ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 141

บทที่141 มาทันเวลา

ในระยะไกลกงชิงหยินได้มองไปที่กงชิงวี่ “ถ้าเจ้าไม่รีบเข้าไป นางอาจก่อปัญหาใหญ่แน่ ซ่างซูหลี่เป็นคนสนิทของราชครูจุน

ถ้าเรื่องครั้งนี้ไม่จัดการให้เหมาะสม กลัวว่าเจ้าอาจเดือดร้อนไปด้วย”

ความสัมพันธ์ระหว่างราชครูจุนกับราชสำนักมีปัญหาพัวพันกันอยู่ ถ้าต้องการจัดการคนสนิทของราชครูจุนคงยากยิ่งกว่า

ขึ้นสวรรค์ ราชครูจุนไม่ยอมแน่นอน

กงชิงวี่ไม่พูดอันใด กงชิงหยินถาม “นางเปลี่ยนไปมาก เจ้าไม่รู้สึกเหรอ ถึงแม้ข้าจะเคยเจอนางไม่กี่ครั้ง แต่ข้าจำได้ ลายมือนางน่าเกลียดกว่าขอทานเขียน ยุ่งเหยิง จับพู่กันยังไม่เป็นเลย แต่เมื่อกี้ข้าเห็นนางจับพู่กันได้มั่นคง สายตาคมชัด

แม้ไม่ได้ดูตัวหนังสือที่ขีดเขียนลง ก็สามารถรู้ได้ ลายมือนางคงสวยมาก

เจ้าไม่ได้สงสัยเหรอ นางไม่ใช่อันหลิงหยุน?”

“กงชิงวี่มองแล้วยิ้ม“ พระชายาของข้าด้วยเหตุใดเสด็จพี่รองถึงสนใจขนาดนี้เพคะ?”

“ไม่ใช่สนใจ แต่ดูนางแปลกๆ” กงชิงหยินวันนี้ดื่มเหล้าไปนิดหนึ่ง แต่เขาก็ยังมีสติ

“ข้าว่าคิดว่าเป็นเพราะข้าฝึกฝนพระชายามาดี เสด็จพี่รองไม่ได้สังเกตเหรอ ช่วงนี้นางเชื่อฟังขึ้นมาก”

กงชิงหยินยิ้มเยาะ “ พระชายาของเจ้า เจ้าจะเอากระไรก็แล้วแต่ แต่เรื่องของซ่างซูหลี่ทางที่ดีอย่าไปยุ่งดีกว่า”

กงชิงหยินพูดจบก็กลับไปในจวนอ๋องตวน ไม่หันกลับมามองเลย

กงชิงวี่ขมวดคิ้วด้วยความกังวล จ้องมองใบหน้าเย็นชาของอันหลิงหยุน

นางคงโกรธมากจริงๆ ถึงให้แม่ทัพอันไปหาฮ่องเต้

นางพูดถึงโลกอนาคต ผู้หญิงจะสูงศักดิ์ขึ้น มีความต้องการสูง ผู้ชายต้องมีความจริงใจถึงจะได้ใจผู้หญิง ใช้เงินทองซื้อใจ

ผู้หญิงมันเป็นวิธีของพวกไอ้แก่บ้ากาม สิ่งที่นางพูดเป็นการดูถูก

รอไปหนึ่งชั่วโมง แม่ทัพอันยังมาไม่ถึง แต่ซ่างซูหลี่กลับมาจากข้างนอก

รถม้าของซ่างซูหลี่จะมีระดับต่างกว่ารถม้าของแม่ทัพอันสองระดับ ตอนแรกรถม้าของแม่ทัพอันสูงกว่าซ่างซูหลี่หนึ่งระดับ

แขวนโคมไฟไว้ข้างละสองดวง ของซ่างซูหลี่แขวนหนึ่งดวง

ฮ่องเต้ได้พระราชทานให้แม่ทัพอันมีตำแหน่งและเงินเดือนเท่ากับอ๋อง ถึงแม้ไม่ใช้อ๋อง แต่ได้รับการปฏิบัติที่เท่า

เทียมกับอ๋อง แขวนโคมสามดวง

รถม้าของซ่างซูหลี่จอดอยู่หน้าประตู ซ่างซูหลี่ลงจากรถ มีคนรีบเอาโคมไฟวางไว้ข้างๆรถม้า ซ่างซูหลี่ค่อยๆลงจากรถม้า

เดินอย่างใจเย็น

อันหลิงหยุนกำลังครุ่นคิด ซ่างซูหลี่อายุประมาณห้าสิบ อายุไล่เลี่ยกับพ่อของนาง ทำงานในราชสำนักละเอียดกว่าคุมด้าน

การทหาร

ใส่ชุดเสนาบดี ช่วงอกมีนกกระเรียนกำลังบิน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหมอกมงคล ทำให้รู้สึกว่าซ่างซูหลี่มีราศีไม่ธรรมดา

ซ่างซูหลี่เตรียมก้าวขาเข้าไป มองเห็นอันหลิงหยุนแล้วแปลกใจ เขารู้จักอันหลิงหยุนกับอาหยู่

ซ่างซูหลี่เดินเร็วได้ไม่กี่ก้าว ก็โค้งคำนับ “ ข้าน้อยคำนับพระชายาเสียน”

อันหลิงหยุนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ซ่างซูคนนี้ มีมารยาทมากกว่าคนรับใช้

“ซ่างซูหลี่ให้เกียรติเกินไปแล้ว ข้าผ่านมาทางนี้เลยแวะดู หวังว่าซ่างซูหลี่คงไม่ถือสา”อันหลินหยุนพูดด้วยเสียงอบอุ่น

ซ่างซูหลี่ยืดตัวตรง มองดูอันหลิงหยุน “เชิญพระชายาเข้าไปข้างใน”

“ไม่ต้องแล้ว ไม่รบกวนซ่างซูหลี่ ข้าแค่ดูๆไม่กล้ารบกวนซ่างซูหลี่ เดี๋ยวท่านอ๋องก็จะตามหาข้า ถ้าท่านรู้ว่าข้ามาวุ่นวายอยู่ ตรงนี้ เดี๋ยวท่านจะไม่พอใจ ขอให้ซ่างซูหลี่แกล้งทำเป็นไม่เคยข้า”

ซ่างซูหลี่ก็พูดอย่างมีมารยาท “ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยไม่รบกวนพระชายาแล้ว”

ซ่างซูหลี่หันหลังกลับไปด้วยความเคารพ อันหลินหยุนเห็นซ่างซูหลี่ไปแล้วรู้สึกกังวลใจ

เป็นคนรับใช้ไม่ใช่ซ่างซูหลี่ อันหลินหยุนไม่เป็นห่วง ยื้อเวลาไว้ใกล้มาถึงแล้ว

ซ่างซูหลี่เดี๋ยวก็อาจนึกขึ้นมาได้

ซ่างซูหลี่เดินเข้าไปแล้วอันหลิงหยุนเดินไปเดินมา กงชิงวี่รู้สึกขบขัน ผู้หญิงคนนี้ฉลาดจริงๆ

ต้องเผชิญกับคนรับใช้ดูถูกเหยียดหยาม ถ้าให้ซ่างซูหลี่รู้จะไม่ดี กังวลมาก

“พระชายา เป็นอันใด?” อาหยู่รีบถาม

อันหลิงหยุนมองไป “อาหยู่ กลับไปเชิญท่านอ๋องมา ข้ารออยู่ตรงนี้ ก็บอกว่าข้าโดนคนรังแก”

อันหลิงหยุนกลัวคนในจวนซ่างซูจะลงโทษก่อนค่อยสอบสวน ถึงตอนนั้นทำอันใดก็ไม่ได้แล้ว”

อาหยู่ลังเล ด้วยเหตุใดท่านอ๋องยังไม่มา

“พระชายา ข้าไปไม่ได้ ถ้าเกิดเรื่องกับพระชายา อาหยู่จะทูลท่านอ๋องกระไร” อาหยู่ไม่ไป

“ให้เจ้ากลับไปก็กลับไป ช่วงนี้ไม่มีคนรังแกข้าเจ้ารีบกลับไป ข้าดูแลตัวเองได้”

อันหลิงหยุนเกลียดความดื้อ ช่วงเวลาสำคัญก็ไม่เชื่อฟัง

อาหยู่ไม่ขยับ เครียดที่ท่านอ๋องยังไม่ปรากฏตัว ถ้ายังไม่มาเข่าก็ต้านทานไม่ไหวแล้ว

หลังจากที่ซ่างซูหลี่กลับจวนเดินไม่กี่ก้าวก็หยุด นึกอันใดขึ้นมาได้ก็หันไปมองทางประตู รู้สึกแปลกใจ นึกถึงร่างกายที่สกปรกของอันหลิงหยน แค่มาดูความสนุกแล้วด้วยเหตุใดร่างกายสกปรกขนาดนั้น แปลกจริงๆ?

ซ่างซูหลี่ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดปกติ หันกลับมาทางพ่อบ้านกับคนรับใช้

“เข้ามา”

คนรับใช้กับพ่อบ้านรีบตามเข้ามา “นายท่าน”

“พระชายามาเมื่อไหร? ซ่างซูหลี่ถาม

พ่อบ้าน “มาช่วงค่ำ”

“ช่วงค่ำ?”

ซ่างซูหลี่ยิ่งแปลกใจ ดูความสนุกตั้งสองชั่วโมง?

“นี่เวลาไหนแล้ว ยังไม่กลับอีก?” ซ่างซูหลี่ขมวดคิ้ว

พ่อบ้านพูด “พวกนางเป็นเมียน้อยของคุณชายสอง”

“ข้าได้ยินชื่อเสียงของพระชายาเสียนมานาน วันนี้ได้ข่าวว่าพระชายาเสียนอยู่ตรงนี้ จึงอยากพบหน้า ขอเชิญพระชายาเข้าไปในจวนให้พวกข้าได้ทำความเคารพ”

สองคนถึงแม้จะทำท่าคำนับ แต่ก็ใช้มือดึงอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนนึกขึ้นมาได้ ถีบคนละที

พ่อบ้านขยิบตา คนในจวนซ่างซูอ้อมไปเพื่อไปจัดการฉาวเหม่ยเหริน อันหลิงหยุนเคลื่อนไหวเร็ว “อาหยู่ขวางไว้”

อาหยู่ใช้ตัวเข้าไปขวาง อันหลิงหยุนโดนสองคนบนพื้นลุกขึ้นมาดึงไว้ พระชายาเชิญข้างใน”

อันหลิงหยุนโกรธมาก เข็มในมือได้ปรากฏออกมา แทงคนละหนึ่งที สองคนก็ล้มลงกับพื้น

อันหลิงหยุนหันมามองพ่อบ้าน “ข้าดูซิใครยังกล้าขยับ?”

พ่อบ้านรู้สึกกลัว นึกไม่ถึงว่าอันหลิงหยุนจะร้ายกาจขนาดนี้ แต่เขาทำให้เรื่องพังไม่ได้ ไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ตรงไปหาฉาวเหม่ยเหริน “ยังไม่ลงมือรออันใด? พระชายาตกใจ ถ้าพวกเจ้ายังไม่ลงมือ ทำให้พระ

ชายาตกใจเป็นอันใดไป รับผิดชอบได้หรือไม่?”

“เจ้ากล้าเหรอ!”

อันหลิงหยุนรีบเข้าไป ในจวนซ่างซูมีผู้หญิงออกมาอีกสองคน ผู้หญิงสองคนนี้คำนับเสร็จก็กอดขานางคนละข้างแล้วนอน

ลงบนพื้น นางขยับไม่ได้แล้ว โมโหจนหน้าถอดสี “เจ้ากล้ามาก เป็นแค่สาวใช้ยังกล้ามาทำยังนี้ วันนี้ถ้าข้าไม่สามารถหยุด

เจ้าได้ ข้าจะฆ่าเจ้า!”

พ่อบ้านไม่ได้สนใจอันใด ในจวนซ่างซูมีคนออกมาอีกสิบกว่าคนล้อมอาหยู่ไว้ อาหยู่ไม่อยากทำร้ายใคร แต่คนพวกนี้เหมือน

เถาวัลย์รายล้อมเขาไว้

อันหลิงหยุนโกรธมาก “อาหยู่ เจ้าทำอันใด?”

อาหยู่ตกตะลึง ใช้มือฟาดลงไป ตีจนเขาบาดเจ็บ

พ่อบ้านเห็น ตกใจจนสั่น “เร็ว!”

มีสองคนกดฉาวเหม่ยเหรินไว้ ผ้าขาวจุ่มน้ำ แช่ได้ที่ถือขึ้นมา บังคับฉาวเหม่ยเหรินเงยหน้าขึ้น เอาผ้าวางไว้บนหน้า

อันหลิงหยุนเห็นฉาวเหม่ยเหรินหายใจริบหรี่ ใช้ขาเตะไปทีหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด กลิ้งไปอีกทาง เตะ

อีกที ผู้หญิงอีกคนบนพื้นถูกเตะกระเด็นออกไป

หน้าเฉื่อยชา อันหลิงหยุนพุ่งไปยังฝูงชน ต่อสู้กันขึ้นมา

พ่อบ้านเห็นไม่มีใครระวัง ยกมือขึ้นเตรียมจะตบตี แต่มือเขาเจ็บ ถอยไปหนึ่งก้าว มีเสียงฮึทีหนึ่ง

อันหลิงหยุนหันกลับไปมอง กงชิงวี่เดินมา

“ใจกล้ามากนะ ฐานะต่ำต้อยยังกล้าดี กล้ามาคิดร้ายพระชายาข้า ถ้าข้ามองไม่เห็น คงจะโดนพวกเจ้าทำร้ายแน่นอน พระ

ชายาของข้ามีครรภ์ ถ้าตกใจ ดูพวกเจ้ามีกี่หัวให้ตัด”

พ่อบ้านตกใจจนตัวสั่น รีบคุกเข่าลงมา

คนอื่นก็ไม่กล้าทำอันใดต่อ ต่างพากันคุกเข่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน