“ร้านค้าตระกูลกวนอยู่ทางแยกของประตูใหญ่บูรพา! หวางต้าหู้คนนี้เป็นเถ้าแก่ของตระกูลกวน!”
เซียวหลินเทียนตะโกนเสียงดัง “เมื่อคืนคนที่หนีเอาตัวรอดผ่านทางแยกประตูใหญ่บูรพา ต่างต้องเห็นรถม้าหลายคันของตระกูลพวกเขาขวางอยู่ทางแยก!”
“พวกเขากำลังทำอะไร? พวกเขาพยายามเก็บทรัพย์สมบัติ ก็ไม่มีกระไรผิดปกติหรอก!”
“ทว่าคนข้างหลังที่ไร้ทางหนีตายถูกพวกเขาขวางไว้ บัดนี้จิตใจพวกเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”
พอเซียวหลินเทียนนึกถึงฉากหวาดเสียวในยามนั้นก็สิ้นวิธีควบคุมความโกรธของตน
เขาตวาดว่า “ตัวข้าสั่งให้ทหารบังคับรถม้าไปจริง!”
“พวกเจ้าคนด้านหลังที่หนีออกมาต่างควรรู้ว่าถ้าตัวข้าไม่ทำเช่นนี้ พวกเจ้าจะต้องตายในทะเลเพลิง!”
“ตัวข้าไม่ต้องการความซาบซึ้งที่ข้าช่วยชีวิตพวกเจ้า! แต่เวลาเช่นนี้กลับช่วยคนชั่วทำชั่ว พวกเจ้ามิกลัวหัวใจคนที่ช่วยพวกเจ้าเย็นชารึ?”
เซียวหลินเทียนยิ่งเอ่ยเสียงยิ่งดังขึ้น เขาชี้ยังทหารบาดเจ็บหลายนายพลางตะโกน
“ดูทหารเหล่านี้ พวกเขาก็เช่นพวกเจ้ามีพ่อแม่มีลูกเหมือนกันและเป็นกายเนื้อ”
“พวกเจ้ารับบาดเจ็บก็ได้นอนพักผ่อน!”
“พวกเขาเล่า? พวกเขาบาดเจ็บก็สร้างเพิงหลบภัยให้พวกเจ้าได้มีแหล่งหลบภัย!”
“ใจคนล้วนเป็นเลือดเนื้อ(1) พวกเจ้าตาบอดกันหรือไร?”
คำพูดคราวนี้ของเซียวหลินเทียนทำผู้ประสบภัยอักโขก้มหัวลงอย่างละอาย
ผู้ประสบหลายคนก้าวออกมา เอ่ยเรียก
“ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมขอเป็นพยานให้ท่าน ครานั้นหากท่านมิสั่งไล่รถม้าตระกูลกวน ครอบครัวพวกเราคงตายในทะเลเพลิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
“ถูกต้อง หวางต้าหู้ผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก!”
“เราขอให้เขาบังคับรถม้าไป เขายังให้ข้ารับใช้ไล่เราด้วย! กล่าวว่าหากทรัพย์สินของตระกูลกวนเสียหาย เราจะชดใช้ไหวหรือ?”
มีคนออกมาพูดถ้อยคำยุติธรรม ผู้ประสบภัยที่ถูกปลุกปั่นเหล่านั้นนึกถึงฉากหวาดเสียวในตอนนั้นก็ยืนขึ้นตาม ๆ กัน
“ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมก็ขอเป็นพยานพ่ะย่ะค่ะ!”
“พูดฟังดูดีหนา ผู้ใดจักรู้ว่าท่านเอ่ยตรัสขอไปทีให้ทุกคนหรือไม่ ดูแล้วจับต้องมิได้กระมัง?” กวนอิ่งพูดประชดประชัน
เซียวหลินเทียนจำกวนอิ่งได้นานแล้ว พอเห็นนางปลุกปั่นอารมณ์ผู้ประสบภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็พูดอย่างเยือกเย็น
“เหตุใดคุณหนูใหญ่กวนต้องซ่อนหัวเผยหางลับ ๆ ล่อ ๆ เล่า! ออกมาพูดเถอะ!”
“ตัวข้าไม่ร่ำรวยเช่นตระกูลกวน แต่บัดนี้ข้าให้คำมั่นต่อหน้าพวกเจ้าทุกคนได้… ข้าจะนำเงินหนึ่งล้านตำลึงช่วยฟื้นฟูบ้านเกิดเมืองนอนพวกเจ้า!”
“คุณหนูใหญ่กวน ตระกูลเจ้ามิใช่มั่งคั่งนักหรือ? เจ้าจักบริจาคให้พวกเขาเท่าใด?”
“ไยหม่อมฉันจักต้องบริจาค!”
กวนอิ่งพลันร้องขึ้นฮึกเหิม “ตระกูลกวนของหม่อมฉันสูญเสียร้านค้ามากโข หม่อมฉันยังมิได้เรียกค่าชดเชยท่าน ไยท่านต้องให้หม่อมฉันบริจาคเงิน!”
ใจคนล้วนเป็นเลือดเนื้อ (人心都是肉长的) อุปมาว่า หัวใจของทุกคนเป็นเนื้อต่างเจ็บปวดเป็นควรจะใจเขาใจเรา
วัสสานะ แปลว่า ฤดูฝน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........