บทที่ 446 เริ่มรู้จักเกลียดชังตั้งแต่เด็ก
ฮั๋วไท่เฟยไม่กล้าแม้จะหายใจ ยืนนิ่งจ้องเด็กน้อยอยู่อย่างนั้น
รู้สึกว่าดูๆไปแล้วก็คล้ายอ๋องตวนเหมือนกัน
“ท่านพี่......”
หวางฮองไทเฮาเดินเข้าไปหา นางเองก็อุ้มอยู่คนหนึ่ง : “นี่ก็ท่านย่าเหมือนกัน ทำไมจึงนิ่งเช่นนั้นล่ะ?”
หวางองไทเฮาเพียงแค่ปลอบเด็กน้อยประโยคเดียว คิดไม่ถึงว่าเมื่อเด็กน้อยได้ยินก็มีความสุขขึ้นมา อ้าปากเล็กๆยิ้มออกมา เริ่มที่จะขยับแข้งขยับขา เหมือนว่าดีใจเป็นอย่างมาก รู้จักคนแล้ว!
ทั้งหวางฮองไทเฮาและฮั๋วไท่เฟยล้วนตะลึง หวางฮองไทเฮารู้สึกว่าน่าประหลาดมาก เด้กตัวเล็กแค่นี้เอง
“เด็กคนนี้?” หวางฮองไทเฮาพูด: “ฮั๋วไท่เฟย เจ้าดูนี่สิ?”
ฮั๋วไท่เฟยเข้าไปดู เด็กคนนั้นก็ไม่ร่าเริงแล้ว
หวางฮองไทเฮาพูดว่า: “นี่คือท่านย่าไท่เฟย”
“อาอา......” นี่จึงจะมีความสุขขึ้นมา
หวางฮองไทเฮาไม่อยากจะเชื่อ : “ฝ่าบาท พระองค์ลองอุ้มดูสิเพคะ”
หวางฮองไทเฮายื่นเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่รับเด็กมาอุ้มอย่างระมัดระวัง รู้สึกกังวลเล็กน้อย: “นี่......”
เด็กน้อยยังเป็นเหมือนเดิม หวางฮองไทเฮาพูดว่า: “เขาคือเสด็จลุงใหญ่ของเจ้า”
“อาอา......” แล้วจึงหัวเราะขึ้นมา
“อ๋องตวน” หวางฮองไทเฮาเรียกอ๋องตวนเข้ามา อ๋องตวนเองก็เข้าไปอุ้มด้วย ถึงแม้จะอุ้มไม่เป็น อีกทั้งยังรู้สึกอิจฉาและเกลียดชัง แต่ก็ยังต้องอุ้มอย่างระมัดระวัง
แต่ก็ยังไม่หัวเราะอยู่ดี เอาแต่จ้องมองอ๋องตวน
ฮั๋วไท่เฟยเดินเข้าไป: “แปลกจริงๆ!”
หวางฮองไทเฮาเดินเข้าไป: “นี่คือเสด็จลุงรอง!”
“อาอา......” นี่ก็ยิ้มอีกแล้ว พอหัวเราะก็หัวเราะจนทำให้อ๋องตวนเกือบจะโยนเด็กทิ้ง ดีที่หยุนโล๋ชวนหูตาว่องไว คว้าเด็กมาอุ้มไว้ได้ แล้วจึงหันมองอ๋องตวนอย่างไม่สบอารมณ์นัก
เด็กน้อยจ้องมองหยุนโล๋ชวน แล้วไม่ขยับ
หวางฮองไทเฮาคิดว่าเป็นเพราะตกใจ จึงพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก : “ดุเจ้าสิ หลานชายหัวเราะให้เจ้า เจ้ากลัวอะไรกัน?”
“หม่อมฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเขาดีพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องตวนทำหน้าไร้เดียงสา หยุนโล๋ชวนทนรอไม่ไหวแล้ว อยากที่จะเข้าไปหาหวางฮองไทเฮา
“เสด็จแม่ รู้จักหม่อมฉันด้วยเพคะ”
“นี่คือเสด็จป้ารองของเจ้า”
เมื่อหวางฮองไทเฮาพูด เด็กน้องก็หัวเราะเหอะๆ แล้วจึงยื่นมืออกไปคว้าพู่ที่อยู่บนเสื้อของหยุนโล๋ชวน แล้วจึงเริ่มเล่น
หวางฮองไทเฮาอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เมื่อหันกลับไปก็เห็นฮองเฮาเสินหยุนชูที่ยืนใจลอยอยู่ตั้งแต่ต้น ไม่เดินเข้ามา
“ฮองเฮา เจ้าก็เข้ามาสิ”
“เพคะ” ฮองเฮาเดินไปที่ด้านหน้าของหยุนโล๋ชวน แล้วยื่นมืออกไปเพื่อที่จะอุ้ม แต่หยุนโล๋ชวนทนไม่ได้ จึงอุ้มเด็กเข้าไปแอบอยู่ด้านหลังฮั๋วไท่เฟย
“เสด็จแม่ วันนี้ท่านอ๋องตรัสว่าให้ข้าอุ้มให้มากๆ เพื่อยืมเอาความโชดดี ข้าเองจะได้เกิดหลายๆคนเหมือนกัน” หยุนโล๋ชวนพูดเช่นนั้น ทำให้ฮั๋วไท่เฟยดีใจเป็นอย่างมาก
“เช่นนั้นเจ้าก็อุ้มให้มากๆ” เมื่อฮั๋วไท่เฟยพูดเช่นนั้น หวางฮองไทเฮาจึงไม่อยากพูดอะไรอีก แล้วจึงหันไปมองกงชิงวี่
กงชิงวี่จึงต้องส่งเด็กคนที่อุ้มอยู่ในมือให้เสินหยุนชู
เสินหยุนชูรับเด็กมาอุ้มอย่างระมัดระวัง ใครจะไปรู้ว่าเมื่อถึงมือเสินหยุนชูก็ร้องขึ้นมา บอกว่าจะออกไป
หวางฮองไทเฮาถอดสีหน้าทันที แล้วจึงรู้สึกโมโหขึ้นมา
เสินหยุนชูตกใจ อุ้มเด็กนั่งเขย่าอยู่บนพื้น
ทุกคนล้วนมองนาง อันหลิงหยุนเองก็รู้สึกอับอายเล็กน้อย
“หยุดร้องได้แล้ว!” อันหลิงหยุนเดินเข้าไปดูลูกชาย ลูกชายดึงเสื้อของนางอยากจะออกไป
หวางฮองไทเฮาร้อนใจ จึงส่งคนที่อุ้มอยู่ในมือให้กงชิงวี่แล้วจึงรีบเดินเข้าไปดูหลาน: “นางคือเสด็จป้าใหญ่ของเจ้า เจ้าอย่าร้องไห้เลย!”
“อาอา......” เหมื่อเห็นหวางฮองไทเฮา เด้กน้อยก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น ทำเหมือนกับถูกหยิกอย่างไรอย่างนั้น จ้องมองหวางฮองไทเฮาแล้วร้อง อักทั้งยังยื่นมือออกไปให้อุ้ม เมื่อหวางฮองไทเฮาเห็นท่าไม่ดี จึงรีบอุ้มมา
ระหว่างทางผ่านวังซ่งเต๋อ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็หยุดเดิน อันหลิงหยุนเองก็หยุดเดินเช่นกัน
“ฝ่าบาท!” อันหลิงหยุนถอนสายบัว
ฮ่องเต้ชิงหยู่มองอันหลิงหยุน แต่ก็ไม่ได้ให้นางลุกขึ้น สวีกงกงหันมองซ้ายมองขวา แล้วจึงพูดว่า : “ฝ่าบาท หม่อมฉันจะออกไปก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
พูดว่าออกไปก่อน แต่อันที่จริงแล้วคือออกไปดูว่ามีคนมาหรือไม่ ฮ่องเต้ชิงหยู่มองสวีกงกง แล้วจึงเดินไปหาอันหลิงหยุน แล้วประคองนางขึ้นมาด้วยตัวเอง
“เงยหน้าขึ้นมา ให้ข้าดูหน่อย”
ในใจของอันหลิงหยุนรู้สึกหวั่นไหว ท่านเป็นถึงเสด็จลุงใหญ่ ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?
อันหลิงหยุนค่อยๆเงยหน้าขึ้น แล้วจึงมองดูแววตาที่ดูร้อนรนคู่นั้นของฮ่องเต้ชิงหยู่
ตาทั้งสี่ประสานกัน แล้วฮ่องเต้ชิงหยู่ก็พูดว่า : “เป็นแบบนี้ดีแล้ว ข้าชอบ!”
“......” อันหลิงหยุนรู้สึกสับสน อยากจะจัดการกับความคิดสักครู่ ควรจะพูดอะไรดี
“เรื่องของมู่มิง หม่อมฉันพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่หม่อมฉันเองก็จนใจเพคะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่เอามือไขว้หลัง แล้วมองดูใบหน้าของอันหลิงหยุนที่ยังคงเล็กเหมือนดั่งแต่ก่อน
อันหลิงหยุนถอนหายใจหนึ่งครั้ง: “ในเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ฝ่าบาททรงมองทะลุแล้ว หวังว่าฝ่าบาทจะทรงทำดีกับมู่มิงสักหน่อยนะเพคะ”
“ข้าทำแน่นอน แต่ว่านางไม่ยอมพบหน้าข้า ข้าเองก็จนใจ”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันจะเข้าไปดูนาง ในเมื่อฝ่าบาทจะเสด็จไปหาฮองเฮา เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่รบกสนแล้วเพคะ”
อันหลิงหยุนอยากจะหนีจากฮ่องเต้ชิงหยู่ แต่ฮ่องเต้ชิงหยู่กลับยื่นมือออกมา: “ให้ข้าดูหน่อยสิ”
“......” ดูอาการหรือเพคะ?
อันหลิงหยุนใช้ไหวพริบทันที ยกมือขึ้นมาสแกนอัตโนมัติ ตรวจดูอาการอย่างจริงจัง
ตรวจเสร็จอันหลิงหยุนก็ยิ้ม:ฝ่าบาท พิษของพระองค์รักษาจนหายดีแล้วเพคะ”
“จะว่าไปแล้ว คงเป็นเพราะข้าได้ยาวิเศษ” ฮ่องเต้ชิงหยู่หันหลังเดินจากไป อันหลิงหยุนมองเขาเหมือนคนบ้าแล้วส่ายหน้า แล้วจึงหันหลังเดินเข้าวังซ่งเต๋อ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...