ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 530

บทที่ 530 กลับมายังปัจจุบันอีกครั้ง

หวางหวยเต๋อลืมตาขึ้นมาก็ยังคงนิ่งเงียบ อันหลินหยุนก็ถึงกับนับถือ นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะทำตัวไม่สบายขนาดนั้นได้อีก

“กั๋วจิ้วท่านรีบลุกขึ้นมา!”อันหลินหยุนได้ยินว่ามีคนมาทางนี้ ก็กังวลเดินไปยังก๊กกู๋ใหญ่พร้อมกับเอนตัวลงไป

คนอื่นกำลังสกัดกั้นนางเอาไว้ ส่วนนางก็พยุงก๊กกู๋ใหญ่อยู่

หวางหวยเต๋อมองอันหลินหยุนอย่างดูถูก ด้วยความรู้สึกไม่ปรารถนาดีต่ออันหลินหยุน ถ้าไม่ใช่เพราะอันหลินหยุน อ๋องเสียนก็คงจะอภิเษกกับมู่มิง วันนี้คงจะไม่เป็นเช่นนี้

อันหลินหยุนสำหรับหวางหวยเต๋อแล้วถึงแม้จะเกลียดไม่ถึงขั้นเอาชีวิต แต่กลับปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี

ประตูห้องขังถูกกระแทกอย่างแรง จนหัวใจของเว่ยหลิงชวนกับเวยฉือแทบจะกระเด็นออกมา ทั้งสองทำสีหน้าที่ตื่นตระหนก

อันหลินหยุนมองมาจากด้านหลังด้วยความดูถูก ที่แท้ชายหนุ่มร่างใหญ่ก็ตัวสั่นด้วยความกลัวไม่แพ้กัน

พลันหันมามองการเหยียดหยามของก๊กกู๋ใหญ่ ก็ราวกับว่านักฆ่าที่มาวันนี้เป็นคนของเขาเสียอย่างนั้น แล้วอยากจะฆ่าทั้งสามคน

อันหลินหยุนมองดูประตูห้องขังที่ถูกกระแทกอย่างหนัก เสียงกระแทกดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าผ่าลงมาก็ไม่ปาน

ทั้งสี่ก็เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันไป และทันทีที่ประตูห้องขังเปิดออก กลุ่มคนก็วิ่งเข้ามา

อันหลินหยุนเมื่อได้เห็นมีดในมือของอีกฝ่ายก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นใคร :“พี่น้องทุกท่าน ทุกคนโปรดระวังตัว”

มีดประเภทนี้ อันหลินหยุนเคยเจอมานับไม่ถ้วนแล้ว

ก๊กกู๋ใหญ่ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็หมองลง พร้อมกับมองไปยังกลุ่มคนตรงหน้าพลางตะโกนอย่างเรียบเฉย :“แผ่นดินของจักรพรรดิ จะให้นิ่งดูดายได้อย่างไร!”

อันหลินหยุนมองไปยังก๊กกู๋ใหญ่ นี่มันเวลาไหนกันแล้ว ยังจะมาวางท่าอีก ท่านไม่อยากจะมีชีวิตแล้ว แต่พวกเรายังอยากมีชีวิตรอด

ฝั่งตรงข้ามไม่สนใจในตัวก๊กกู๋ใหญ่ ทันทีที่เข้ามาก็พุ่งตรงไปยังอันหลินหยุน เวลานี้อันหลินหยุนถึงได้เพิ่งเข้าใจว่าคนพวกนี้ต้องการที่จะฆ่านาง

“พวกเจ้ารีบไป”อันหลินหยุนผลักก๊กกู๋ใหญ่ออก พลางหยิบเข็มเงินออกมา เตรียมต่อสู้กับศัตรู

หวางหวยเต๋อตะโกนด้วยความโกรธ :“ข้าเป็นคนรักตัวกลัวตาย”

หวางหวยเต๋อหันหลังกลับไปต่อสู้กับพวกที่เพิ่งเข้ามา ส่วนชายอีกสองคนก็จัดการกับคนเหล่านั้นเช่นกัน แต่ฝั่งตรงข้ามนั้นกำมีด และยังเป็นคนที่ฆ่าได้อย่างไม่ปราณี พวกเขาล้วนเป็นคนที่ได้รับการฝึกมาแล้วทั้งนั้น เว่ยหลิงชวนและเวยฉือจึงไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ ส่วนก๊กกู๋ใหญ่ก็ยังถือว่าพอรับมือได้

เว่ยหลิงชวนและเวยฉือต่างก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งสองคนล้มลง อันหลินหยุนก็รีบวิ่งเข้าไปดู เว่ยหลิงชวนกลับผลักอันหลินหยุน:

“เจ้ารีบไปเถอะ ออกไปทางประตู ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!”

อันหลินหยุนส่ายหน้า :“เจ้าอย่าพูดเหลวไหล เจ้าจะปกป้องข้าทั้งที่เจ้ายังเอาตัวไม่รอดอย่างนี้งั้นรึ หุบปากเสีย”

อันหลินหยุนพูดด้วยความจำเป็น เว่ยหลิงชวนถึงได้สงบปากลง ตอนนี้ร่างกายของเขาเจ็บปวดไปหมด และยังไม่มีกำลังอีกแล้วด้วย

อันหลินหยุนหันหลังกลับไปดูก๊กกู๋ใหญ่ ก๊กกู๋ใหญ่เพียงคนเดียวกลับถูกล้อมไว้ด้วยคนถึงสี่คน อันหลินหยุนจึงลุกขึ้นหวังจะเข้าไปช่วยเหลือ แล้วมีดเล่มหนึ่งก็บินพุ่งเข้ามาจากด้านนอกตรงไปยัง ก๊กกู๋ใหญ่ อันหลินหยุนไม่ทันได้คิดอะไร ก็กระโดดเข้าไป

เสียง “ชืบ” ดังขึ้น มีดแทงเข้าไปตรงท้องของอันหลินหยุน ก๊กกู๋ใหญ่หันหลังกลับมาก็ไม่ทันเสียแล้ว

“อันหลินหยุน ”ก๊กกู๋ใหญ่อุ้มอันหลินหยุนเอาไว้ อันหลินหยุนเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ไหวแล้ว นางมองไปยังก๊กกู๋ใหญ่เพียงพริบตาเดียว นางก็สลบลงไป

ก๊กกู๋ใหญ่เต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอันหลินหยุนจะยอมโดนแทงเพื่อเขา

มีดเล่มเมื่อสักครู่นี้ก๊กกู๋ใหญ่รู้ดีว่าเขาไม่มีทางหลบได้แน่นอน แต่เขาเป็นคนที่อายุราวหกสิบปีแล้ว ตายไปก็ไม่ได้เป็นปัญหาใด

แต่พอเห็นอันหลินหยุนที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องตายแต่ก็ยังจะเข้ามาอีก ในใจของก๊กกู๋ใหญ่ก็เกิดความเกลียดชังขึ้นมาทันที!

“ชวนเอ๋อ……”

ทันทีที่พูด ร่างของอ๋องชินจงก็ร่วงลงไปกองบนพื้น โดยไม่มีการตอบสนองใดๆ

ก๊กกู๋ใหญ่ถอดหน้ากากออก สุดท้ายก็คืออ๋องชินจง

กงชิงวี่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่ตัวปลอม จึงเอื้อมมือเข้าไปลูบ จนแน่ใจว่าไม่ใช่การปลอมตัวแน่นอน ถึงได้หันตัวไปมองดู อันหลินหยุน

กงชิงวี่ชันเข่าลงไปยังอันหลินหยุน แล้วอุ้มตัวอันหลินหยุนออกไป

เมื่อมาถึงรถม้ากงชิงวี่ก็ค่อยๆดึงเอามีดที่อยู่บนท้องของอันหลินหยุนออกมา เขาโอบกอดร่างของอันหลินหยุนที่ชุ่มไปด้วยเลือดอย่างเจ็บปวด

เขาเกลียดเหตุการณ์ที่เป็นอย่างนี้ ทุกครั้งล้วนเป็นแบบนี้ เขากลัวว่าจะมีครั้งหนึ่งที่อันหลินหยุนจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก

อาหยู่วิ่งออกมาจากคุกหลวง เขาไม่สนใจอันใดทั้งสิ้นแล้วเปิดผ้าม่านออกเข้าไปดู เขาอยากมั่นใจว่าพระชายาไม่ได้เป็นอะไร

แต่สุดท้ายกลับเห็นว่าทั้งรถม้าเต็มไปด้วยเลือด อาหยู่ตกใจหนัก:“พระชายา”

“ออกไป”กงชิงวี่พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็นจนเข้ากระดูก อาหยู่จึงรีบวางผ้าม่านรถม้าลง แล้วยืนอยู่ข้างๆด้วยความนิ่งอึ้ง

ถางเหอก็รีบเข้ามา เมื่อเห็นสถานการณ์ก็ถึงกับตกใจ แต่ด้วยเหตุที่มีสิ่งอื่นที่ต้องจัดการ เขาจึงไม่สามารถดูแลจัดการเรื่องนี้ได้ ถางเหอจึงรีบเข้าไปดูแลเรื่องของคุกหลวงแทน

อันหลินหยุนหลับไปครั้งนี้ก็ได้กลับมายังยุคปัจจุบันอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินของโรงพยาบาล อันหลินหยุนก็รู้สึกประหลาดใจ

ลืมตาอยู่นานถึงได้ค่อยจับผิดจับถูกได้ว่า ตัวเองได้ย้อนเวลากลับมาแล้ว ตอนนี้จึงคิดหาสถานที่ที่หนึ่งแล้วทำให้ตัวเองตายแล้วกลับไปหากงชิงวี่,เลี่ยงความกังวลของกงชิงวี่ ก็สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับซูมู่หรงได้อีกด้วย

แต่แล้วพอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นซูมู่หรงที่ถูกเข็นออกมาจากภายในห้อง เพียงแต่ครั้งนี้เขายังถูกมัดติดกับรถเข็นด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน