ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 154

บทที่ 154 จุนฉูฉูจะเอาชีวิต

อันหลิงหยุนมองลงไปที่กงชิงวี่

เมื่อมองไปที่กงชิงวี่ อันหลิงหยุนผงกหัวเล็กน้อย “ท่านอ๋อง”

“อืม”

กงชิงวี่มองไปทางไห่กงกง “เสด็จแม่ได้ข้อสรุปแล้ว?”

“ไทเฮารับสั่ง วังเฟิ่งหยีและวังจิ่งซิ่ว คนรับใช้จำนวนหนึ่งมิอาจปกป้องผู้เป็นนายได้ จึงตัดสิน คนรอบข้างวังทั้งสองจำต้องสอบปากคำด้วยการทรมาน

เพื่อหลีกเลี่ยงความโกลาหลภายในวัง นางสนมน้อยใหญ่ในวังทั้งหมด ในสามวันนี้ห้ามออกจากห้องตนเอง จัดเตรียมคนมาดูแล รอให้ทั้งสองวังปลอดภัย จึงจะให้อิสระ

ผู้คนในแต่ละวัง สามวันนี้ห้ามส่งเสียงดัง และห้ามรบกวนกันและกัน

ฮองเฮาประสบภัย ฮ่องเต้ต้องไตร่ตรองตนเอง เมื่อถือศีลเสวยเจครบสามวัน ให้อธิษฐานขอพรแก่พระนางทั้งสอง

จวนเฉินเสี้ยงไม่รอบคอบ ต้องรับผิดชอบเป็นเยี่ยงอย่าง ภายในสามวัน ต้องอดพระกระยาหาร สวดมนต์ให้ฮองเฮา หากฮองเฮาแม่ลูกปลอดภัย จวนเฉินเสี้ยนถือว่ามีความดีความชอบ ชดเชยความผิดของตน หากสามวันให้หลังฮองเฮาแม่ลูกมีอันตราย ทุกคนต้องชดใช้”

อันหลิงหยุนมองดูกงชิงวี่ นี่มันคืองานศพของจวนเฉินเสี้ยนทั้งหมดเลยนะ!

ฮ่องเต้ชิงหยู่เอ่ย “หม่อมฉันรับคำสั่ง”

ไห่กงกงเดินจากอันหลิงหยุนไปด้านหน้าฮ่องเต้ชิงหยู่ โค้งตัวลงเอ่ยว่า “ฮ่องเต้ ไทเฮาจะไปที่โถงบรรพบุรุษเพื่อสวดมนต์ให้ทั่งสองพระองค์ ไทเฮาให้ข้าน้อยบอกกับฮ่องเต้ ฮองเฮาต้องพำนักที่ตำหนักกลาง มิอาจปล่อยอยู่ด้านนอก ขอฮ่องเต้รับฮองเฮากลับวังด้วย”

“......”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลังเลเล็กน้อย “ข้าทราบแล้ว”

“ข้าน้อยขอตัว”

ไห่กงกงคำนับ แล้วยืดตัวเดินจากไป

อันหลินหยุนมองตาม ถอนหายใจหนึ่งที ในเวลานี้ไปรับฮองเฮากลับมา ไม่เท่ากับจะให้ฮองเฮาตายหรือ

“อ๋องเสียน เจ้าไปที ไปรับฮองเฮากลับมาแทนข้า พาพระชายาเสียนไปกับเจ้า ข้าก็เบาใจ” ฮ่องเต้ชิงหยู่ดูแก่ขึ้นเพียงพริบตา อันหลิงหยุนมองดวงตาของเขาดูเหนื่อยล้า

กงชิงวี่รับปาก “กระหม่อมรับคำสั่ง”

หันกายมองไปที่อันหลิงหยุน กงชิงวี่เอ่ยเรียกนาง “ไปกันเถอะ”

อันหลิงหยุนเดินตามออกไป

ทั้งสองเดินจากวังมาอย่างเร็ว พอขึ้นรถม้าอันหลิงหยุนก็แสดงความเศร้าโศก “เสด็จแม่จะให้ฮองเฮากลับวัง เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าทำให้ฮองเฮา...”

“เสด็จแม่ทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ฮองเฮาในตอนนี้ ไม่ควรทิ้งไว้นอกวัง จำต้องพากลับเข้าวัง” กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุนพร้อมอธิบาย อันหลิงหยุนกลับรู้สึกเหมือน หวางฮองไทเฮามิอาจหยุดยั้งเหตุการณ์ไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ได้

ทั่วทั้งราชวัง ทุกสิ่งอย่างล้วนอยู่ในกำมือของนาง ถึงแม้นางจะเหมือนยืนอยู่บนน้ำแข็งเบาบาง แต่กลับทำให้ทุกคนเกรงกลัวเพียงแค่นาง

“เสด็จแม่มอบเสื้อขนนกให้เจ้า ช่างเเสวยความคาดหมายของข้า นี่เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทำให้เสด็จแม่ เสื้อตัวนี้ใช้นกยูงหลิงถึงเจ็ดพันตัวถึงทำออกมาได้ ล่วงเวลากว่าสามปี ใช้ช่างฝีมือกว่าหกสิบคน กับช่างปักมือหนึ่งอีกเจ็ดแปดคน” กงชิงวี่ลูบไล้เสื้อขนนกบนตัวอันหลิงหยุน กระชับอ้อมแขนเข้ามา

อันหลิงหยุนเอ่ยถาม “เสื้อตัวนี้ดีเช่นนั้นเชียวรึ?”

“เป็นธรรมดา เสื้อตัวนี้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของเสด็จแม่ ฮ่องเต้องค์ก่อนรับสั่งไว้ มองเห็นเสื้อตัวนี้ เปรียบได้กับเจอตัวเสด็จแม่เอง สวมเสื้อขนนกตัวนี้ เท่ากับฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ ก็มิอาจแตะต้องนาง”

ถ้าเช่นนั้นท่านพ่อมิใช่ว่ารักเสด็จแม่มากหรือ?”

“นั่นก็แน่นอน” กงชิงวี่เอ่ยเบาๆ

อันหลิงหยุนค่อนข้างสับสน “หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดจึงมีนางสนมคนอื่น?”

อันหลิงหยุนทราบ นางสนมน้อยใหญ่ที่ไห่กงกงเอ่ยถึง มิได้หมายถึงนางสนมของฮ่องเต้ชิงหยู่ แต่เป็นนางสนมที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทิ้งไว้

คนพวกนั้นหากถูกสั่งให้ตายก็ต้องตาย ส่งให้ไปบวชก็ต้องบวช แต่ยังมีบางส่วนโดนทิ้งไว้วังหลัง ผู้หญิงพวกนั้น ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังอยู่บ้าง จึงต้องเก็บไว้

คนมากมายเช่นนี้ พูดได้ว่าท่านพ่อของกงชิงวี่ เป็นคนหลายใจ

กงชิงวี่ถอนหายใจ “เป็นฮ่องเต้ ไม่เพียงต้องรับผิดชอบต่อผู้คนชาวเมือง ยังต้องแบกรับหน้าที่การสืบราชวงศ์ เป็นธรรมดาที่จะต้องทำเพื่อถ่ายทอดมรดก”

“ถึงจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ”

นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง อันหลิงหยุนเอ่ยขึ้น “เสด็จแม่บอกว่ามีคนให้ร้ายจวนอ๋องเสียน เกรงว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้จะทำให้ฮ่องเต้ตำหนิท่านอ๋อง แล้วก็ไม่ทราบว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วจะดีได้กระไร!”

แม้ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ก็ยังคงน่ากังวลอยู่

กงชิงวี่กลับไม่กังวลใจ บีบนวดมือของอันหลิงหยุน “เสด็จแม่ทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว แค่เพียงรอดูผลลัพธ์ของทั้งสองพระองค์ว่าเป็นกระไร”

“เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้?” อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมอง ยังมีบางสิ่งที่ไม่เข้าใจ

กงชิงวี่หัวเราะ “ตอนที่ควรฉลาดไม่ฉลาด ตอนที่ไม่ควรฉลาดกลับฉลาด เสด็จแม่ควบคุมทุกอย่างไว้แล้ว นางจะปล่อยคนที่ให้ร้ายข้าไปได้กระไรล่ะ?”

“ท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านถูกทำร้ายเจียนตาย ก็ไม่เคยเห็นเสด็จแม่เป็นแบบนี้นี่?”

“นั่นไม่เหมือนกัน บาดเจ็บมาเสด็จแม่ก็เป็นห่วง แต่กระไรนางก็ไม่ใช่หมอหลวง ไม่มีส่วนช่วยในความเป็นความตายข้า แต่เรื่องในวันนี้ เป็นตัวแปรของราชวัง เสด็จแม่ไม่มีทางที่จะนิ่งดูดาย”

“เช่นนั้นเสด็จแม่...” อันหลิงหยุนเก็บคำพูดที่น่ากลัวสองคำนั้นไว้ สิ่งนี้ไม่พูดออกไปจะดีกว่า

อันหลิงหยุนง่วงนอนเล็กน้อย เอนพิงไปที่ไหล่ของกงชิงวี่

“เหนื่อยรึ?” กงชิงวี่โอบกอด ให้อันหลิงหยุนได้มีที่พักพิงที่สบาย

“อืม ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอพักสักครู่” อันหลิงหยุนเหนื่อยเพลียจริงๆ การเทียวไปมาเช่นนี้ จะเร็วจะช้าก็เหนื่อยอยู่ดี

ก่อนหน้านี้ตอนรบนางสะพายกล่องยายืนอยู่ด้านหลังศัตรูยังไม่เหนื่อยเท่านี้ ในตอนนี้เป็นพระชายายุคโบราณกลับเหนื่อยได้ขนาดนี้

“นอนเถอะ ข้าจะกอดเจ้าไว้”

กงชิงวี่เอนพิงรถม้า งีบบรรทมไปสักครู่

รถม้ามาถึงจวนเฉินเสี้ยนอันหลิงหยุนถึงถูกปลุกให้ตื่น ลงจากรถแล้วทั้งสองก็ไปพบฮองเฮาเสินหยุนชู

ทันทีที่อันหลิงหยุนปรากฏตัว ผู้คนต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น

กงชิงวี่ดึงมืออันหลิงหยุนเมินผู้คน แล้วตรงไปหาเสินหยุนชู

ในห้องมีคนนั่งคุกเข่า ภรรยาของเฉิงเสี้ยงร้องไห้จนน้ำตาอาบแก้ม เสินหยุนชูนอนหายใจโรยรินอยู่บนเตียง การได้เห็นอันหลิงหยุนก็ไม่ได่ช่วยเติมไฟแห่งชีวิต

อันหลิงหยุนก้มลงกดข้อมือของเสินหยุนชู เริ่มการวินิจฉัยเพื่อการรักษานาง

“ฮองเฮาแม่ลูกปลอดภัย ทุกอย่างเป็นไปตามคาด เพียงแต่ฮองเฮามีโอกาสที่จะตกลูก ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ที่นี่ไม่ต่างกับนอกวัง ต้องกลับไปที่วังจะดีกว่า”

“หยุนเจ๋ ข้าเหน็ดเหนื่อยมากแล้ว ทั้งยังต้องถือศีลอีกสามวัน ฝากฮองเฮาไว้กับเจ้าด้วย”

“น้อมรับคำสั่ง” เสินหยุนเจ๋ถือดาบเข้าวัง มือทั้งสองกุมดาบไว้

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่เสินหยุนชู “ข้าจะต้องให้ความยุติธรรมแก่ฮองเฮาแน่นอน ฮองเฮาพักผ่อนเถอะ”

“หม่อมฉันขอบพระคุณฝ่าบาท” เสินหยุนชูยังคงรู้สึกผิดมาก

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยืนขึ้น ไม่อาลัยอาวรณ์อีกต่อไป มองไปที่เสินหยุนเจ๋ “อย่าอยู่ห่างจากนาง นอกจากอ๋องเสียนและพระชายาเสียน ใครก็ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ฮองเฮา”

“ข้าน้อยทราบดี”

“อืม”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองดูฮองเฮา แล้วจึงเดินหันหลังไป

อันหลิงหยุนหันกลับไปมอง เป็นชายที่ไร้ความรู้สึกเสียจริง เขาแทบจะไม่สนความเป็นความตายของจุนเซียวเซียวเลยแม้แต่น้อย!

“แม่ทัพน้อย ฮองเฮาในเวลานี้ไร้อันตราย ต้องพักผ่อน ข้ายังต้องไปดูเซียวกุ้ยเฟย ขอตัวก่อน” อัยหลิงหยุนพูดจบก็เดินออกไป

กงชิงวี่ก็เดินออกไปพร้อมนาง

ถึงวังจิ่งซิ่วตรวจดูไปมา ทั้งสองพระองค์ไร้อันตราย ฟ้าก็สว่างแล้ว

อันหลิงหยุนเหนื่อยไม่เบา เอนตัวพิงเสาบรรทมไป

กงชิงวี่รับหน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวจากทั้งสองวัง ไม่วางใจให้อันหลิงหยุนไปคนเดียว ทำได้เพียงให้คนไปอยู่ข้างกาย แต่ข้างกายก็ไม่ใช่มีเตียง

อันหลิงหยุนเหนื่อยเพลียมากแน่แท้ เอนตัวพิงเสาบรรทมไป

เมื่อกงชิงวี่จัดการทุกอย่างได้เกือบเรียบร้อย อันหลิงหยุนก็คงตื่นพอดี

เดินมาด้านหน้าของอันหลิงหยุน กงชิงวี่ไม่อาจไม่เจ็บปวดได้ ดึงนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ตบเบาๆ แล้วก้มลงอุ้มนางเข้าวิหารบรรทมรองเพื่อพักผ่อน

อันหลิงหยุนบรรทมอย่างนิ่งสงบ แต่คนในวังกลับรนใจ

กงชิงวี่ตรวจสอบเรื่องราวจากทั้งสองวังแล้ว จัดกำลังคนดูแลอย่างเข้มงวด คนภายในวังทั้งสองกลายมาเป็นคนในจวนทหาร

และทั่วทั้งราชวัง ทั้งหมดอยู่ในกำมือของกงชิงวี่

คนภายในวังทุกคนต่างอยู่ในอันตราย ไม่กล้าทำอันใดผิดพลาด

คนของทั้งสองวังทั้งหมดโดยไทเฮาตัดสินแล้ว ในเวลานี้ ใครก็ไม่กล้าทำผิดซ้ำ ต่างกลัวที่จะเสียหัว

ฮั๋วไท่เฟยในขณะนี้ก็เดินไปเดินมาในวัง ใช้ความคิดอย่างถี่ถ้วน

“พระนาง” แม่นมเว่ยที่อยู่กับฮั๋วไท่เฟยมาหลายปีเดินมาด้านหน้าฮั๋วไท่เฟย

ฮั๋วไท่เฟยจิตใจร้อนรน “เมื่อวาน อ๋องตวนกับพระชายาตวนเข้าวังใช่หรือไม่?”

แม่นมเว่ยเข้าใจความหมายของฮั๋วไท่เฟยได้เอง “พระนาง อ๋องตวนเป็นคนซื่อสัตย์ภักดี พระนางก็ทราบดี”

“ก็เพราะอ๋องตวนซื่อสัตย์ภักดีนั่นแหละ ข้าถึงได้กลัว นังจุนฉูฉูจะมาเอาชีวิตข้าแล้วหรือ? ครั้งก่อนข้ายังให้บทเรียนนางไม่พอ นางต้องมาเอาชีวิตข้าเป็นแน่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน