บทที่26ศักดิ์ศรีสุดท้าย
ตำหนักบรรทมรองข้างพระตำหนักจรุงจิตเงียบลงอีกครั้งอันหลิงหยุนก็รู้สึกเหนื่อยจนต้องนั่งลงมุมหนึ่งตอนนั้นเองกงชิงวี่ฝืนลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากและมองไปยังอันหลิงอยู่ที่กำลังนั่งอยู่ด้านล่างเตียงอย่างไม่เต็มใจและมองดูอันหลิงหยุนนั่งอยู่ใต้เตียงหลังจากนั้นจึงค่อยหลับตาลงและหลับไป
การนอนหลับครั้งนี้ของกงชิงวี่เป็นไปตลอดทั้งคืนอันหลิงหยุนลุกขึ้นมาหลายครั้งเพื่อตรวจดูบาดแผลของเขาแต่เขาล้วนไม่มีการตอบสนองเขามีไข้ขึ้นสองครั้งอันหลิงหยุนเช็ดตัวให้กับเขาแต่เขาก็ยังคงไม่รู้สึกตัว
หลังจากนอนมาทั้งคืนกงชิงวี่ก็ค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆในตอนเช้าตรงหน้าของเขาไม่มีใครอยู่ใบหน้าของเขามืดคล้ำจากนั้นจึงหันหน้าไปมองยังห้องที่ว่างเปล่า
ตอนนี้อันหลิงหยุนกำลังอยู่ที่ประตูและมองดูภายนอกกงชิงวี่มองดูด้วยสีหน้าหมองคล้ำ“เจ้ากำลังทำอะไร?”
น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นอันหลิงหยุนตะลึงนิ่งไปเล็กน้อยมองเห็นคนที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายกลับมามีชีวิตอีกครั้งก็นับว่าโล่งใจ
พอเดินไปถึงด้านหน้าของกงชิงวี่อันหลิงหยุนก็ก้มศีรษะลงและเริ่มตรวจสอบ
เริ่มจากถอดเสื้อผ้าของเขาออกดูก่อนจากนั้นจึงตรวจดูชีพจรของเขา
หลังจากดื่มเลือดของเธอไปไม่น้อยเวลานี้กงชิงวี่จึงเต็มไปด้วยพลัง
“ท่านเพิ่งจะเก็บชีวิตกลับมาได้ที่นี่ยังมียาบำรุงหัวใจอยู่อีกเม็ดหนึ่งท่านเก็บเอาไว้จากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นท่านก็ทานเข้าไปมันจะช่วยปกป้องชีวิตของท่าน”
อันหลิงหยุนนั่งลงท่าทีอ่อนลงละทิ้งความขัดแย้งในอดีต
กงชิงวี่ค่อยผ่อนคลายความรู้สึกขึ้นมาและมองไปที่ประตูตำหนักด้วยสีหน้าสงบ“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าก่อนหน้านี้คิดอะไร....ออกไปข้างนอกไม่ปลอดภัยเจ้าอยู่ที่นี่ก็นับว่าเป็นการลดปัญหาให้กับบิดาของเจ้า”
อันหลิงหยุนรู้สึกขำ“เช่นนั้นข้ายังต้องขอขอบคุณท่านอ๋องอย่างยิ่ง?”
“นี่มันการแสดงออกแบบไหนกัน?”กงชิงวี่ไม่พอใจผู้หญิงคนนี้นับวันเริ่มมีความกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้วข้าไม่ได้แสดงออกอะไรทั้งสิ้น”
อันหลิงหยุนก็เหนื่อยล้าแล้วเช่นกันวิ่งวุ่นไปมาทั้งคืน
หลังจากถอดรองเท้าเสร็จอันหลิงหยุนก็ปีนขึ้นไปด้านบนด้านในยังมีที่เหลือกว้างขวางสถานที่ก็นับว่าใหญ่อย่างยิ่ง
หลังจากขึ้นไปอันหลิงหยุนก็เริ่มถอดเสื้อชั้นนอกออกใบหน้าของกงชิงวี่เย็นชาขึ้นมาครู่หนึ่ง"บังอาจเจ้ากล้าลบหลู่ข้า”
อันหลิงหยุนหัวเราะด้านหนึ่งถอดเสื้ออีกด้านมองดูสีหน้าซีดขาวของกงชิงวี่"ท่านอ๋องโปรดวางใจข้าไม่กล้าทำเช่นนั้นในใจของท่านอ๋องมีผู้ครอบครองข้าก็ไม่บีบคั้นให้ลำบากใจต่างคนต่างอยู่ไปรอจนกระทั่งท่านอ๋องหายดีท่านอ๋องก็ปล่อยข้าไปเสียเถอะ”
หลังจากพูดจบอันหลิงหยุนก็ไปนอนนางดึงผ้าห่มขึ้นมาจากนั้นจึงส่งเสียงออกมาด้วยความสบายเคยฝ่าดงกระสุนตกน้ำลุยไปมานางก็ยังไม่เคยเหนื่อยเท่านี้มาก่อน
ยุคโบราณไม่ใช่สถานที่ที่คนควรมาเลยจริงๆ
เมื่อปิดตาลงอันหลิงหยุนก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับกงชิงวี่ด้วยท่าทางไม่น่าดู
เมื่อเธอขยับมือของกงชิงวี่ก็จับผ้าห่มเอาไว้และเอ่ยด้วยความโกรธ“จงอยู่ให้ห่างจากข้า”
ความง่วงของอันหลิงหยุนถูกขัดจังหวะดวงตาของนางลืมขึ้นท่าทีรำคาญเต็มทน“ท่านเป็นเช่นนี้ต่อให้ข้าข้ายังมิแน่ว่าจะรับไว้เหตุใดจึงต้องทำตัวดัดจริตขนาดนี้กัน?”
แม้ปากจะยังเชือดเฉือนคนแต่อันหลิงหยุนก็ยังคงถอยห่างออกไปให้อยู่ห่างจากกงชิงวี่เป็นระยะช่วงตัวคนจากนั้นนางจึงค่อยๆนอนหลับไป
ใบหน้าที่เงียบสงบองคาพยพทั้งหน้าที่ประณีตสมบูรณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกที่กงชิงวี่ค้นพบว่าผู้หญิงคนนี้มองแล้วกลับไม่ได้ดูน่ารังเกียจ
แต่คราวนี้นางกลับยอมอ่อนข้อเชื่อฟังโดยดี
“เจ้ายังจะมาอีก?”กงชิงวี่ไม่สบอารมณ์นัยน์ตาจ้องมองมือของอันหลิงหยุน
“ยังต้องเปลี่ยนอีกครั้งจากนั้นก็สามารถรอได้จนกระทั่งวันพรุ่งนี้เช้าหากท่านไม่เป็นอะไร”อันหลิงหยุนด้านหนึ่งพูดไปอีกด้านหนึ่งก็ปลดเสื้อผ้าของกงชิงวี่ออกใบหน้าของกงชิงวี่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจากนั้นจึงกันไปมองทางอื่นด้วยความเกลียดชัง
อันหลิงหยุนกลับไม่มีท่าทีตอบสนองคนป่วยเป็นแบบนี้ต่อให้ร่างเปลือยเปล่านางก็ไร้ความรู้สึก
ร่างกายของกงชิงวี่เกร็งแน่นจนกระทั่งอันหลิงหยุนเช็ดทำความสะอาดเสร็จเขาถึงค่อยผ่อนคลายลงมา
อันหลิงหยุนใส่ยาพันแผลเสร็จก็เริ่มรอ
“ท่านพักผ่อนเถอะข้าจะคอยดูหากคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าจะปกป้องท่าน”อันหลิงหยุนเอ่ยด้วยท่าทีเรียบๆนางแค่ต้องการที่จะรู้ว่าคนพวกนั้นยังมีชั้นเชิงอะไรอีก
“ข้าใช้เจ้าปกป้อง?”ในใจของกงชิงวี่ไม่ตึงเครียดเช่นก่อนหน้าอีกต่อไปดวงตาฟีนิกส์ของเขาเปล่งประกายเยียบเย็นเขาไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เอ่ยปากพูด
“เช่นนั้นเป็นท่านที่ปกป้องข้าท่านต้องนอนก่อนเมื่อพักผ่อนเพียงพอแล้วถึงค่อยมีสติมาปกป้องข้าได้”
อันหลิงหยุนพูดขึ้นมาอย่างขอไปทีแต่หลังจากเธอพูดจบและมองดูสีหน้าคนบนเตียงที่กำลังดูแปลกประหลาดเธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาคิดถึงเรื่องที่ชายผู้นี้แทบเกลียดเธอจนแทบทนให้นางตายไปไม่ไหวต่อให้นางอ้อนวอนเขาเขาก็ยังคงมีแต่ความรังเกียจนางรีบแก้ไขคำพูด“ข้าพูดถึงท่านจะต้องป้องกันคนพวกนั้นที่จะเข้ามาเอาชีวิตท่าน”
อันหลิงหยุนหมุนตัวเดินไปการที่นางมาอยู่ในยุคสมัยของราชวงศ์นี้ก็นับว่าซวยมากพออยู่แล้วกลับยังจ้องมาเจอผู้ชายเฮงซวยให้ซวยยิ่งขึ้นไปอีก!
“ข้าไม่มีทางละเลยเจ้า”กงชิงวี่พูดอย่างหงุดหงิดอันหลิงหยุนหันกลับมามองเขาแต่เขากลับหลับตาลงด้วยใบหน้าเย็นชา
อันหลิงหยุนขี้เกียจเกินกว่าจะไปเปิดเผยความคิดของเขาผู้ชายคนนี้ก้าวร้าวและเอาแต่ใจเกินไปนี่คือศักดิ์ศรีเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว
ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้แต่ก็ยังลุกขึ้นมาเอ่ยคำพูดพวกนี้ออกมาได้สำหรับเขาแล้วนับเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...