ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 494

บทที่ 494 แม่เฒ่าผู้รับเงินไปแล้วแต่ไม่ยอมพูด

ระหว่างทางอันหลิงหยุนก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคร่าวๆ ให้หยุนโล๋ชวนฟัง นางจึงเอ่ยถาม "เช่นนั้นพี่หญิงพระชายาอ๋องเสียนก็หมายความว่า?"

"เรียกข้าว่าพี่หญิงก็พอแล้ว เติมคำว่าพระชายาอ๋องเสียนแล้วออกจะวุ่นวายนัก ยิ่งกว่านั้นถ้าใครไม่รู้จะคิดว่าข้าเป็นนางสนมในวังไปเสียอีก"

ได้ยินอันหลิงหยุนบอกดังนั้นหยุนโล๋ชวนก็ยินดีนัก "เช่นนั้นเรามาสาบานเป็นพี่น้องกัน ท่านแก่กว่าข้า ท่านเป็นพี่ ข้าเป็นน้อง"

อันหลิงหยุนพลันกลัดกลุ้ม "อ๋องตวนกับอ๋องเสียนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ เจ้ากับข้านับเป็นสะใภ้น้องสะใภ้ เจ้าจะให้ข้าสาบานเป็นพี่น้องกับเจ้า แต่หากจะว่ากันตามหลักแล้ว ข้าเป็นน้องสะใภ้เจ้า เจ้าเป็นพี่สะใภ้ข้า บัดนี้เจ้าจะเรียกข้าว่าพี่ ข้าเรียกเจ้าว่าน้อง นั่นจะไม่วุ่นไปใหญ่หรืออย่างไร

ไม่ต้องสาบานหรอก ไมตรีจิตรระหว่างเจ้ากับข้า ใช้เพียงใจก็พอแล้ว"

"เป็นอย่างที่ท่านว่า เช่นนั้นข้าจะเรียกท่านว่าพี่หญิง"

หยุนโล๋ชวนถามต่อ "เช่นนั้นพี่หญิงหมายความว่าอย่างไร"

"หลี่ปู้ซื่อหลังผู้นี้ยังไม่เคยพบข้ากับเจ้า วันนี้พวกเราไปดูเสียหน่อย เขากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ กล้าปลูกบ้านเรือนเสียใหญ่โตเอิกเกริกเทียมวังหลวงในเมืองหลวง ย่อมต้องมีสาเหตุ เฉาเหวิน ผู้นี้ย่อมต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง รอบๆ ถนนเส้นนี้ยังจวนอื่นๆ อยู่ด้วย มีจวนหลี่ปู้ซ่างซู จวน เสนาบดีกรมพระคลัง ซื่อหลัง และยังมีจวนของขุนนนางน้อยใหญ่อีก หรือเจ้าไม่รู้สึกว่ามันมีปัญหาหรอกหรือ" อันหลิงหยุนถาม หยุนโล๋ชวนมองอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เข้าใจ

"เขาต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ ไม่อย่างนั้นเหตุใดคนรอบข้างเขาถึงได้รวมหัวทำเรื่องชั่วช้า แต่กลับไม่มีใครรายงานเขาสักคน ใครบ้างไม่เคยล่วงเกินผู้อื่น แต่เขากลับขาวสะอาดถึงเพียงนั้น

คนสมัยนี้ไม่ได้มีคุณธรรมน้ำมิตรเหมือนคนในอดีต ในละแวกนี้มีจวนเขาใหญ่โอ่อ่าที่สุด ชวนให้คนอิจฉาตาร้อนนัก แต่เหตุใดถึงไม่มีใครรายงานเขา" หยุนโล๋ชวนยิ่งพูดก็ยิ่งมีโทสะ เจ้าพวกคนสมควรตาย ไม่อยากอยู่แล้วหรืออย่างไร"

อันหลิงหยุนพลันรู้สึกว่าหยุนโล๋ชวนมีคุณสมบติของผู้ที่จะเป็นฮองเฮานัก ส่วนอ๋องตวนนั้นจะมีคุณสมบัติของผู้สืบทอดบัลลังก์หรือไม่นั้น นางเองก็สุดที่จะรู้ได้

แต่ก็หวังว่าฝ่าบาทจะส่งให้กำเนิดโอรสอีกสักหลายคน

"เจ้าพูดถูก แต่ก็ยังมีบางจวนที่อัตคัดขัดสนนัก ยังมีพวกที่ไม่รวมหัวทำเรื่องชั่วช้ากับเขา และพวกที่ไม่อาจรวมหัวกับเขาได้ กว่าครึ่งหนึ่งในนั้นล้วนมีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งสิ้น แต่จวนของผู้อื่นกลับซอมซ่อถึงเพียงนั้น

เมื่อเทียบกันแล้ว จวนของผู้อื่นนับว่ากระจอกซอมซ่อนัก โดยเฉพาะจวนของหลี่ปู้ซ่างซู เจ้าลองดูจวนของหลี่ปู้ซ่างซูว่าดูด้อยกว่าเพียงใด จะดีชั่วอย่างไรผู้อื่นตำแหน่งขุนนางใหญ่โตกว่าเขามากนัก ทั้งยังเข้าสู่วัยชราแล้วด้วย"

"เช่นนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเป็นผู้ใดกัน" หยุนโล๋ชวนเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ

อันหลิงหยุนส่ายหน้า "เรื่องนี้ยังไม่รู้ชัด ต้องถามแล้วถึงจะรู้ ไปเถิด เราเข้าไปถามกันสักหน่อย"

อันหลิงหยุนหันไปพาหยุนโล๋ชวนเดินเตร่เที่ยวเล่น ทว่าทันใดนั้นเองก็เห็นแม่เฒ่าผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าตาสกปรกมอมแมมผู้หนึ่งกำลังนั่งขายหัวไชเท้าอยู่กับพื้นพลางไอไม่หยุด

หัวไชเท้าพวกนั้นดูทั้งขาวทั้งอ่อน ดูสะอาดสะอ้านดีนัก

ทว่าแม่เฒ่ากลับไม่สะอาดเอาเสียเลย

อันหลิงหยุนเดินเขาไปถาม "ท่านผู้เฒ่า อันนี้ใช้ทำอะไรกินได้หรือ"

"อันนี้น่ะหรือ ทำได้หลายอย่างเชียวล่ะ ลูกชิ้น ซุป จะทำกับข้าวก็ยังได้ หรือจะกินทั้งอย่างนี้ก็ได้" แม่เฒ่ายังคงไอไม่หยุด อันหลิงหยุนจึงได้เอ่ยขึ้น "ท่านป่วยหรือ"

"ข้าน่ะหรือ ก็โรคเดิมๆ นั่นแหละ ก็กำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้วไม่ใช่หรือไร พอเริ่มเข้าหน้าหนาวข้าก็เริ่มไอ แต่ไม่เป็นผลกับหัวไชเท้าแม้แต่น้อยแน่นอน ข้าล้างสะอาดหมดแล้ว เจ้าก็เอาไปสักหน่อยสิ"

อันหลิงหยุนเริ่มคลำตามตัว ก่อนจะหยิบเศษเงินออกมาให้แม่เฒ่า "หัวไชเท้าข้าไม่เอาก็แล้วกัน ข้าขอถามอะไรท่านหน่อย ไม่รู้ว่าท่านรู้หรือไม่"

"เรื่องอะไร ยายแก่อย่างข้าได้แต่ขายผักอยู่ที่นี่ ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ ผู้เป็นแม่เฒ่าไม่กล้ารับเงิน

อันหลิงหยุนหันไปมองจวนซื่อหลังนั้นครู่หนึ่ง "บ้านหลังนั้นดีออกเพียงนี้ เป็นบ้านผู้ใดหรือ ข้าเห็นด้านบนเขียนว่าจวนซื่อหลัง เป็นซื่อหลังตระกูลใดหรือ"

"หลังนี้น่ะหรือ แม่นางน้อยเจ้ามาถามได้ถูกคนแล้ว แค่ดูก็รู้ว่าพวกเจ้าเป็นลูกผู้ดีมีตระกูล ในยามปกติไม่ย่างออกจากเรือน จวนซื่อหลังหลังนี้น่ะร้ายกาจนัก"

อันหลิงหยุนเดินไปหาแม่เฒ่าแล้วกุมมือนางไว้ ทำเอานางหวาดกลัวจนตัวสั่น ร้องตะโกนลั่นไม่หยุด

"มีคนจะฆ่าข้า มีคนจะฆ่าข้า!" แม่เฒ่าตื่นตระหนกสุดขีด

หยุนโล๋ชวนเห็นดังนั้นก็พลันเกิดโทสะ รับเงินไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกเรื่องที่รู้ออกมายังไม่พอ ยังคิดจะใส่ร้ายผู้อื่นอีก

อันหลิงหยุนเอ่่ย "เจ้าเป็นโรคปอดบวม เงินแค่นี้จะซื้อยาอะไรได้ อีกทั้งแค่กินยาไม่พอหรอก โรคนี้ต้องกินยาต่อเนื่องเป็นเวลานานถึงจะหาย เอาเช่นนี้เถิด ข้าจะเขียนเทียบยาให้ท่าน ท่านนำเทียบยานี้ไปที่จวนอ๋องเสียน ไปหาท่านหมอจวนโจว บอกเขาว่าอาจารย์ของเขาสั่งมา เขาจะรู้เองว่าเป็นข้าแนะนำให้ท่านไป เขาจะต้มยาให้ท่านดื่ม ต่อไปท่านดื่มวันละครั้ง ดื่มติดต่อกันสามเดือน อาการป่วยของท่านก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว"

"อ๋า?"

สีหน้าแม่เฒ่าตะลึงงัน นางรับเทียบยาที่อันหลิงหยุนลุกขึ้นเขียนให้แม่อย่างตัวสั่นงันงก พลางจ้องอันหลิงหยุนไม่วางตา

หยุนโล๋ชวนทำสีหน้าดูแคลน "คนเช่นเจ้านี่ ไม่ควรช่วยเอาไว้เลยจริงๆ"

แม่เฒ่าหันมามองหยุนดล๋ชวนแปลกๆ ทว่าก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน

"ไปกันเถิด" อันหลิงหยุนจูงมือหยุนโล๋ชวนจากไป ทว่าตลอดทางหยุนโล๋ชวนกลับยังคงไม่เข้าใจ เอาแต่ถามว่าทำไมอยู่เช่นนั้น

อันหลิงหยุนจึงเอ่ยขึ้น "พวกเขาอยู่ในโลกที่ต่ำต้อย เจ้าให้พวกเขาเงยหน้า ยืนคุยกับเจ้าแบบอกผายไหล่ผึ่ง พวกเขาย่อมทำไม่ได้ เพราะพวกเขาเคยชินกับความต่ำต้อยไปเสียแล้ว เหมือนกับพวกนางกำนัลหรือขันทีในวัง เพียงพวกเจ้านายโกรธ ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกเขาหรือไม่ พวกเขาก็ต้องคุกเข่าร้องขาชีวิตไว้ก่อน"

นี่เป็นความเป็นทาส ทาสรับใช้อย่างสมบูรณ์แบบ!"

หยุนโล๋ชวนพลันเกิดความรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา "ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะกลับไปขอโทษนาง"

หยุนโล๋ชวนจึงแยกกับอันหลิงหยุน หันหลังวิ่งกลับไปขอโทษแม่เฒ่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน