ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 405

บทที่ 405 การสู่ขอที่มีหลักฐาน

อันหลิงหยุนมองหยุนจิ่นที่คุกเข่าอยู่ อาภรณ์สีแดงสดของดูแล้วช่างงดงาม

หากนางไม่ต้องการแต่งงาน เหตุใดจึงได้สวมชุดงานแต่งก่อนตาย แท้จริงนั้นนางต้องการสวมใส่ให้แก่ผู้ใดดูเล่า?

อันหลิงหยุนกล่าวกับนาง “ลุกขึ้นเถิด พื้นค่อนข้างเย็น เจ้าเองก็เพิ่งจะดีขึ้น”

หยุนจิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ข้ามิอาจแต่งกับเว่ยหลิงชวนเจ้าค่ะ ข้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่มิอาจบอกผู้ใดได้”

อันหลิงหยุนฉายแววครุ่นคิดไปเล็กน้อย“หยุนจิ่น ข้าอยากถามเจ้าเพียงหนึ่งประโยค”

“เจ้านายเชิญถาม”

“คนที่เจ้าชอบ ใช่ท่านอ๋องหรือไม่?”

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ”

หยุนจิ่นหน้าแดงระเรื่อ อันหลิงหยุนมองไปที่หยุนจิ่วก็รู้สึกว่านางมิได้โป้ปด จากนั้นนางก็มิได้ทำให้หยุนจิ่วลำบากใจมากไปกว่านี้

“ลุกขึ้นเถิด ไม่ใช่ท่านอ๋องก็แล้วไป”หยุนจิ่นถึงได้ลุกขึ้น อันหลิงหยุนได้ชี้ไปที่โต๊ะ “กินข้าวกันเถิด”

หยุนจิ่นลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บชุดแต่งงานที่ใส่ไว้อย่างเรียบร้อย และกลับไปร่วมกินข้าวกับอันหลิงหยุนและมู่มิง

“กินให้มากหน่อย ภายหน้าหากมีเรื่องอันใดอย่าเพิ่งคิดสั้น การตายมิอาจแก้ปัญหาได้ทั้งหมด การมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นถึงจะนับว่าเป็นการแก้ไขปัญหา รู้หรือไม่?”

อันหลิงหยุนกินข้าวไปพลางหยิบยกเรื่องของหยุนจิ่นขึ้นมากล่าว หลังจากินข้าวเสร็จก็ให้นางไปจัดการธุระของนาง กังวลว่าจะมีปัญหาถึงได้ให้มู่มิงตามไปด้วย ส่วนนางได้ออกจากจวนอ๋องเสียนเพื่อไปเข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่

ประเดี๋ยวค่อยกล่าว มิใช่ว่านางยังต้องฉีดยาให้แก่องค์หญิงใหญ่อยู่อีกหรือ

องค์หญิงใหญ่กำลังคำนวณถึงสินสอดทองหมั้นที่ต่องใช้ในงานแต่งของหยุนจิ่น

ขณะที่อันหลิงหยุนก้าวเข้าไปก็ได้พบกับกล่องหลายสิบใบ และนักบัญชีหลายสิบคนที่กำลังถือลูกคิด คำนวณสินสอดทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

อันหลิงหยุนไปยืนที่หน้ากล่องใบหนึ่งพลางกวาดตามองไปหนึ่งรอบ ข้างในเต็มไปด้วย เงิน ทอง ไข่มุก และหยก ด้านบนเขียนไว้ว่า กำไรหินโมราหกเส้น

ทางด้านข้างมีหินตาแมวหกสิบเม็ดที่อยู่ในกล่อง มองไปยังที่อื่น ล้วนแต่มีเพชรนิลจินดายู่หลากหลายแบบ

ส่วนกล่องอื่นๆยังของอยู่ข้างในอีกมากมาย จากนั้นอันหลิงหยุนได้เดินอ้อมเข้าไปหาองค์หญิงใหญ่ ส่วนเว่ยหลิงชวนก็ได้ทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ที่หน้าประตู

อันหลิงหยุนหยุดคิดไปครู่หนึ่ง พลันนึกถึงคำที่หยุนโล๋ชวนกล่าวกับตนวันนั้น เพื่อให้การขอร้องนั้นสมบูรณ์ ทำได้เพียงลองวิธีนี้เท่านั้น

อันหลิงหยุนเดินเข้ามาและกล่าวถาม “ใต้เท้า ท่านได้ยินเรื่องในจวนของข้าหรือไม่?”

เว่ยหลิงชวนพยักหน้า “เมื่อเช้าอ๋องเสียนได้แจ้งให้ข้าทราบแล้ว”

“เช่นนั้นท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?”

เว่ยหลิงชวนกล่าวอย่างขมขื่น “ข้าน้อยไม่รู้มาก่อนว่าแม่นางหยุนจิ่นมิได้ยินยอม ทั้งยังกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่เป็นนาน หากข้ารู้ว่าแม่นางหยุนจิ่นไม่ยินยอม จักได้ปฏิเสธการแต่งงานไปเสียแต่ทีแรก ทว่าบัดนี้เป็นเช่นนี้ ถ้าใต้เท้าจงลิ่งไม่รับปากข้าน้อยละก็ เกรงว่าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ”

“ก็ไม่แน่หรอก”อันหลิงหยุนมองไปยังเว่ยหลิงชวน ถึงแม้ว่าทำเช่นนี้ออกจะเกินไป ทว่ากลับเป็นเหตุสุดวิสัย ด้วยว่าไม่มีทางเลือกจึงได้เลือกแผนการที่โง่เขลาเยี่ยงนี้

เว่ยยหลิงชวนกล่าวถาม “พระชายาอ๋องเสียนมีแผนหรือ?”

“จะว่าไป เพียงแค่ไม่รู้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

“เชิญพระชายาอ๋องเสียนกล่าวมาเถิด ขอเพียงได้ช่วยแม่นางหยุนจิ่น ข้าน้อยยอมร่วมมือกับท่าน”

“เชิญใต้เท้าทางด้านนี้”

อันหลิงหยุนก้าวเดินไปยังด้านหน้าก่อน เว่ยหลิงชวนก็เดินตามไป

“ไม่ขอปิดบังโจ่วจงเจิ้น แท้แล้วมีอีกหนึ่งวิธี ที่จะทำให้หยุนจิ่นปลอดภัย เพียงแต่ว่าอาจจะทำให้ใต้เท้านั้นลำบากอยู่หลายส่วน”

“พระชายาเชิญกล่าว”

อันหลิงหยุนลังเลไปชั่วครู่“ตำหนักหยุนกั๋วกงมีคุณหนูอยู่สี่นาง หยุนโล๋ชาย นางโตกว่าชายาอ๋องตวนอยู่หนึ่งปี บัดนี้ตระกูลหยุนอยากที่จะแต่งงานกับท่าน ทว่าองค์หญิงใหญ่ได้ปฏิเสธนางไป พระชายาอ๋องตวนขอร้องข้าให้ช่วยสู่ขอ ข้านั้นมิเคยพบหน้านาง จึงมิได้รับปาก หากเพียงใต้เท้าเห็นด้วย ข้าสามารถที่จะไปช่วยโจ่จงเจิ้งดูได้ ”

เว่ยหลิงชวนพลันกระจ่าง และไม่ลังเล รีบพยักหน้าตอบรับ“ก็ดี ถ้าเช่นนั้นรบกวนพระชายาอ๋องเสียนแล้ว”

“รบกวนอันใดกัน ข้าก็ทำเพื่อหยุนจิ่น กล่าวตรงๆแบบไม่ปิดบัง หยุนจิ่นนางมีคนที่นางชอบอยู่แล้ว มิใช่ว่าใต้เท้าไม่ดี”

แน่นอนว่าฮูหยินแก่หยุนไม่ได้เห็นว่าหน้าตานั้นสำคัญเพียงไร แต่ทว่าครานี้มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่ว่าอย่างไรก็ยังต้องพึ่งพาจวนอ๋องเสียนอยู่

“ฮูหยินแก่ ท่านมิสู้ให้พวกเขาได้พบหน้ากันเสียหน่อย จะสำเร็จหรือไม่นั้น ให้พวกเขาได้เลือกกันเองเถิด”กงชิงวี่กล่าว ฮูหยินแก่ทำได้เพียงอนุญาตไปอย่างนั้น

ออกคำสั่งให้คนไปเชิญหยุนโล๋ชาย นางได้สวมอาภรณ์สีขาว ได้โค้งคำนับผู้คนในห้องตามลำดับ หลังจากนั้นก็เดินไปนั่งด้านข้างของฮูหยินแก่

ฮูหยินแก่กล่าว “ผู้นี้คือใต้เท้าเว่ยโจ่จงเจิ้นแห่งต้าจงเจิ้งย่วน ชายเอ๋อ เจ้ารีบไปคารวะ”

หยุนโล๋ชายเดินไปคารวะ “ข้าหยุนโล๋ชายคารวะใต้เท้าโจ่จงเจิ้น”

“มิกล้า”

ทั้งสองต่างเงยหน้า เว่ยหลิงชวนเหลือบมองเล็กน้อย ดวงตาทั้งสี่ประสานกันและพยักหน้าลงเล็กน้อย

เว่ยหลิงชวนถือว่าเป็นผู้ที่คล่องแคล่ว ทว่าเพียงแค่พลิกตัวไปมาก็ทำให้เหนื่อยแล้ว

มองฮูหยินแก่กั๋วกงและกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “วันนี้ข้ามาสู่ขอ ในเมื่อเจอคนแล้ว ทั้งงยังรู้สึกพึงพอใจ นี่คือสิ่งยืนยันของข้า เชิญคุณหนูสี่น้อมรับ และเชิญฮูหยินแก่โปรดเมตตา ”

แน่นอนว่าฮูหยินแก่ยินยอมเป็นแน่ มองไปยังหลานสาวพลางกล่าว“ชวนเอ๋อ เจ้ายินยอมหรือไม่?”

“หลานว่าตามท่านย่าเห็นสมควรเจ้าค่ะ”หยุนโล๋ชายไหนเลยจะกล้ากล่าวว่านางยินยอม ทว่ากลับดูออกว่านางดีใจเป็นอย่างมาก

ฮูหยินแก่ออกปากทันที และรับสิ่งของยืนยันมา

หลังจากนำป้ายหยกไปแล้ว หยุนโล๋ชายก็ได้โค้งคำนับและขอทูลลา

กงชิงวี่ก็ได้คารวะ และพาเว่ยหลิงชวนกลับออกไป

ระหว่างทางเว่ยหลิงชวนได้ซื้อยาบำรุงอีกมากมาย กลับถึงต้าจงเจิ้งย่วนก็ได้ไปรายงานองค์หญิงใหญ่ กล่าวว่าเขาต้องการชีวิตที่มั่งคง นอกจากนี้ยังมอบป้ายหยกให้แก่พวกเขาด้วย

องค์หญิงใหญ่ดุด่าเว่ยหลิงชวนที่ไม่คิดหน้าคิดหลังไปพักหนึ่ง เรื่องถือว่าเลิกแล้วต่อกันไปแล้วกัน

อันหลิงหยุนหัวหมุนทั้งวัน สุดท้ายแล้วก็สำเร็จไปอีกหนึ่งเรื่อง จึงได้เดินทางกลับจวน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน