ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 14

บทที่14ลอบทำร้ายอีกครั้ง

อันหลิงหยุนครุ่นคิด เดินเข้าไปใกล้ จับข้อแขนของกงชิงวี่ “วันนี้ที่ข้ามาไม่ได้มาในฐานะพระชายา หรือเมียทาสของเจ้า แค่มาในฐานะหมอ ข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว”

กงชิงวี่ไม่ได้ขยับอะไร พ่อบ้านเองก็แทบไม่กล้าหายใจออกมาดังๆ

พระชายาทำกับท่านอ๋องแม้ว่าจะคิดเพ้อเจ้อไปเอง แต่ถ้าไม่ได้นาง ครั้งนี้ท่านอ๋องก็คงไม่มีชีวิตรอด

มองอันหลิงหยุนครู่หนึ่งแล้วเอามือออก มองดูมืออีกข้าง “พิษออกไปหมดแล้ว เจ้ากินยาพวกนี้ค่อยๆฟื้นสภาพก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”

ถอยออกไปข้างหลัง อันหลิงหยุนไม่ได้มีความคิดที่อยากจะกลับไป “ทำไมรึ? ไม่อยากกลับรึ?”

“ไม่ใช่”

“งั้นหรือ?” กงชิงวี่หยิบเสื้อคลุมออกมาใส่ พลางจ้องมองไปที่อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก ก้มหัวลงต่ำ สายตาของผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะให้ท่านอ๋องช่วย” อันหลิงหยุนพูดตรงๆ

“อย่าคิดว่าเป็นหมอรักษาร่างกายข้า ก็จะบีบบังคับแบบนี้ได้ อย่าแม้แต่จะคิดเลย!” กงชิงวี่พูดออกมาโดยตรงแบบนี้ ราวกับว่าไม่เห็นแก่หน้าเลยซักนิด

อันหลิงหยุนก็ด่าในใจประโยคหนึ่ง ใหญ่มากจากไหน!

ช่วยชีวิตเจ้า เจ้ายังรังเกียจข้า!

“ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้คิดอะไรเช่นนั้น ข้าคิดมาชัดแจ้งแล้ว แตงที่ชิงสุกก่อนห่ามนั้นไม่หวาน เทียบไม่ได้กับต่างคนต่างอยู่”

กงชิงวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “อ๋อ?”

อันหลิงหยุนพูดต่อว่า “ท่านอ๋องไม่ยอมหย่าโดยดี นั่นก็คือต้องการทอดทิ้งข้าฝ่ายเดียว ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ขาจะไม่ได้ยินยอม แต่ถ้าหากท่านอ๋องยังยืนกรานแบบนี้ ข้าก็ยอมรับได้ แต่วันนี้เรื่องที่ข้าอยากจะขอให้ช่วยนั้น ไม่ใช่เรื่องนี้”

“งั้นหรือ?” กงชิงวี่ยิ่งกลัวดอกพิกุลทองจะหลุดออกจากปาก อันหลิงหยุนเองก็ยิ่งจะหมดความอดทน

“เพคะ”

“พูด”

“ในตอนที่ข้าแต่งเข้ามาจวน พาสาวใช้เข้ามาด้วย เอาสาวใช้คนนั้นคืนข้าได้หรือไม่?”

“ในเมื่อแต่งเข้ามาเป็นคนของจวนอ๋องเสียน ยังต้องมีเหตุผลอะไรที่ต้องคืน?”

อันหลิงหยุนก็ยอมจริงๆ กงชิงวี่ก็มีความสามารถเล่นลูกไม้อย่างไม่มียางอาย แบบนี้ไม่น้อย

“ถ้าอย่างนั้นท่านอ๋องหมายความว่า?”

“คนไม่มีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพระชายาเป็นคนในจวนของข้า ตั้งวันนี้เป็นต้นไปก็อยู่ที่นี่เถอะ พ่อบ้าน พานางไปห้องคนรับใช้ ในเมื่อนางเป็นเมียทาส จะไปไหนตามใจตนเองไม่ได้อีก จับตาดูนางดีดีๆ!”

“ห้องคนรับใช้ข้าไม่คุ้นชิน ในเมื่อเป็นเมียทาส ในเมื่อเป็นเมียทาสก็ต้องอยู่รับใช้เจ้าในห้อง เจ้าเอาข้าส่งไปยังห้องคนรับใช้ก็ไม่สมควรนัก” อันหลิงหยุนไม่มีทางไปเด็ดขาด

“หางจิ้งจอกโผล่ออกมาแล้วหรือ?” กงชิงวี่ค่อยๆ หันไปมอง สายตาที่เยือกเย็นยังคงเยือกเย็นแบบนี้

“ทางที่เจ้าออกจากวังมีไม่กี่คนที่รู้เส้นทาง เจ้ากลับถูกวางยาพิษ ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ใส่ยาพิษต้องไม่ใช่คนธรรมดา ต้องเป็นคนข้างกายของเจ้า ลองถามดู นอกจากฮ่องเต้ในตอนนั้นยังมีอยู่กี่คน?”

ในตอนนั้นฮ่องเต้เองก็ถูกวางยาชนิดเดียวกับเจ้า ฉะนั้นแล้วก็ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ทำร้ายเจ้า

“ยิ่งไปกว่านั้นคนที่วางยา หากไม่เข้าใจร่างกายของเจ้า ก็ไม่คิดวางยาก่อน แล้วค่อยจัดแจงให้คนมาฆ่า เห็นได้ชัด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นใคร”

อันหลิงหยุนไม่อยากไปห้องคนใช้อะไรนั่น ทั้งเหม็นทั้งหนาว เลยพูดเปลี่ยนเรื่อง

กงชิงวี่ที่สมองเต็มไปความเคียดแค้น

กงชิงวี่มองไปที่อันหลิงหยุ่นอย่างสบายอกสบายใจ “เจ้ากลับรู้”

“ในตอนนั้นฮ่องเต้กำลังเกิดเรื่อง เจ้ากับฮ่องเต้สัมผัสมาก่อน ผู้ต้องสงสัยหนึ่งเดียวที่วางยาฮ่องเต้ก็มีแค่เจ้า ใต้หล้านี้ เจ้าและอ๋องตวนสองคนความสามารถใกล้เคียงกัน หากคนวางยาคือเจ้า เจ้าก็ต้องโทษประหาร อนาคตตำแหน่งฮ่องเต้คนที่จะถูกเลือกก็มีเพียงคนเดียว”

อาหยู่และพ่อบ้านแทบไม่กล้าหายใจแรง ค่อยๆ มองไปยังสีหน้าขาวราวกับกระดาษอย่างกงชิงวี่ ในตอนนั้นกงชิงวี่เองไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา “ดูแล้วข้าจะดูถูกเจ้าไปหน่อยแล้ว”

“ลิ้มรสการถูกคนรักสุดหัวใจลอบทำร้ายนั้นมันไม่ดีเลย แต่ว่าเจ้าก็ไม่ควรทำให้ข้าลำบาก พิษนั้นคือจุนฉูฉูที่ใส่ลงไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า นางต้องการที่จะเป็นแม่ของประชาชน เป็นเจ้าเองที่ไม่ได้สนใจตำแหน่งอำนาจฮ่องเต้นี้ นางถึงทิ้งเจ้าไป เจ้ากลับจะฆ่าข้าให้ตาย ท่านอ๋องที่น่าเกรงขามเช่นนี้ ไม่คิดว่าน่าละอายหรือ?”

พ่อบ้านเหลือบตาขึ้น อันหลิงหยุนยังคืออันหลิงหยุนคนนั้น ก็แค่ไม่เชื่อฟังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

“อาหยู่ บีบปาก!” กงชิงวี่หน้านิ่ง รังสีแห่งการฆ่าทันใดนั้นก็ลุกขึ้นราวกับเปลวไฟ

อันหลิงหยุนหยิบเข็มเงินขึ้นมา “เจ้าก็ลองดูสิ ว่าจะเข้าใกล้ข้าได้หรือไม่”

“ข้าดูก่อน”

อันหลิงหยุนเอาเสื้อผ้าของกงชิงวี่ออกทั้งหมด ร่างกายเต็มไปด้วยรอยดาบเล็กใหญ่มากกว่ายี่สิบรอย เสียเลือดมาก บวกกับรอยเก่า หัวใจและปอดเริ่มอ่อนแรง

หมอในจวนหลายคนที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ อันหลิงหยุนรู้ดีว่า ในจวนกงชิงวี่นี้ มีคนเก่งๆอยู่มากมาย หมอที่อยู่จวนนี้เมื่อเทียบกับหมอหลวงในวังยังมีความสามารถมากกว่า ในตอนนี้คุกเข่าตัวสั่นเทิ้มอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่าช่วยไม่ได้แล้ว

“พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะรักษาให้เขาเอง” อันหลิงหยุนเริ่มขยับตัว พ่อบ้านมีบทเรียนในอดีต ในเวลานี้เอาความหวังทั้งหมดฝากไว้กับอันหลิงหยุน เรียกให้คนออกไปให้หมด รออยู่ข้างนอกด้วยความร้อนรน

อันหลิงหยุนหยิบมีดออกมา กรีดไปที่ข้อแขน เอาเลือดให้กงชิงวี่ดื่มก่อนเล็กน้อย รักษาชีวิตเขาไว้ก่อน

ให้กงชิงวี่ดื่มไปพลาง อันหลิงหยุนก็รู้สึกสงสารจับใจไปพลาง ร่างเดิมร่างกายไม่ดี เลือดเยอะขนาดนี้ ไม่ช้าเร็วก็ต้องตาย

สักพักก็ต้องคิดหาวิธีทำยามาทดแทน

หลังจากได้ดื่มเลือดกงชิงวี่ค่อยๆ มีแรงหายใจ อันหลิงหยุนก็รีบทำความสะอาดรอยแผลทันที เย็บแผล จากนั้นใส่ยาผงที่ห้ามเลือดกันอักเสบ สุดท้ายก็พันแผล

และเมื่อทำติดต่อกันตามขั้นตอน ก็ใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ พันแผลเสร็จทั้งหมดแล้ว อันหลิงหยุนก็เหนื่อยจนแทบจะไม่มีแรงหายใจแล้ว

อันหลิงหยุนนั่งลงไม่มีแรงเหลืออีกเลย

กงชิงวี่ค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปที่อันหลิงหยุนที่เหนื่อยจนสีหน้าซีดเซียวราวกับกระดาษ แล้วก็หลับตาลงไป

หลายครั้งหลังจากนั้น ฟ้าก็มืดแล้ว

อันหลิงหยุนที่กำลังบรรทมอย่างสนิทอยู่ รู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาใกล้

นางลืมตาขึ้น พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ “พระชายา นี่คือซุปบำรุงร่างกาย ดื่มแล้วค่อยบรรทมต่อ”

อันหลิงหยุนกรีดข้อมือเอาเลือดให้ท่านอ๋องดื่ม พ่อบ้านเห็นด้วยตาตัวเอง ความน่าลุ่มหลงแบบนี้ พ่อบ้านเองก็ประทับใจ

อันหลิงหยุนทั้งเหนื่อยทั้งหิว ยกซุปขึ้นดื่มไปหนึ่งถ้วย

เมื่อลุกขึ้นก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย พ่อบ้านรีบประคอง” พระชายา ตรงนั้นมีพระแท่นบรรทม ท่านไปพักผ่อนเถิด”

อันหลิงหยุนหมดคำพูดกับร่างกายนี้ แย่เกินไป!

พยักหน้าแล้วไปพักผ่อน พ่อบ้านมองไปยังกงชิงวี่ที่ยังคงพักผ่อนอยู่ มองเขาหายใจ ก็คงไม่เป็นอะไรแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน