ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 549

“ผู้ร่วมแข่งขันคนต่อไปคือคุณหนูลั่ว…”

เมื่อลั่วอวี้จูเห็นจ้าวเจินเจินดีดพิณได้ดีมากในใจก็แอบรู้สึกหมดหวังได้คว้าชัย

นางเพียงคาดหวังว่าตนจะแสดงได้ดีกว่าหลี่ว์ฟางฟาง ซ่งเสี่ยวเจินและคนอื่น ๆ ก็พอแล้ว

ถึงแพ้ให้จ้าวเจินเจินก็ไม่ขายหน้า!

แม้ตนจะได้อันดับสองก็ยังคงเปล่งประกายอยู่ดี!

ลั่วอวี้จูกอดความหวังนี้ไว้พลางนั่งลง

แต่ไม่รู้ไฉนจึงเครียดนัก ทั้งยังถูกอิทธิพลอันโดดเด่นของจ้าวเจินเจินเข้าไป นางจึงดีดพลาดหลายเสียงตั้งแต่เริ่มต้น

เมื่อบรรเลงเพลงจบ ใบหน้าลั่วอวี้จูก็แดงไปหมด ทั้งโกรธและร้อนใจ นี่ไม่ใช่ระดับของตนในเวลาปกติแน่นอน!

ครั้งนี้นางเล่นได้แย่มากทีเดียว นางจักต้องเป็นคนสุดท้ายจริงหรือ?!

มิถูกมิถูก!

แม้นางจะดีดได้ไม่ดี แต่ก็คงไม่แย่ไปกว่าหลิงอวี๋ผู้โง่เขลาคนนั้นหรอก!

อย่างไรเสียนอกจากวิชาแพทย์แล้ว หลิงอวี๋ก็เป็นคนโง่ที่ไม่รู้ด้านดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพอะไรเลย!

พอคิดว่าตนจะไม่ใช่คนอยู่รั้งท้าย อารมณ์ของลั่วอวี้จูก็สดใสขึ้นหลายส่วน

นางแทบทนรอที่จะดูฉากหลิงอวี๋ขายหน้าไม่ไหวแล้ว!

ขณะคิดเรื่องนี้อยู่ แม่นางชางก็ประกาศต่อคนที่อยู่ข้างล่างเวที

“ผู้ร่วมแข่งขันคนสุดท้ายคือ… พระชายาอ๋องอี้!”

หลิงอวี๋มองแม่นางชางพลางเชิดริมฝีปากหยัน ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำลึกซึ้ง

“หลิงอวี๋ได้ยินว่าแม่นางชางมีหูเฉียบไวประหนึ่งพวกผีเซียน… และคนมากมายที่นี่ก็เคารพท่านมาก!”

แม่นางชางยิ้มน้อย ๆ “ขอบคุณสำหรับคำชมของพระชายาอ๋องอี้! โปรด…”

หลิงอวี๋กลับมองแม่นางชาง แต่ไม่ยอมลุกขึ้น

แม่นางชางถูกนางจ้องด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ จึงกล่าวอย่างไม่อดทน

“พระชายาอ๋องอี้ต้องการสละสิทธิ์หรือ?”

“หากมิเข้าใจการดีดพิณจริง ๆ จะสละสิทธิ์ก็ไม่เป็นไร! บทลงโทษสำหรับการสละสิทธิ์ในครั้งแรกแค่สุราสามจอกเท่านั้น!”

เมื่อเซียวทงเห็นดังนั้นยังคิดว่าหลิงอวี๋ประหม่า พลันพูดเย้ยทันที

“พี่สะใภ้สี่ แม่นางชางพูดถูกต้อง หากเจ้าดีดพิณไม่เป็นก็สละสิทธิ์เถอะ!”

“ท่านพี่ กู่ฉินคันนี้ถึงมีเงินก็หามาได้ยากนัก! ท่านฟังทุกคนและยอมรับพ่ายเถอะ! หากทำกู่ฉินเสียหายขึ้นมา ท่านจักชดใช้มิไหวเอาได้!”

หลิงอวี๋ปรายมองฝูงชนข้างล่างเวทีอย่างเฉยชา เมื่อพบว่าหลิงหว่านกับเพื่อน ๆ ของนางต่างมีสีหน้าเปี่ยมกังวล แต่ไม่มีใครในพวกนางบอกให้ตนสละสิทธิ์เลย

นี่ทำให้หลิงอวี๋รู้สึกปลื้มใจมาก!

นางยกยิ่มอ่อน “ในพจนานุกรมอักขระแห่งตระกูลหลิงก็ไม่มีสี่คำว่า ‘ถอยทัพรับพ่าย’! หลิงอวี๋มิต้องการให้ตระกูลหลิงต้องขายหน้า!”

เมื่อพูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินไปหน้าพิณทันที พลางยิ้มกล่าวต่อนางกำนัลที่คอยรับใช้อยู่ด้านข้าง “ไปนำพิณมาอีกคันเสีย!”

ฝูงชนรู้สึกประหลาดใจต่อการกระทำของหลิงอวี๋นัก มีบางคนร้องขึ้นอย่างไม่เชื่อ

“พระชายาอ๋องอี้ เจ้าจักกรีดพิณสองคันพร้อมกันหรือ?”

ลั่วอวี้จูพูดประชดว่า “พิณคันเดียวก็ดีดไม่เป็นยังหาดีดสองคันพร้อมกันอีก พระชายาอ๋องอี้ ท่านอยากอวดเก่งจนบ้าไปแล้วหรือ?”

หลิงอวี๋ชายมองลั่วอวี้จูอย่างลึกซึ้ง ถึงบทลงโทษการได้ที่สุดท้ายกับสละสิทธิ์จะเหมือนกันก็ตาม

สำหรับที่สุดท้ายในการแข่งขันครั้งนี้ ลั่วอวี้จูตั้งเป้าไว้แล้ว!

หลิงอวี๋ไม่อยากเถียงกับนางชั่วคราวพลางส่งยิ้มต่อแม่นางชาง

“กฎการแข่งมิได้บอกว่าห้ามกรีดพิณสองคันพร้อมกันใช่หรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา