ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 493

บทที่ 493 จวนซื่อหลังทั้งสอง

อันหลิงหยุนหน้าแดงไปทั่วทั้งหน้า พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ ขณะที่ริมฝีปากของกงชิงวี่พลันหยักยกขึ้น พลางฉุดดึงเสื้อผ้าของนางออกแล้วโยนไปยังอีกด้านหนึ่ง "เป็นเพราะข้าดึงเจ้าเข้ามากอด หรือเป็นเพราะเจ้าว่าง่ายอยากเข้ามาเองกันแน่

ข้าไม่ส่งเสบียงน้ำอสุจิก็ผ่อนคลายเส้นสายบ้างไม่ได้เลยหรือ ข้าเป็นอย่างนี้ไปแล้ว คิดจะให้ข้าอัดอั้นใจตายหรืออย่างไร" กงชิงวี่ก้มหน้ามองแก้มป่องแดงระเรื่อบนผิวน้ำของอันหลิงหยุน นางเองก็ใช่ว่าจะไม่เห็น เป็นบุรุษผู้นี้น่าไม่อายนัก กลางวันแสกๆ ยังกล้าพูดเรื่องพรรค์นี้

"ท่าน..."

ยังไม่ทันได้พูดจนจบความ ริมฝีปากนางก็พลันถูกปิดผนึกทันที

อันหลิงหยุนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกงชิงวี่ ทว่าขณะเดียวกันร่างกายนางสพลันอ่อนยวบยาบ ไม่อาจยืนได้มั่นคงนัก ได้แต่ปล่อยให้กงชิงวี่โอบกอดเอาไว้

อันหลิงหยุนถูกดึงลงมาในน้ำก็ทั้งโกรธทั้งกลัว ประเดี๋ยวหันไปดูที่หน้าประตู ประเดีี๋ยวว่ากงชิงวี่หน้าไม่อาย ทว่าในยามนี้กงชิงวี่ไม่ได้คิดจะสนใจนางแต่แรกแล้ว แต่กลับหยอกเย้านางเล่นจนเลยเถิด

"ท่านอ๋องออกไปสองวัน ไม่ใช่ไปตามสืบร่องรอยของ กงชิงเซวียนเหอหรอกหรือ" อันหลิงหยุนฝืนเอ่ยปากถาม

กงชิงวี่ตอบอืมเพียงหนึ่งคำ "ตามอยู่สองวันสองคืน ทำเอาข้าเหนื่อยแทบตายอยู่ข้างนอกนั่น กลับมาถึงบ้านก็ยังนี่ก็ไม่ได้นั่นก็ไม่ได้ ข้าไม่รู้แล้วว่าต้องทำเช่นไร"

"..." ใบหน้าอันหลิงหยุนฉายแววตะลึงงัน นี่มันเป็นคำพูดน่าไม่อายประเภทใดกัน

"เช่นนั้นท่านหากงชิงเซวียนเหอเจอแล้วงั้นหรือ"

กงชิงวี่กลับมาพร้อมกับเลือดท่วมตัว แต่นางกลับเห็นว่าเขาอารมณ์ดีนัก จึงคิดว่าเขาคงหาเจอแล้ว

กงชิงวี่อุ้มนางมาวางไว้ตรงหน้า ให้อันหลิงหยุนเริ่มเข้าหาเขาด้วยตัวเอง ทว่านางกลับไม่ยินยอมพลางทำหน้าบึ้ง ก่อนจะลุกขึ้นตั้งท่าจากไป แต่ก็จนใจที่สุดท้ายยังถูกดึงเอาไว้จนได้

"น้ำเย้นหมดแล้ว รีบหน่อย ข้ายังมีธุระ"

เมื่อได้ยินว่ากงชิงวี่ยังมีธุระต่อ อันหลิงหยุนถึงได้ให้ความร่วมมือ

เมื่อคนทั้งสองกำลังจะแยกกัน กงชิงวี่พลันสีหน้าขรึมขึ้นมาก เมื่อใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วจึงได้บอกอันหลิงหยุนว่ากงชิงเซวียนเหอโดดหน้าผาไปแล้ว และเขาเองเห็นร่างของกงชิงเซวียนเหอแหลกละเอียดคาตา

"เช่นนั้นจะบอกว่า กงชิงเซวียนเหอตายแล้วงั้นหรือ"

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าแปลกนัก เขาจะตายง่ายๆ เช่นนี้น่ะหรือ ไม่เสียแรงที่พวกจงชินวางแผนมาตั้งหลายปีหรือย่างไร

กงชิงวี่มองอันหลิงหยุนแล้วก็จนใจต้องเอ่ยเข้าเรื่องเสียที คนสองคนคนหนึ่งก้มหน้าคนหนึ่งเงยหน้า กงชิงวี่เชยคางอันหลิงหยุนขึ้น ในใจคิดอยากจะปลดเปลื้องอาภรณ์ที่นางเพิ่งสวมใส่เข้าไปเมื่อครู่ออกเสีย ทว่ากลับถูกนางคว้ามือเอาไว้อย่างไม่สบอารมณ์เสียก่อน

"อย่าเหลวไหว เมื่อครู่ก็เพิ่งกินอิ่มไปไม่ใช่หรือ หากท่านยังจะเป็นเช่นนี้อยู่ข้าจะไปแล้ว"

อันหลิงหยุนกระเง้ากระงอด กงชิงวี่จึงดึงนางเข้ามากอดในอ้อมอกอยู่พักหนึ่ง "ข้าก็ไม่ใช่คนดีอะไร ลุ่มหลงในอิสตรีนัก อยู่ต่อหน้าหลิงหยุนทีไรก็เป็นต้องคิดถึงเรื่องหลับนอนขึ้นมา ข้าเองก็จนปัญญา"

"ดูท่าคงเป็นเพราะข้าตามใจท่านจนเสียนิสัยเสียแล้ว" อันหลิงหยุนผละออกจากกงชิงวี่ ก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่อง กงชิงวี่จึงเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่งพลางกอดนางเอาไว้ นางจึงนั่งลงบนต้นขาของเขา เขาถึงได้เริ่มพูดจาดีๆ เสียที

ขณะที่คนทั้งสองเริ่มเบื่อหน่ายอยู่นั้นเอง อันหลิงหยุนถึงได้ฟังกงชิงวี่เล่า "หากตายง่ายๆ เช่นนั้นน่ะสิถึงจะแปลก กงชิงเซวียนเหอกับข้าต่อสู้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอยู่หลายตลบ เขาเองก็ยังไม่แน่ว่าจะแพ้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นมีข้าอยู่เพียงคนเดียว แต่เขากลับหันไปกระโดดหน้าผาเสียอย่างนั้น นี่ยงไม่นับว่าแปลกประหลาดอีกหรือ"

"ไม่ใช่แปลกประหลาด แต่ก็แปลกชอบกลอยู่ แต่หากลองคิดดีๆ แล้วก็มีอยู่สองเหตุผล เหตุผลแรกก็คือกงชิงเซวียนเหอรู้สึกว่าถึงสู้ต่อไปก็ไม่อาจชนะได้ ถึงอย่างไรก็อาจมีคนตามมาช่วยท่านได้ทุกเมื่อ และหากเป็นเช่นนั้นเขาไม่เท่ากับหนีไม่รอดแล้วหรอกหรือ

นอกจากนี้ เขาตั้งใจกระโดดลงไปเพื่อจะหนี และสร้างเรื่องแกล้งตาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเขาไม่ได้หาตัวตายตัวแทน ก็เป็นไปได้ว่าเขาหนีไปจากสถานที่แบบนั้นได้"

กงชิงวี่ยิ้มออกมาครู่หนึี่ง "เขาไม่ได้ตายหรอก ข้ามีความรู้สึกเช่นนั้น เพียงแต่ตอนนี้ข้าหาเขาไม่เจอ จึงทำได้เพียงกลับมาก่อนเท่านั้น"

อันหลิงหยุนเอ่ยถาม "ท่านอ๋องจะเข้าไปดูหรือไม่"

"เป็นแค่ซื่อหลังเล็กๆ แต่กลับละโมบโลภมากถึงเพียงนี้ เห็นข้าเป็นคนโง่หรือย่างไร ดูท่าเงินทำพิธีเซ่นไหว้ทุกปีคงไม่พ้นเป็นเงินเซ่นไหว้ตัวเอง" กงชิงวี่โกรธเสียจนหันหลังเดินหนีไป ทิ้งอันหลิงหยุนไว้แต่เพียงผู้เดียว

อันหลิงหยุนหันมาก็เห็นว่ากงชิงวี่เดินไปไกลแล้ว เขาดูเหมือนจะโกรธด้วยเรื่องนี้มากกระทั่งลืมนางไปแล้ว

อันหลิงหยุนรออยู่ที่เดิม ด้วยอยากจะเห็นนักว่าเขาจะกลับมาเมื่อไรกันแน่ ทว่าจนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่กลับมา

นางจึงหันหลังกลับไปมองอยู่ครู่หนึ่ง กำลังลังเลว่าจะไปที่จวนอ๋องตวนดีหรือไม่

วันนี้หยุนโล๋ชวนวันทั้งวันไม่ค่อยกินอาหารเท่าใดนัก ตอนที่อันหลิงหยุนไปนั้นนางกำลังเหม่อลอยอยู่ในสวน เมื่อเห็นอันหลิงหยุนเข้าก็ลุกขึ้นต้อนรับทันที

"พ่อบ้านไม่ได้มารายงานข้า พี่หญิงพระชายามาได้อย่างไร" หยุนโล๋ชวนสีหน้าดูไม่ดีนักเพราะไม่ได้กินข้าวกินปลาทั้งวัน อันหลิงหยุนจึงตรวจดูอาการนาง

"เจ้ามีเรื่องอะไร ดูสิ ถึงได้ปล่อยให้ท้องว่างเช่นนี้" อันหลิงหยุนปล่อยมือนางลง ก่อนจะเอ่ยถาม ครู่หนึ่งหยุนโล๋ชวนถึงได้คืนสติกลับมา ดวงตาทั้งสองข้างพลันเบิกโพลงขึ้นแล้วเอ่ยลั่นขึ้นด้วยความตกใจ

"พี่หญิงพระชายาอ๋องเสียน แม้แต่ข้าหิวหรือไม่หิวท่านก็ดูออกด้วยหรือ" หยุนโล๋ชวนตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้นมา

อันหลิงหยุนได้แต่อ้าปากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จึงถือโอกาสเอ่ยเข้าเรื่องสำคัญไปเสียเลย "มาหาเจ้าเพราะมีธุระหรอก ไปกับข้าหน่อยเถิด ไปจัดการเรื่องขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงกัน"

"นำทาง!" หยุนโล๋ชวนพลันสีหน้าขรึมลงไปชั่วขณะ หากก็ไม่ได้เอ่ยมากความ หยิบดาบขึ้นมาเตรียมตัวไปจัดการขุนนางกังฉิน

อันหลิงหยุนดึงดาบในมือนางมาโยนทิ้งไป "ไม่จำเป็นหรอก เรื่องลงไม้ลงมือนั้นมีคนทำให้อยู่แล้ว แค่ไปดูกับข้าก็พอแล้ว อีกทั้งข้ายังต้องหาคนมาสืบเรื่องนี้ด้วย เจ้าช่วยหาคนคล่องแคล่วว่องไวไปที่จวนอ๋องเสียนที แล้วนำจดหมายฉบับนี้ให้ถางเหอ ข้ามีเรื่องให้นางทำ"

หยุนโล๋ชวนรับจดหมายนั้นมาดูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกพ่อบ้านมา แล้วมอบหมายให้เขาเป็นผู้ไปส่งจดหมาย อันหลิงหยุนเพียงเห็นวัยชราวิ่งไปจวนอ๋องเสียนก็เป็นห่วงขึ้นมาจับใจ เขาวิ่งจนความดันโลหิตขึ้นแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน