บทที่13ช่วยคน
อันหลิงหยุนเหลือบตาขึ้นตรงๆ หรือว่าจะต้องตายไปพร้อมกับเขากันแน่?
ในขณะกำลังที่คิดจะทำให้กงชิงวี่สลบ กงชิงวี่ก็ปล่อยมือซะก่อน เขาก็สลบไปก่อนแล้ว
พ่อบ้านรีบแทรกเข้ามาด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง”
“พวกเจ้าออกไปก่อน ทางนี้ให้ข้าจัดการ สัญญาว่าเขาจะไม่เป็นอะไร”
อันหลิงหยุนพูดขึ้นพลางปลดเสื้อผ้ากงชิงวี่ บนร่างกายมีทั้งหมดมีบาดแผลโดนดาบฟันสามที่ ถึงแม้ว่าจะอันตรายถึงชีวิต แต่รอยแผลก็ไม่ถึงกับจะทำให้กงชิงวี่ตายได้
พ่อบ้านดูไม่ค่อยอยากออกไป อันหลิงหยุนพูดขึ้น “เจ้าไม่ไป ข้าก็จะไม่ดูแล้ว”
พ่อบ้านลังเลเล็กน้อย ค่อยให้คนออกไป เขากลับแอบมองอยู่ข้างประตู เผื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อันหลิงหยุนหยิบมีดขึ้นมา กรีดลงบนข้อแขน เอาเลือดจากฝ่ามือให้กงชิงวี่ดื่ม กงชิงวี่ดื่มไปซักพักอันหลิงหยุนเอาแขนกลับไป ใช้ผ้าสีขาวพันรอบๆ แล้วค่อยๆ เริ่มทำความสะอาดบาดแผลของกงชิงวี่
อันหลิงหยุนดีอกดีใจ นับจากที่ถูกตีในวัง หลังจากนั้น นางก็พกยารักษาแผลภายนอกหลายขนานติดตัวตลอด แล้วก็ยังมียาแก้อักเสบที่ทำขึ้นมาใหม่ ยาพวกนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สามารถรักษาชีวิตของกงชิงวี่ไว้ได้ บวกกับเลือดที่มีคุณสมบัติเกินมนุษย์ธรรมดา
เลือดของนางตอนนี้แค่รอความเห็นว่าควรเป็นยาขนานสูงหรือไม่ นอกจากจะแก้พิษได้ ยังสามารถเป็นยาบำรุงชั้นดี ทำให้มนุษย์ในระยะเวลาอันสั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง มีพลังชีวิตมากกว่าเมื่อก่อน
สักครู่ก็เก็บข้าวของ อันหลิงหยุนเองก็เหนื่อยแล้ว ก็ไปนั่งพักอีกด้านหนึ่ง
เมื่ออาหยู่พาหมอหลวงเข้ามาจากข้างนอกอย่างรีบร้อนรีบร้อนนั้น กงชิงวี่เองก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
“ท่าน”
อาหยู่เดินเข้าประตูมามองเห็นอันหลิงหยุน พริบตาเดียวก็มองออกว่าเป็นอันหลิงหยุน เมื่อกำลังมองถลึงตาไปด้วยความโมโห ก็ถูกพ่อบ้านดึงไว้ก่อน
“มั่วซั่ว ยังดีที่ท่านอ๋องมีเด็กชายคนนี้ช่วยไว้” พ่อบ้านเองก็ยังมองไม่ออกว่าคืออันหลิงหยุน
อาหยู่คัดค้าน “นางคืออันหลิงหยุน”
พ่อบ้านตกใจเป็นอย่างมาก หันตัวกลับไม่มองอันหลิงหยุน ในตอนนั้นเองอันหลิงหยุนก็พักผ่อนพอแล้ว ลุกขึ้นเดินไปมองอาการกงชิงวี่ จับข้อมือเขา ตรวจชีพจรปกติดี ถึงปล่อยมืออย่างวางใจ
กงชิงวี่ค่อยหันไปมองอันหลิงหยุน สายตาที่คมกริบ อันหลิงหยุนเองก็ไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย “มาที่นี่คือความบังเอิญล้วนๆ ในเมื่อเจ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว งั้นข้าก็กลับก่อนล่ะ”
พูดเสร็จอันหลิงหยุนก็เอายาที่พกมาให้กับพ่อบ้านไปทั้งหมด “ยาพวกนี้รักษาแผลทาภายนอก เช้าเย็นหนึ่งครั้ง พวกนี้เป็นยากิน อย่ากินเยอะ กินเยอะก็จะทำให้สิ้นพระชนม์ได้ เช้าเย็นหนึ่งครั้ง อย่างล่ะเม็ด หากไข้ขึ้น ก็ไปหาข้า ข้าไปก่อนหล่ะ”
พูดจบอันหลิงหยุนก็เดินกลับไป อาหยู่รีบเดินตามออกไป อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้สนใจ กลับเป็นพ่อบ้านที่พูด “เจ้ากลับมานะ ท่านอ๋องยังไม่ดีขึ้น”
อาหยู่ถึงเดินกลับเข้าไป อันหลิงหยุนเลยอาศัยจังหวะนี้กลับจวนแม่ทัพ
เมื่อเดินเข้าประตูไปอันหลิงหยุนก็รีบไปที่หลังจวน เข้าไปก็เริ่มทำยาลดไข้
กลางดึก มีคนนอกเข้ามาในจวนแม่ทัพ มีคนเปิดประตูจวนแม่ทัพ ก็ดูอาหยู่ที่ยืนอยู่ข้างนอกพูดว่า “พระชายาล่ะ?”
พ่อบ้านสีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ “เจ้าหมายถึงคุณหนูของข้า?”
“เร็วหน่อย ท่านอ๋องอาการไม่ดี”
อาหยู่ไม่ได้สนใจคนอื่น พุ่งเข้าไปโดยตรง ในตอนนั้นเองอันหลิงหยุนก็เดินมาจากหลังจวน ในมือมีกระเป๋าเล็กๆ หนึ่งอัน มองไปที่อาหยู่แล้วพูดขึ้น “ไปกันเถอะ”
อาหยู่มึนงงอยู่พักหนึ่ง หมุนตัวแล้วเดินออกไป
หลิงหยุนอธิบายไปสองประโยค ออกนอกประตูก็มองไปที่อาหยู่ แล้วขึ้นม้าตาม
อาหยู่ถามต่อ “เจ้าขี่ม้าเป็นไหม?”
“พ่อข้าเป็นแม่ทัพทหารใหญ่ ข้าจะขี่ม้าไม่เป็นเชียวหรือ?”
ร่างเดิมที่จริงแล้วนั้นขี่ม้าไม่เป็น แต่อันหลิงหยุนไม่เหมือนกัน ฝีมือการขี่ม้าของนางได้รับการฝึกมาจากผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
เมื่อขึ้นขี่ม้าได้นางก็กำเชือกม้าแน่นแล้วพูดว่า “เจ้าก็ตามมาแล้วกัน ข้าไปก่อนล่ะ”
ใช้มือฟาดลงไปบนก้นม้า ม้าก็พุ่งออกไป อาหยู่เหม่อลอยไปสักครู่ ก็รีบตามไปด้านหลัง
อันหลิงหยุนนึกถึงอาการของกงชิงวี่ สองจิตสองใจชั่วครู่ถึงจะเดินไปทางประตู
“ท่านอ๋องของเจ้าอาการแย่อีกแล้ว?”
อันหลิงหยุนเองไม่ได้คิดอะไรมากมาย
“ข้ามารับพระชายากลับจวน” อาหยู่เดินมายังด้านหน้ารถม้าหยิบเก้าอี้ไม้ขึ้นมาวางลง รออันหลิงหยุนเดินขึ้นไป
อันหลิงหยุนถามอย่างต่อเนื่อง “พ่อบ้านสั่งมา หรือท่านอ๋องสั่งมา?”
“ท่านอ๋อง”
ได้ยินดังนั้นอันหลิงหยุนก็หันกลับไปพูดกับแม่ทัพอันชั่วครู่ แม่ทัพอันก็ต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา แต่อันหลิงหยุนพูดอะไรก็ตามเขาเชื่อทุกอย่าง และก็รับฟัง
เมื่ออันหลิงหยุนขึ้นรถม้าตามไปถึงจวนอ๋องเสียนก็ลงมาทันที เงยหน้าขึ้นมามองจวนอ๋องเสียนสามคำนี้ครู่หนึ่ง เดินเข้าไปในจวนอ๋องเสียนด้วยความจนใจ
เมื่อถึงลานโอวหลานอันหลิงหยุนหันไปมองด้านในก่อนครู่หนึ่ง เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ลานโอวหลานกลับมาสงบเงียบเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
พ่อบ้านที่รออยู่หน้าประตูอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็รีบเชิญนางเข้าไปข้างในทันที “เชิญเสด็จพระชายา”
อันหลิงหยุนอยากจะหัวเราะมากๆ ไม่ใช่เมียทาสหรอกเหรอ?
เมื่อเดินเข้าไปอันหลิงหยุนก็มองไปในห้องครู่หนึ่ง มองเห็นเพียงแค่กงชิงวี่ที่ในตอนนี้นั่งอยู่บนหัวเตียง ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผลเหมือนมัมมี่ที่ปีนขึ้นมาจากดินอย่างนั้น สีผิวออกขาว สีหน้าที่ซีดเผือด ด้านล่างของร่างกายห่มผ้าห่มเอาไว้
กงชิงวี่มองไปยังนางที่เดินเข้าประตูมา อันหลิงหยุนเดินไปมองด้านหน้า ดวงตาสองคู่ของทั้งสองคนต่างสังเกตกันและกัน
อันหลิงหยุนนับถือกงชิงวี่ เขาถูกวางยาพิษหากปล่อยไว้ตรงนี้ ไม่ได้พบนางเทพเจ้าก็ช่วยชีวิตเขาไม่ได้ โดยเฉพาะรอยดาบสามรอบที่สามารถคร่าชีวิตได้ เขายังมีชีวิตรอดกลับมาได้ ราวกับปาฏิหาริย์
สถานการณ์ของเขาในตอนนั้นก็เสียเลือดไปเยอะ ยังทนได้ขนาดนี้ ทำให้น่าตกใจจริงๆ
“เจอข้าแล้วยังไม่คุกเข่าทำความเคารพอีก ลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเป็นใครรึ?” กงชิงวี่พูดมาแบบนั้น ยังคงเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...