หาย ครั้นรอไข้ลดคนก็เอ๋อไปเสียแล้ว”

“น่าสงสารภรรยาของเขาเพิ่งออกเรือนกับเขาไม่นานก็ประสบหายนะครั้งใหญ่!”

หลิงอวี๋ฟังถึงตรงนี้ หัวใจสั่นไหวเอ่ยถามว่า “ลูกสะใภ้พ่อบ้านฟั่น ข้าจำได้ว่าคือพี่สาวชิวเหวินซวง! ถ้าจำมิผิดน่ะนะ!”

แม่นมลี่ผงกศีรษะ “จำมิผิด นางชื่อชิวเหวินอิง! เด็กคนนี้มิเหมือนชิวเหวินซวงกับชิวเฮ่า! เป็นคนซื่อสัตย์จริงแจ่อย่างแท้จริง! รู้จักกระตือรือร้นก้มหน้าก้มตาทำงานขยันขันแข็ง!”

“สามีกลายเป็นคนบ้องตื้น นางก็ไม่ทอดทิ้ง! คอยปรนนิบัติอย่างดีทุกวัน อาบน้ำให้เขาจนสะอาดสะอ้านเจ้าค่ะ!”

“บ่าวได้ยินมาว่า นางตั้งท้องแล้วเจ้าค่ะ! เฮ้อ พ่อบ้านฟั่นรนหาที่ตายเองก็ช่างประไร แต่ทิ้งครอบครัวไว้เช่นนี้จะมีชีวิตอย่างไร!”

หลิงอวี๋ไม่ได้มีความประทับใจอะไรต่อชิวเหวินอิง เห็นว่าแม่นมลี่ หลิงซินกับหลิงเยวี่ยต่างเห็นใจแม่นางฟั่น ก็พลันกล่าวคำ

แม่นมลี่ถอนหายใจกล่าวว่า “นี่มิใช่พระคุณของท่านอ๋องทั้งหมดเจ้าค่ะ! มิใช่บ่าวพูดว่าหลายคนในตำหนักแห่งนี้เคยได้รับกรุณาคุณของแม่นางฟั่นหรือเจ้าคะ?”

“ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านอ๋องหมายขับครอบครัวแม่นางฟั่นไปชนบท เป็นลู่หนาน จ้าวซวนกับองครักษ์คนอื่น ๆ คุกเข่าขอร้องช่วยพวกเขาเจ้าค่ะ!”

“ท่านอ๋องพลันนึกอาลัยไมตรีครอบครัวแม่นางฟั่นที่ติดตามตนมาหลายปี จึงปล่อยให้พวกเขาอยู่ต่อเจ้าค่ะ!”

“แม่นางฟั่นรู้จักวางตัว ทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อบ้านฟั่นยักยอกส่งคืนแล้ว พกแค่เครื่องนอนและพาลูกชายลูกสะใภ้ย้ายไปหลังเรือนรวมเจ้าค่ะ!”

“ลือว่าท่านอ๋องรู้เรื่องนี้ก็ให้ชิวเหวินซวงพาคนรับใช้ของเขาคนอื่น ๆ โยกย้ายไปเรือนเดิมของพ่อบ้านฟั่น แล้วมอบเรือนรวมแก่ครอบครัวแม่นางฟั่นทั้งหมด! ยังเอาเครื่องเรือนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลู่หนานย้ายไปเรือนรวมด้วยเจ้าค่ะ!”

หลิงอวี๋ยกมุมปากเยาะหยัน เหมือนว่าอำนาจดูแลเรือนชั้นในยังอยู่ในเงื้อมมือชิวเหวินซวงเหนียวแน่นเหมือนเดิม!

เซียวหลินเทียนเชื่อใจนางเพียงนี้เชียว?

ไม่กลัวหรือว่านี่คือตัวละครตัวหนึ่งที่ร้ายกาจกว่าพ่อบ้านฟั่นเสียอีกหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา