คุณชายกวนหวั่นฝูงชนกระหน่ำซ้ำเติมสกุลกวน ทั้งยังยั่วยุความไม่พอใจของไทเฮา
เขามองขอความช่วยเหลือทางท่านอ๋องเฉิง แค่คิดรีบผ่านเรื่องนี้ไปโดยเร็ว หากการสนทนาดำเนินต่อไป เขาจะรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งแทนกวนอิ่งสิ
ท่านอ๋องเฉิงยังมีมิตรภาพกับท่านกวนอยู่ ครั้นเห็นสายตาเขาก็ไม่อยากให้ฝูงชนโจมตีอีก บางทีก็ควรไว้หน้าแซ่กวนสักหน่อย
ท่านอ๋องเฉิงกล่าวยิ้มตาหยี “ไทเฮาเป็นพยานให้พระชายาอ๋องอี้ด้วยพระองค์เอง เช่นนั้นคดีนี้ยุติลงได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“เซียวหลินเทียน เพื่อคุ้มครองป้ายระลึกที่ไทเฮาพระราชทานแก่ท่าน ได้พลั้งมือฆ่าอันธพาล ตัวข้าจิตใจซื่อสัตย์ภักดีหาสุดมิได้ต่อท่าน ขอตัดสินท่านไร้ความผิด!”
“ทุกท่าน ตัวข้าตัดสินคดีเช่นนี้มินับว่าถือหางคนมีอำนาจใช่หรือไม่? ยังมีผู้ใดมิยอมรับอีกหรือไม่?”
“ไทเฮาอยู่ที่นี่ หากมิยอมรับพวกเจ้าสามารถยื่นอุทธรณ์ไทเฮาได้!”
ฝูงชนชำเลืองมองหน้ากัน อย่าว่าแต่ท่านอ๋องอี้ฆ่าอันธพาล ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมีเหตุจริง ๆ!
คิดแค่ว่าอ๋องอี้คือหลานทางสายเลือดของไทเฮา แล้วผู้ใดยังกล้ามิยอมรับเล่า!?
เสิ่นจวนหดตัวลดการปรากฏของตนสุดกำลัง หมายล่องหนหายไปจากที่นี่บัดเดี๋ยวนั้น ไฉนจะกล้าพูดมากอีกสักคำกัน
“อันธพาลนั่นขวัญกล้าพังป้ายระลึกที่ไทเฮาพระราชทาน แม้ตายก็ไม่สาสมกับความผิด ท่านอ๋องอี้ลงโทษคนร้ายด้วยชีวิต กำจัดคนชั่วให้สิ้นซากคือพฤติกรรมอันชอบธรรมพ่ะย่ะค่ะ!”
“ท่านอ๋องเฉิงไต่สวนคดีอย่างยุติธรรมเด็ดขาด พวกเราเลื่อมใสสุดจิตสุดใจพ่ะย่ะค่ะ!”
ไม่รู้ว่าเป็นใครเปิดปาก ทันใดนั้นเสียงคล้อยตามดังขึ้นจากด้านล่าง
ไทเฮาเหลียงหัวเราะเล็กน้อย คอยฝูงชนสงบลงนางถึงคลี่ยิ้มเอ่ยว่า
“แม้อาอวี๋จะเป็นหลานสะใภ้ของข้า แต่ที่ข้าพระราชทานป้ายระลึกแผ่นนี้แก่นางมิใช่เพราะสาเหตุนี้!”
“งานฉลองพระราชสมภพของข้าในช่วงเวลาก่อนหน้า ครานั้นตรัสว่าจัดงานขึ้นเพื่อขอบพระคุณผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตข้า!”
“ผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตคนนี้ก็คืออาอวี๋!”
ครั้นไทเฮาเอ่ยสิ่งนี้ เสียงตะลึงพลันดังขึ้น
“เดิมทีงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพครานั้นจัดขึ้นเพื่อพระชายาอ๋องอี้!”
“เคยได้ยินว่ามีหมอชั้นเซียนลึกลับช่วยไทเฮาไว้ เรายังสืบถามว่าหมอชั้นเซียนผู้นี้คือใครตลอดมา! คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้ก็คือพระชายาอ๋องอี้นี่เอง!”
“คนสูงศักดิ์เยี่ยงไทเฮาได้รับการรักษาจนหายจากพระชายาอ๋องอี้ งั้นวิชาแพทย์ของพระชายาอ๋องอี้ก็ไม่ต้องสงสัยกระไรแล้ว นั่นเหนือชั้นกว่าหมอหลวงที่สถาบันแพทย์หลวงแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”
ไทเฮาเอ่ยยิ้มตาหยี “ระหว่างงานฉลองพระราชสมภพ ข้ามิได้ประกาศเรื่องนี้ อาอวี๋ยังเด็กเกินไป ยังต้องฝึกพัฒนาอีกไม่อาจปล่อยให้นางทะนงตนได้!”
ช่างเป็นเรื่องมีเกียรติอย่างยิ่งที่มักได้รับความโปรดปรานจากไทเฮาในสถานการณ์เช่นนี้!
แต่จริง ๆ แล้วคือพฤติกรรมเสิ่นจวนไม่เหมาะสม รูปแบบเสียดสีเย้ยหยันทำให้ไทเฮาจำได้ นี่หาใช่เรื่องน่ายกย่องอะไรไม่!
“เจ้าว่าพี่สะใภ้เจ้าไม่เรียนไม่มีวิชา ข้ารู้สึกว่าเจ้าต่างหากคือคนที่ไม่เรียนไม่มีวิชา!”
“เรียนหนังสือรู้หลักทำนองคลองธรรมเป็นเรื่องเด็กสามขวบยังรู้!”
“ภายหลังเจ้าอยู่เรือนว่าง ๆ เรียนหนังสือให้มากขึ้นหน่อยจักดีหนา!”
ศีรษะเสิ่นจวนหมอบกับพื้น รู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี คำพูดคราวนี้กระหน่ำนางอย่างไม่มีชิ้นดี!
เป็นเรื่องเด็กสามขวบยังรู้?
แต่นางเสิ่นจวนกลับมิรู้ นี่มิใช่จะพูดว่านางยังดีไม่เท่าเด็กสามขวบหรือ?
ในอนาคต ชื่อเสียงไม่เรียนไม่มีวิชานี้ก็จะผันเป็นคำเสียดสีเย้ยหยันใช้แทนสรรพนามของเสิ่นจวนเสียเอง!
แม้ว่าไทเฮาไม่ได้ลงโทษตน แต่คำพูดเหล่านี้กลับโจมตีเสิ่นจวนรุนแรงกว่าการลงโทษใด ๆ ทั้งสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........