บทที่143 เข้าวังขอความเป็นธรรม
ความจริงอันหลิงหยุนชอบชุดสีแดง แต่ก็รู้สึกเกรงใจที่ให้เขาใส่ เพราะปกติเขาไม่ชอบใส่อันใดที่โดดเด่น คิดว่าคงไม่ชอบ
วันนี้ก็เลยพูดออก “ หม่อมฉันชอบสีแดง”
กงชิงวี่มองเห็นชุดสีแดง ก็เลยหยิบมาสวมใส่
กงชิงวี่เดินออกมาจากข้างใน “งามหรือไม่?”
อันหลิงหยุนตาเป็นประกายขึ้นมา ไม่เพียงแต่งาม
ผู้ชายคนนี้ไม่ใส่ยิ่งดี
มันน่าอิจฉาริษยา
ผู้ชายที่หล่อจะมีโทษ หุ่นดีใส่อันใดก็ดูดี ประกอบรวมกัน ก็ไม่มีใครเทียบได้
“งามมาก หม่อมฉันรอท่านอ๋อง ท่านอ๋องรีบไปรีบกลับ”
“อืม”
ยังดีที่กงชิงวี่ไม่พูดไร้สาระ หันตัวออกไปทันที
อันหลิงหยุนหมุนตัวดูรอบๆ รู้สึกอบอุ่น
อาบเสร็จก็ขึ้นจากน้ำ แน่นอนได้ไปที่ห้องอุ่นตามที่กงชิงวี่แนะนำ
อันหลิงเข้าไปก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ รีบใส่ชุดคลุม ดึกแล้วก็ยังออกไปหาฉาวเหม่ยเหริน แล้วยังหาถางเหอกับพ่อบ้านมาด้วย
อาหยู่อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว อันหลิงหยุนรีบไปดูฉาวเหม่ยเหริน ร่างกายฉาวเหม่ยเหรินสั่นตลอด ใบหน้าซีดเซียว เหมือนกับโดนดูดเลือดจนหมด
ใบหน้านางน่ากลัวมาก ที่ทำให้ตกใจ เพราะใบหน้านางเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น
“ถางเหอ เจ้าเอาป้ายหยกอาญาสิทธิ์ของจวนอ๋องออกไป รีบไปดัดที่ประตูเมืองหลวง จับตัวเฉาหมั่งมา ห้ามให้ผิดพลาด”
อันหลิงหยุนเริ่มเตรียมการต่อไป。
ถางเหอรับคำสั่ง แล้วรีบไปทันที
“พ่อบ้าน เจ้ารีบไปที่เสินเฉิงเสี้ยง ไปเคาะประตูทั้งคืน ต้องหาวิธีเจอเสินหยุนเจ๋ ก็บอกว่าข้ามีเรื่องขอร้องเขา ได้รับราชโองการตรวจสอบคดี
พ่อบ้านตกตะลึง ทันใดนั้นก็หันตัววิ่งออกไป
ท่านอ๋องตอนนี้สับสนกับพระชายา แต่ก็เชื่อฟัง
ประตูบ้านตระกูลเสินเปิดออก พ่อบ้านโดนขวางไว้ ด้วยความโมโหตะโกนเสียงดังลั่น
ตระกูลเสินปิดได้มิดชิด พ่อบ้านเป็นกังวลใจ เข้าไปไม่ได้ก็ได้แต่มองประตูที่ปิดแน่น
เสินเฉิงเสี้ยงเดินไปมาอยู่ในบ้าน ฮูหยิงเฉิงเสี้ยงถามด้วยความกังวลใจ “เฉิงเสี้ยง เรื่องนี้ไม่เห็นแก่ท่านอ๋องเหรอ ตอนนี้ ท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแทนราชวงศ์ ตอนนี้ฮ่องเต้มีรับสั่งให้พระชายาเสียนเป็นผู้สอบสวนคดี ไม่รู้จะอธิบายกระไร”
“ไม่มีปัญหา ดึกดื่นนางมาที่จวนข้า บอกว่าหาหยุนเจ๋ และก็เป็นข้อห้ามใหญ่ ข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ก็พูดว่าผู้หญิงผู้ชายห้าม
เข้าใกล้กัน ไม่ให้นางทำอย่างนี้อีก” เสินเฉิงเสี้ยงพูด แต่ก็กังวลใจเหมือนกัน
ตอนนี้ในเมืองหลวงมีเรื่องของซ่างซูหลี่ มีคนในวังพูดออกมา เรื่องนี้ถ้าให้หยุนเจ๋ไป กลัวว่าหยุนเจ๋จะตกอยู่ในอันตราย คนที่มีอำนาจก็มีแต่คนอยากเข้าใกล้ ช่วงนี้หยุนเจ๋เป็นที่รักใคร่ของฮ่องเต้ คนเหล่านี้ก็เริ่มมาประจบ ในจวนเฉิงเสี้ยงไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้มานานแล้ว ลูกสาวจะมีราชทายาทให้ฮ่องเต้น่าจะเป็นเรื่องน่ายินดี
แต่เขาคิดรอบคอบแล้ว รู้สึกสะเทือนขวัญ ถ้าคลอดทายาทออกมาได้ก็ดี แต่ถ้าคลอดไม่ได้ก็มีโทษทั้งตระกูล
เขาไม่กล้าที่จะโอ้อวด?
ประตูใหญ่จวนเฉิงเสี้ยงปิดแน่น พ่อบ้านให้คนกลับไปรายงาน
ตอนนี้อันหลิงหยุนกำลังรอเสินหยุนเจ๋ ถ้าเขาไม่มานางก็ไม่สามารถช่วยคนได้
หันกลับมาชี้ที่หมาจิ้งจอกหางสั้น “เจ้าไป ไปหาเขามา เอากระบี่โม่เยมาด้วย จำไว้ ตรงด้ามกระบี่จะมีหัวสัตว์ร้ายสองหัว
ถ้าเขาไม่ได้พกติดตัว ก็ไปหาที่ห้องเขา เจ้าเคยนอนเสื้อผ้าเขา จำกลิ่นเขาได้อยู่แล้ว”
หมาจิ้งจอกหางสั้นได้รับคำสั่ง ก็หายไปในชั่วพริบตา
สี่ขาย่อมวิ่งได้เร็วกว่าสองขา คนในจวนอ๋องเสียนเห็นสิ่งของสีขาวๆชั่วพริบตาก็กระโดดออกทางประตู
พ่อบ้านกำลังเคาะประตู พอกระพริบตาทีหนึ่งหมาจิ้งจอกหางสั้นก็มาถึง พ่อบ้านรีบถาม “หมาจิ้งจอกน้อยมาแล้วเหรอ?”
ฐานะของหมาจิ้งจอกหางสั้นนั้นสูงส่ง สูงกว่าพ่อบ้าน พอเขาเห็นก็ต้องทักทาย หมาจิ้งจอกหางสั้นไม่อยากเสียเวลา เขารีบปีนขึ้นจากขาขึ้นไป กระโดดขึ้นไปบนหัว พ่อบ้านไม่กล้าขยับ หมาจิ้งจอกหางสั้นจับประตูจวนเฉิงเสี้ยง แล้วกระโดดขึ้นไป
พ่อบ้านตะลึง ช่างเป็นหมาจิ้งจอกที่ยอดเยี่ยม คว้าประตูก็ขึ้นไปได้ เหนือกำแพงหมาจิ้งจอกหางสั้นมองไปรอบๆ แล้วรีบลงไป พ่อบ้านเดินไปมาอยู่นอกประตู รอหมาจิ้งจอกหางสั้น กำลังครุ่นคิด หมาจิ้งจอกพระชายายอดเยี่ยมขนาดนี้ พระชายาก็ยิ่งไม่ธรรมดาจริงๆ
พ่อบ้านคิด ไม่ทำอันใดเลยก็ไม่ได้ ก็ร้องตะโกนเรื่อยๆ
พอตะโกน ทั่วลานสวนบ้านตระกูลเสินเปิดไฟสว่างขึ้นมา เสินหยุนเจ๋ที่ยังไม่ได้พักผ่อนก็ได้รับข่าว กำลังใส่เสื้อผ้าออกจาก
ประตู มีเสียงร้องจีจีดังมาจากลานสวน
เสินหยุนเจ๋ออกไปทางประตู ฟังดีๆ ในสวนเหมือนมีเสียงฆ่าแกงกัน
รู้สึกผิดปกติเสินหยุนเจ๋ก็เดินไปหา ห่างจากประตูไม่ไกล เห็นคนฝูงหนึ่งกำลังไล่ตีจิ้งจอกหางสั้น ก็ตะโกน
“หยุดนะ”
ทุกคนก็หยุด เสินหยุนเจ๋มองหมาจิ้งจอกหางสั้น เรียกเขา “มานี่”
หมาจิ้งจอกหางสั้นรีบวิ่งออกจากฝูงชน วิ่งไปหาร่างของเสินหยุนเจ๋ แล้วหมุนรอบไหล่เขา แล้วหยุดจากนั้นหันหน้ามองไป
ลานสวนที่เสินหยุนเจ๋เดินออกมา แล้ววิ่งตามไป
คนใช้บ้านตระกูลเสินจะไล่ตาม เสินหยุนเจ๋ก็ได้ดุ “เจ้ากล้าเหรอ นั่นเป็นของข้า ใครกล้าเข้ามา ข้าไม่ละเว้น”
ฮ่องเต้ชิงหยู่ประหลาดใจนิดหนึ่ง ฮ่องเต้องค์ก่อนเคยรับสั่งให้อ๋องสองท่านสืบทอดบัลลังก์เป็นร้อยปี เวลาเข้าประชุมราชสำนักไม่ต้องคุกเข่า ท่านเคยพูด อ๋องสองท่านไม่ต้องคุกเข่าคำนับฮ่องเต้ วันนี้ด้วยเหตุใดแปลกๆ
“ไม่มีคนนอก รีบลุกขึ้น”ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดเบาๆ
“ขอบพระทัยฮ่องเต้” กงชิงวี่ลุกขึ้นแล้วมองไปทางแม่ทัพอัน
“ท่านพ่อตา”กงชิงวี่ยกมือคำนับ
แม่ทัพอันมองไปทางฮ่องเต้ชิงหยู่ สองคนคิดในใจ วันนี้ด้วยเหตุใดทำตัวเหมาะสมจัง ปกติประชุมไม่คุกเข่า วันนี้คุกเข่า ปกติแค่ก้มหัวทักทาย แต่วันนี้ยกมือก้มคำนับ
“อืม”แม่ทัพอันตอบ คิดในใจ ถ้าไม่ใช่รังแกหลิงหยุนแล้วด้วยเหตุใดทำตัวอย่างนี้ คิดแล้วสีหน้าก็คร่ำเครียด
กงชิงวี่หันตัวมาทางฮ่องเต้ ยกมือคำนับ “ฮ่องเต้ วันนี้ข้าดึกดื่นเข้าวัง มีเรื่องหนึ่งอยากให้ฮ่องเต้ตัดสินใจให้”
“ตัดสินใจให้ก็ได้ เจ้าเข้ามาก็คุกเข่า แล้วก็ทำหน้าเย็นชา คนไม่รู้นึกว่าข้ากับแม่ทัพอันรังแกเจ้า ใครทำเรื่องไม่ดีกับเจ้า เจ้ามีปัญหาพูดมา ข้าจะเป็นคนตัดสินใจให้เจ้า”ฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่เคยเห็นกงชิงวี่จริงจังขนาดนี้ ชั่วขณะรู้สึกไม่ค่อยชิน
“ฮ่องเต้ ข้ารู้สึกไม่สบายใจ พระชายาของข้าโดนคนอื่นรังแก คนที่รังแกเป็นคนรับใช้” กงชิงวี่สีหน้าเฉื่อยชา
ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังตั้งสติไม่ได้ แม่ทัพอันพูดขึ้นมาก่อน
“ใครรังแก?” แม่ทัพอันโกรธจนจะเดินออกไป ฮ่องเต้ชิงหยู่ทุบเก้าอี้ “บังอาจ”
แม่ทัพอันเลยรีบหันตัวกลับมา ก้มหัวไม่พูดอันใด
“ฮึ เจ้าก็ให้เขาพูดจบก่อน เจ้าจะไปไหน? นี่เป็นวังของข้า เจ้านึกว่าเป็นประตูบ้านเจ้าเหรอ?” ฮ่องเต้โมโหจนอยากทำโทษทั้งสองคน
สวีกงกงรีบพูด “แม่ทัพอันฟังให้จบ เรื่องนี้มีฮ่องเต้จัดการได้”
ตอนนี้แม่ทัพอันก็มองไปทางกงชิงวี่
กงชิงวี่ก็เลยพูดต่อ “วันนี้ ตอนเช้าข้า กับพระชายาได้พูดเรื่องเกี่ยวกับบ้านซ่างซูหลี่ จิตใจของพระชายาจะแตกต่างจากคนทั่วไป บางครั้งก็ดื้อ จะไปดูฉาวซื่อที่หน้าบ้านซ่างซูหลี่ ข้าก็เลยบอก ถ้านางจะไปก็ได้ ข้าทำธุระเสร็จค่อยไปกับนาง นาง
ตอบตกลงกับข้าแล้ว ข้าเลยไม่กังวล
อ๋องตวนพรุ่งนี้แต่งพระชายารอง ข้ากับเขานานแล้วไม่ได้ดื่มด้วยกัน ก็เลยเชิญเขาดื่มเหล้า ดื่มเยอะทำให้มีเรื่อง อ๋องตวนกลับแล้วข้ารีบไปหาพระชายา เห็นพ่อบ้านซ่างซูหลี่กำลังจะทำร้ายพระชายา ถ้าข้าไปไม่ทัน เขาจะทำอันใดกับพระชายาบ้าง”
แม่ทัพอันเพิ่งเข้าใจ นี่คือมาฟ้องร้อง แบมือ แม่ทัพอันไม่พูดอันใด
ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม “บาดเจ็บเหรอ?”
“ไม่บาดเจ็บ แต่ตกใจคนพวกนั้นรีบร้อนจัดการฉาวซื่อ เรื่องการฆ่าคนพระชายากลัว บอกพวกเขาอย่าพึ่งฆ่า พวกเขาก็ดึง
พระชายาไว้ สาวใช้ในจวนออกมาหลายคน พากันกระชากพระชายา พระชายามีเชื้อสายนักรบ มีกำลังเล็กน้อย ดิ้นหลุด
แล้วก็ไปขวางไว้ พ่อบ้านซ่างซูยกมือขึ้นจะทำร้ายพระชายา ตอนที่ข้าไปถึงพระชายาโดนรังแกจนเละไปทั้งตัว พอเห็นข้าก็ร้องไห้ขึ้นมาทันที
ข้ารู้สึกโกรธมาก พระชายาได้พาองครักษ์ไปด้วย องครักษ์ก็ได้พูดแล้ว พระชายากำลังรอข้า แต่คนรับใช้ก็ยังจะทำร้ายพระชายา ข้ายิ่งคิดยิ่งโมโห พวกเขารังแกพระชายาหรือรังแกข้า รังแกข้าหรือรังแกฮ่องเต้?”
แม่ทัพอันใจเป็นสุข ลูกเขยข้าด้วยเหตุใดพูดเก่งขนาดนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...