ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 220

แต่เดินมาครึ่งค่อนวันแล้วหลิงอวี๋ยังมิได้ออกป่าเลย

นางยันไม่ไหวแล้ว พลางพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้

หลิงอวี๋เสียเลือดไปมากและวิงเวียนศีรษะ

นางหยิบน้ำกลูโคสสองขวดจากมิติแล้วดื่ม ค่อยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย

ครั้นมองป่าอันไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้า หลิงอวี๋ก็ไม่ใจร้อนหาทางแล้ว

นางคือคนป่วยบาดเจ็บสาหัส ทำได้แค่ดูแลร่างกายตัวเองไปก่อน

นางหยิบพรมออกจากมิติ กะจะหลับก่อนสักตื่นค่อยว่ากัน

ค่ำมืดเสียแล้ว

ในที่สุดหลิงอวี๋ก็ออกจากป่าแล้ว นางทั้งหิวและเหนื่อย ก่อนจะเห็นแสงไฟบ้านคนจากไกล ๆ

หลิงอวี๋ฝืนยันเดินต่อ กระทั่งถึงบ้านหลังนั้น เนื่องด้วยแสงจันทร์ทำให้มองชัดว่าคือครอบครัวคนชีวิตลำบากยากแค้น

กำแพงรั้วส่วนหนึ่งชำรุดทรุดลง ประตูใหญ่คือกระดานไม้หยาบ ๆ สองแผ่น

“มีคนอยู่ไหม?”

หลิงอวี๋เคาะประตูพลางกล่าวไร้เรี่ยวแรง “ข้ามาเยี่ยมญาติ ฟ้ามืดแล้วขอค้างสักคืน!”

แสงไฟภายในบ้านดับลงทันที หลิงอวี๋เห็นแล้วใจก็สิ้นหวัง

นางเคาะประตู รักษาลมหายใจกล่าวว่า

“ได้โปรดช่วยให้ข้าค้างสักคืน ข้าได้รับบาดเจ็บ… ข้าใกล้ยันไว้ไม่ไหวแล้ว… ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วย!”

ด้านในยังคงไร้ซึ่งเสียงและไร้การเคลื่อนไหวเช่นกัน

หลิงอวี๋ยันไม่ไหวอีกต่อไปทรุดนั่งกับพื้น

นางคลำหาโสมคนหยิบออกจากมิติพลางกัดแล้วอมในปาก

ตลอดเส้นทางนี้ ล้วนพึ่งโสมคนกับน้ำกลูโคสยันไว้ทั้งนั้น

ทว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส นางจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอฟื้นฟูตัว

นางสิ้นแรงเดินแล้วจึงอิงฝาผนังผล็อยหลับไป

ได้ยินคนพูดอย่างรางเลือนว่า “ท่านแม่ นางดูไม่เหมือนคนเลวเลยเจ้าค่ะ!”

“คนเลวจะเขียนบนหน้าตัวเองว่าเป็นคนเลวรึไง? ห้ามสนใจนางเจ้ารีบไปเถอะ! อย่าให้คนพบว่าเจ้าอยู่ที่นี่!”

“เฮ้อ บาดเจ็บเช่นนี้แล้ว ป้ายังจักใจเหี้ยมไล่เจ้าไปลงหรือ? ไป ๆ ให้ป้าพยุงเจ้าเข้าไปพักผ่อน!”

ท่านป้าเข้ามาพยุงหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ยันกายยืนขึ้น ไม่อาจฝืนทนให้นางพยุงได้พลางเอ่ยว่า

“ท่านป้า ข้ายังเดินได้ ท่านนำทางข้างหน้าเถอะ!”

ท่านป้ามองหลิงอวี๋ยืนโซเซพิงต้นไม้อยู่ก็รีบเอ่ยเรียก “แม่อาเป่า มาช่วยออกแรงหน่อย!”

เดี๋ยวเดียว สตรีวัยยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งวิ่งรุดจากด้านใน ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาบวมแดงประปรายดูท่าทางเพิ่งร้องไห้มา

แม่อาเป่าเห็นท่าทีหลิงอวี๋โซเซเดินไม่ไหว พลันรีบเช็ดน้ำตาก้าวไปช่วยท่านป้าพยุงหลิงอวี๋เข้าบ้าน

หลิงอวี๋อาศัยตะเกียงน้ำมันมองในบ้านชัด ๆ บ้านหลังนี้ชำรุดทรุดโทรมกว่าเรือนบุหงาเมื่อก่อนเสียอีก

หลังคาแตกไปครึ่งหนึ่ง มุงด้วยหญ้าคา

ในบ้านมีหลุมโพรง ผ้าห่มก็มีรอยปะมากมายเช่นกัน

ดรุณีน้อยวัยสามขวบถักเปียเขาแกะกำลังนั่งบนเตียง สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบที่เต็มไปด้วยรอยปะ ตากลมโตจ้องสังเกตหลิงอวี๋อย่างอยากรู้อยากเห็น

บนเตียงวางโต๊ะที่ทำจากกระดานไม้หยาบ ๆ แผ่นหนึ่ง และบนโต๊ะมีชามหลายใบซึ่งผุพังทั้งหมด!

ครอบครัวนี้ช่างยากจนข้นแค้นนัก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา