ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 22

บทที่22นักฆ่าหน้านักบุญ

ถางเหอรีบก้าวขึ้นมาข้างหน้า"ท่านอ๋องข้าน้อยมีเรื่องบางอย่างอยากสอบถาม?”

กงชิงวี่หมุนตัวกลับมาทั้งร่างชุ่มไปด้วยเลือดดูแล้วน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

“พูดเถอะ”ในตอนนี้กงชิงวี่กลับนิ่งสงบราวกับว่าบาดแผลบนร่างของเขาไม่มีความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

“พระชายารักษาอาการป่วยให้ฝ่าบาทเป็นการส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็นท่านอ๋องที่ชี้แนะใช่หรือไม่มี?”ถางเหอต้องการรู้เรื่องราวอย่างชัดเจนถ่องแท้ก่อนทำการวางแผนตัดสินใจ

“ข้าไม่รู้เรื่องนี้”ดวงตาของกงชิงวี่มืดลงผู้หญิงคนนั้นนับวันยิ่งไร้สาระถึงกับกล้าที่จะสั่งจ่ายยาให้กับฝ่าบาทเป็นการส่วนตัวนางเบื่อชีวิตหรือยังไงกัน

“ในเมื่อไม่ใช่คำแนะนำจากท่านอ๋องเสียนเช่นนั้นท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากจนเกินไปอยู่ที่นี้รักษาบาดแผลให้ดีก่อนหน้านี้ท่านอ๋องและพระชายาไม่ลงรอยกันเป็นเรื่องที่ผู้คนทราบกันดีบวกกับพฤติกรรมของพระชายาที่มีต่อท่านอ๋องนั้นก็นับว่าไม่อยู่ในกรอบเหมาะสมครั้งนี้ขอแค่เพียงท่านอ๋องไม่ยอมรับทำตัวประหนึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของนางเช่นนี้ก็เพียงพอ”

ถางเหอยังคงไม่รู้ถึงเรื่องไม่กี่วันที่ผ่านมาของกงชิงวี่พ่อบ้านจึงเหลือบมองท่านอ๋องของตนด้วยความเป็นกังวล

หากไม่มีพระชายาท่านอ๋องคงไม่มีชีวิตมาจนกระทั่งวันนี้หากตัดสินใจกระทำเช่นนี้กับพระชายาก็นับว่าไร้มนุษยธรรมจนเกินไป

แต่เพื่อท่านอ๋องแล้วจะมีทางเลือกอะไรอีกกัน!

“หากถูกสงสัยเข้าจริงๆต่อให้ข้าไม่สนใจความเป็นความตายของนางก็ยังคงถูกลงโทษอยู่ดียังไงเสียนางก็คือคนในจวนอ๋องเสียน”

กงชิงวี่มองไปที่ประตู"ไปนานแค่ไหนแล้ว?"

"หกชั่วยามขอรับ"

พ่อบ้านรีบเอ่ยตอบ

กงชิงวี่เดินไปที่ประตู:"เตรียมรถข้าจะเข้าวัง"

“นายอ๋องท่านในตอนนี้อย่างว่าแต่เข้าวังเลยแม้กระทั่งออกไปข้างนอกยังลำบากยิ่ง”ถางเหอเอ่ยห้ามและส่งสัญญาณให้อาหยู่ปิดประตูลงทันที

“บังอาจข้าจะทำอะไรพวกเจ้ากล้าห้ามงั้นหรือ?”สีหน้าของกงชิงวี่มืดคล้ำ

ถางเหอก้าวถอยหลังทันทีไม่กล้ายับยั้งอีกต่อไป

“อาหยู่ไปเตรียมรถข้าจะเข้าวัง"

"..."อาหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้แต่ทำตามโดยดี

รถม้าถูกเตรียมพร้อมไว้แล้วในจวนอ๋องเสียนกงชิงวี่พยายามขึ้นรถอย่างยากลำบากสุดท้ายถางเหอจึงได้แต่ไปกับเขาด้วย

ระหว่างทางกงชิงวี่นำยาที่เหลืออยู่เม็ดสุดท้ายส่งเข้าปากจากนั้นจึงดื่มน้ำตามเล็กน้อย"ยังอีกไกลแค่ไหน?”

“ใกล้แล้วขอรับ"อาหยู่ตอบรับจากด้านนอกกงชิงวี่ยกผ้าม่านขึ้นและมองออกไปข้างนอกสถานที่ที่ปกติใช้เวลาเพียงพริบตาก็มาถึงในตอนนี้กลับทำให้เขารู้สึกว่ามันช่างยาวนานจนน่าอารมณ์เสีย

ถางเหอลงจากรถม้าและไปยังประตูวังเพื่อสอบถามเรื่องการเข้าวังแต่นายทหารรักษาประตูวังเอาแต่ส่ายหัวปฏิเสธ“เป็นคำสั่งของฮองไทเฮาไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าวัง”

ถางเหอกลับมายังรถม้ากงชิงวี่ได้ยินชัดเจนโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากถามแต่อย่างใด

กงชิงวี่หรี่ตา"ไปเชิญหวางกั๋วจิ้วมา"

ปัจจุบันฮองไทเฮามีน้องชายที่อายุยังน้อยอยู่ผู้หนึ่งถึงแม้จะไม่ได้กำเนิดจากมารดาคนเดียวกันแต่กลับเป็นสามีของน้องสาวที่เสด็จแม่ของฮองไทเฮารักและโปรดปรานที่สุด

น้องชายผู้นี้เมื่อเกิดมาก็เป็นที่รักใคร่อย่างยิ่งอีกทั้งยังเป็นน้องชายที่หวางฮองไทเฮาชื่นชอบมากที่สุด

ไม่เคยเข้าแทรกแซงเรื่องใดๆวังนึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป

ถางเหอเข้าใจในทันทีและรีบส่งคนไปเชิญหวางกั๋วจิ้ว

จนกระทั่งรถม้าของหวางกั๋วจิ้วแต่คนกลับมาไม่ถึง

แต่คนใช้ได้นำป้ายสำหรับเข้าวังมามอบให้แก่กงชิงวี่“ท่านกั๋วจิ้วของพวกเราออกไปสวดมนต์ภาวนาไม่อยู่ที่จวนฮูหยินเป็นห่วงว่าท่านอ๋องคงมีเรื่องสำคัญดังนั้นจึงให้ข้าน้อยนำป้ายนี้มามอบให้แก่ท่าน”

กงชิงวี่หยิบป้ายขึ้นมาดูในใจรู้ดีว่ากั๋วจิ้วนั้นไม่อยากเป็นผู้ออกหน้าดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้ลำบากใจแต่อย่างใดเขาเอ่ย“หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าจะบอกว่าเป็นตัวเองที่แย่งชิงมาเจ้านำกลับไปบอกแก่กั๋วจิ้วเถอะ”

“ข้าน้อยรับทราบ”

จนกระทั่งบุคคลที่มาจากไปกงชิงวี่จึงค่อยออกมาจากรถม้า

ท่านอ๋องเสียนที่ปกติฝ่าบาทเป็นกังวลที่สุดรักโปรดปรานที่สุดมาวันนี้มีสภาพแบบนี้ทำเอาพวกเขาตกใจเป็นอย่างยิ่ง

หวางฮองไทเฮามองดูผู้ที่เพิ่งเข้ามาจากนั้นก็ตะลึงงันไปเช่นกัน

ส่วนฮองเฮานั้นตกใจจนหน้าถอดสีนางไม่ใส่ใจผู้อื่นอีกต่อไปรีบเดินลงมาจากข้างบนอย่างรวดเร็ว“เสด็จน้องนี่เจ้า?”

เขาส่ายหัวจากนั้นจึงมองไปยังหวางฮองไทเฮาและคุกเข่าทั้งสองข้างลง"หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่"

เสียงเข่าทั้งสองข้างกระทบพื้นดังขึ้นจนฮองเฮาอุทานออกมาด้วยความตกใจ"หมอหลวงหมอหลวง..."

หมอหลวงรีบเข้ามาอย่างเร่งรีบหวางฮองไทเฮาก็รีบลงมาจากด้านบนด้วยความร้อนรนเช่นกันจากนั้นจึงมองเห็นบุตรชายของตนกำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?นี่มันอะไรกัน?”

กงชิงวี่หายใจแผ่วเบา“หม่อมฉันแค่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่สามารถเข้าวังจำเป็นต้องยืมป้ายห้อยเอวของเสด็จลุงมาถึงได้เข้ามาได้?”

คำพูดสุดท้ายหล่นลงมาพร้อมกับกงชิงวี่ที่สลบลงไปกับพื้น

"หมอหลวงหมอหลวงผู้..."หวางฮองไทเฮาเอ่ยตะโกนเรียกหมอหลวงรีบร้อนเข้ามาตรวจอาการผลคือมือของท่านหมอหลวงสั่นเทา"ขอองค์ไทเฮาโปรดไว้ชีวิตขอองค์ไทเฮาโปรดไว้ชีวิต..."

หมอหลวงคุกเข่าลงบนพื้นและคำนับลงอยู่ข้างๆกงชิงวี่

ตลอดระยะเวลากว่าสี่สิบปีที่หวางฮองไทเฮาอยู่ในวังแห่งนี้มาผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วนแต่ฉากตรงหน้านี้ก็ยังทำให้ตนอดเซก้าวถอยหลังไปอย่างช่วยไม่ได้ที่ภาพด้านหน้าเต็มไปด้วยความวิงเวียน"วี่เอ๋อเจ้าอย่ามาทำให้แม่ตกใจเช่นนี้!”

อันหลิงหยุนลุกขึ้นมาสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เข้าพอดีจากการคาดการณ์ของเธอเวลานี้ฝ่าบาทควรใกล้จะฟื้นขึ้นมาแล้วหากรอจนกระทั่งฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยไปคุกเข่าออกจะดูไม่ค่อยดีอยู่บ้างยังคงดีกว่าที่นางจะไปคุกเข่าอยู่ก่อนจากนั้นฝ่าบาทค่อยฟื้นขึ้นมาแบบนี้นางก็ไม่ต้องคุกเข่านานมากเท่าไหร่

แต่ทันทีที่เพิ่งจะมาถึงที่ด้านนอกประตูตำหนักบรรทมรองอันหลิงหยุนก็เห็นกลุ่มคนที่กำลังล้อมรอบอยู่ที่พื้นในขณะที่หวางฮองไทเฮากำลังยืนเศร้าโศกเสียใจอยู่ที่นั่น

ในขณะที่อันหลิงหยุนกำลังสงสัยฮองเฮาก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง“เสด็จลุงเสด็จลุง...”

เมื่อได้ยินคำว่าเสด็จลุงในใจของอันหลิงหยุนก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีจากนั้นจึงวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจผู้ใดเม่

“กงชิงวี่......กงชิงวี่.......”

อันหลิงหยุนรีบวิ่งไปที่ด้านหน้าจากนั้นจึงยื่นมือออกมาจับลมหายใจ แล้วจึงถอดเสื้อผ้าบนร่างกายของกงชิงวี่ออกทันทีบาดแผลของเขาทั้งหมดล้วนเปิดออกและปกคลุมไปด้วยเลือดที่ไหลนอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน