ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 411

บทที่ 411 ระหว่างที่ราชครูจุนป่วย

“เจ้าสองคนเข้าวังมาวันนี้ จวนอ๋องตวนกับจวนเฉิงเสี้ยนรู้แล้วหรือ”

“ฝ่าบาท ถึงหม่อมฉันจะแต่งงานกับอ๋องตวน ทว่าเรื่องทุกอย่างยังต้องยึดสถานการณ์โดยรวมเป็นสำคัญ แม่ทัพอันชรามากแล้ว หม่อมฉันเป็นคนรุ่นหลัง จะยอมให้ท่านแม่ทัพแบกหน้าที่นำทัพแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไรเพคะ หม่อมฉันยินดีอาสาเป็นทัพหน้า ติดตามไปออกรบร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านแม่ทัพอันเพคะ”

“เรื่องนี้...” ฮ่องเต้ชิงหยู่มีสีพระพักตร์ลำบากพระทัย

“ฝ่าบาท กระหม่อมก็คิดเช่นเดียวกันพ่ะย่ะค่ะ ทว่าพระชายาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ทั้งยังมีฐานะสูงส่ง เป็นถึงพระยาอ๋องตวน แต่ไปเป็นทัพหน้าออกศึกก็เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะนัก กระหม่อมยินดีอาสาเป็นทัพหน้าเอง ขอฝ่าบาททรงมีบัญชาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

เสินหยุนชูหน้าซีดเผือด นางย่อมไม่หวังให้น้องชายไปออกศึกสงคราม ทว่านางจะให้หยุนโล๋ชวนไปได้อย่างไรกัน

เสินหยุนชูไม่เอ่ยคำใด ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงยิ่งดูลำบากพระทัยขึ้นไปอีก

ในยามนั้นเอง อ๋องตวนก็มาขอเข้าเฝ้าอยู่ที่หน้าตำหนักจรุงจิตพอดี เมื่อฮ่องเต้ชิงหยู่เห็นว่าทัพเสริมของพระองค์มาช่วยแล้ว จึงรีบรับสั่งให้อ๋องตวนเข้ามาในตำหนักทันที

เมื่ออ๋องตวนเข้ามาในตำหนัก เห็นหยุนโล๋ชวนคุกเข่าอยู่กับพื้นก็เข้าไปประสานมือถวายบังคม “ถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้องมากพิธี อ๋องตวน พระชายาหมายจะตามไปร่วมรบออกศึกด้วย เจ้าคงรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง” ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสถาม

“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันทราบ แต่หม่อมฉันไม่เห็นด้วย”

“อ่อ!” ฮ่องเต้ชิงหยู่ทำแสร้งราวไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อน

อ๋องตวนกราบทูล “ทูลฝ่าบาท หากชวนเอ๋อติดตามไปออกรบด้วยแล้วไม่มีอันใดผิดพลาด ก็น่าจะใช้เวลาราวเดือนหนึ่ง หากเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันย่อมต้องตอบตกลงให้นางไปแน่ ทว่าในยามนี้ไม่ได้”

“เพราะเหตุใด” ไม่ต้องรอให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสถาม หยุนโล๋ชวนก็ร้อนรนขึ้นมาก่อนแล้ว

อ๋องตวนเอ่ยตอบ “คืนวันก่อนพี่สี่ของเจ้ากลับมาที่บ้าน เจ้าดื่มกินเสียเมามาย คงพอจะจำได้กระมังว่าตอนตื่นขึ้นมาเป็นเช่นไร”

หยุนโล๋ชวนนึกอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องนั้นมีอันใดน่าจดจำกัน”

พูดจบใบหน้านางก็พลันแดงระเรื่อขึ้นมา

ในตอนนั้นนางตื่นขึ้นด้วยสภาพเปลือยเปล่า ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยจูบ บนร่างของอ๋องตวนก็มีรอยมืออยู่เต็มไปหมด นางเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น เหตุใดทั้งคู่จึงมีร่องรอยไปทั้งตัวเช่นนี้

ครั้นพอนางถามอ๋องตวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาภรณ์ของนางกันแน่ ไหนจะเรื่องร่องรอยพวกนี้อีก ทว่าเขากลับไม่ตอบเอาแต่มองนางอยู่เช่นนั้น

ภายหลังนางจึงแอบไปถามท่านย่ามา ท่านย่าบอกว่าพอนางเมาแล้วต้องทำกิจของสามีภรรยากับอ๋องตวนเป็นแน่

อ๋องตวนถึงค่อยเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท หม่อมฉันกับชวนเอ๋ออยู่ด้วยกันบนเตียงทั้งคืน จากการคาดการณ์ของหม่อมฉัน อีกหนึ่งเดือนให้หลังต้องมีข่าวดีแน่ ไปออกศึกสงครามทีก็เป็นครึ่งปี หม่อมฉันไม่วางใจพ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าเช่นนั้นย่อมไปไม่ได้แน่ หรือต่อให้ไม่ใช่เช่นนั้น นางก็เป็นถึงพระชายาอ๋องตวน ไม่มีเหตุผลอันใดต้องตามไปออกรบ” ได้ยินฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสเช่นนั้น ใจของหยุนโล๋ชวนก็พลันชาวาบไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันจะไปถวายพระพรฮองเฮากับเสด็จแม่ หม่อมฉันทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถิด”

อ๋องตวนก้มลงดึงหยุนโล๋ชวนให้ลุกขึ้นมาด้วย ทว่าสีหน้านางพลันเศร้าสลดลง หากรู้แต่แรกนางคงไม่ดื่มเหล้าแล้ว เมาจนเสียเรื่องแท้ๆ

อ๋องตวนจูงมือหยุนโล๋ชวนออกมาจากตำหนักจรุงจิต พอพ้นประตูจึงได้หันมามองหยุนโล๋ชวนแวบหนึ่ง ด้วยระแวงว่านางจะหนีไปอีก เมื่อถวายพระพรหวางฮองไทเฮาแล้วจึงไปวังฮั๋วหยาง และตั้งใจจะอยู่เสียที่นั่นเลย

เสินหยุนเจ๋เองก็จะติดตามไปออกรบด้วย ฮ่องเต้ชิงหยู่ไตร่ตรองแล้วจึงตรัส “เจ้าไปออกกำลังหน่อยก็ดี เช่นนั้นก็ไปเถิด”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

เสินหยุนเจ๋ลุกขึ้นหันไปมองฮองเฮาเสินหยุนชูครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

เสินหยุนชูรีบร้อนเรียกเขาเอาไว้ “หยุนเจ๋”

เสินหยุนเจ๋หันหลังกลับมาเงยหน้ามองเสินหยุนชู ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฮองเฮาทรงถนอมพระวรกายด้วย”

เขาถอยหลังเดินจากไป

เสินหยุนชูนั่งเหม่อลอย ตั้งแต่เรื่องคราวที่แล้วแดงขึ้นมา พวกเขาสองคนพี่น้องก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย ไม่รู้ว่าเขายอมยกโทษให้นางหรือไม่

ในขณะเดียวนั้นเอง ไทเฮาก็ทรงบรรทมไปแล้ว ทรงไม่ปรารถนาให้ผู้ใดรบกวน

“ไทเฮา ราชครูจุนขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงเอ่ยรายงานเสียงเบาอยู่ข้างพระแท่นบรรทม หวางฮองไทเฮาจึงลืมพระเนตรขึ้น แล้วลุกขึ้นประทับ

ไห่กงกงรีบช่วยพระนางจัดแจงเตรียมตัวอยู่ครู่หนึ่ง หากจู่ๆ พระนางก็พลันตรัสขึ้น “มาจนได้”

หวางฮองไทเฮาเงยหน้ามอง “เหลวไหล ผลลัพธ์นั้นเจ้ารับผิดชอบไหวงั้นหรือ หรือตระกูลจุนทั้งเด็กทั้งคนแก่ก็ต้องร่วมรับผิดชอบไปด้วย เจ้าอยากถูกประหารทั้งชั่วโคตรงั้นหรือ”

“กระหม่อมยินดีมอบชีวิตทั้งชีวิตให้ฝ่าบาทกับประเทศต้าเหลียงพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าตายไปข้าเห็นจะนอนไม่หลับ ประเทศต้าเหลียงยังมีเรื่องให้เจ้าต้องทำอีกมาก เรื่องแม่ทัพจุนก็ยังสรุปไม่ได้ บางทีอาจเป็นแค่แผนของพวกศัตรูก็เป็นได้ เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป แม่ทัพอันต้องกลับมาพร้อมข่าวดีแน่”

“ไทเฮา เกิดเจ้าลูกอกตัญญูนั่นคิดกบฏขึ้นมาจริงๆ ก็คงต้องโทษตายสถานเดียว เพื่อความสงบสุขของประเทศต้าเหลียงเรา”

หวางฮองไทเฮาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าคงลำบากใจ ทว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงทำได้แค่ประหารอย่างลับๆ คนในตระกูลจุนจะได้พอจะหนีเคราะห์ภัยได้พ้น แล้วบอกกับคนภายนอกไปว่าถูกฮ่องเต้ประหาร เท่านี้ก็คงพอจะช่วยตระกูลจุนให้อยู่รอดปลอดภัยได้แล้ว”

“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ในเมื่อเข้าใจแล้ว ก็เข้าวังมาให้น้อยหน่อย ในยามนี้เจ้าควรจะป่วยหนักอยู่ไม่ใช่หรือ” หวางฮองไทเฮาหันไปมองราชครูจุนหยักหน้า

“กระหม่อมรับทราบพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”

“ไปเถิด”

ขณะที่ราชครูกำลังจะเดินจากไปนั้นเอง หวางไทเฮาก็ได้ตรัสขึ้นอีก “ถึงอย่างไรเสีย เขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า ข้าสั่งแม่ทัพอันเอาไว้แล้วให้หาทางช่วยชีวิตเขาไว้ให้ได้ เจ้ากลับไปนอนป่วยอย่างสบายใจเถิด”

ราชครูจุนเดินไปถึงหน้าประตูก็หันหลังกลับมาคุกเข่า “ขอบพระทัยไทเฮา เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถิด”

หวางฮองไทเฮาเองก็ทรงเหนื่อยล้าเต็มที จึงเตรียมจะกลับไปพักผ่อนแล้ว

ราชครูจุนออกจากวังมาในคืนนั้น เช้าวันต่อมาข่าวโรคร้ายก็แพร่สะพัดออกไป

พอเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ในเมืองหลวงก็มีข่าวลือว่าที่ด่านชายแดนเกิดเรื่องด่วนจึงต้องขอความช่วยเหลือมา เหตุเนื่องมาจากจุนเจิ้นตงเสียบุตรสาวไปจึงเศร้าโศกเสียใจมาก เกิดจิตคิดไม่ซื่อ เอาใจออกห่างองค์ฮ่องเต้ ด้วยเหตุนี้ตระกูลจุนจึงต้องพลอยรับกรรมไปด้วย

เดิมทีจวนเฉิงเสี้ยงนั้นเงียบเหงาอ้างว้างนัก ทว่าบัดนี้กลับมีคนมาเยี่ยมเยือนเสียจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง มีคนมาเยี่ยมคารวะถึงหน้าประตูทุกวัน กระทั่งคนที่ในยามปกติอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันในราชสำนักก็ยังมาขอเยี่ยมด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนขวัญกล้าเสนอให้เสินหยุนเอ๋อแต่งเข้าไปเป็นพระชายารองในอ๋องตวนอีกด้วย

“วันนี้ข้าเหนื่อยเต็มที ขอทุกท่านได้โปรดกลับไปก่อนเถิด วันหน้าค่อยมาพบกันใหม่” เสินเฉิงเสี้ยงเริ่มออกปากไล่คน ก่อนจะนั่งลงด้วยความกลัดกลุ้ม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน