บทที่ 531 ซูมู่หรงกำลังแสดงละคร
อันหลิงหยุนตกใจอย่างมาก ซูมู่หรงเองก็ดูจะไม่ค่อยมีสติสักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะได้รับความทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ พิงอยู่ตรงนั้นอย่างไร้ชีวิตชีวา
อันหลิงหยุนสังเกตดูอย่างละเอียด ก็พบว่าอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช ตัวเธอเองยังสวมใส่ชุดกาวน์สีขาวอีกด้วย
ในตอนนั้นเอง อันหลิงหยุนมองไปรอบๆห้องผู้ป่วยอย่างยากที่จะยอมรับได้ และแน่ใจว่าตัวเธอเองอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชจริงๆ
“......” หมอเข็นซูมู่หรงออกไปจากอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนหันตัวหลบ แล้วหันไปเผชิญหน้ากับคนไข้คนอื่นๆที่อยู่ในห้อง แล้วทำท่าทางเหมือนกำลังจะเข้าไปดู หมอสองสามคนที่เดินผ่านทางเดินมาทำเพียงแค่หันไปมองอันหลิงหยุน แล้วถามอันหลิงหยุนว่าเพิ่งจะมาใหม่หรือไม่
“ฉันเพิ่งจะมาฝึกงานที่นี่ จึงยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่” อันหลิงหยุนหันตัวกลับมา แล้วตั้งใจพูดด้วยสีหน้าที่ดูเก้อเขิน
มีหมอหนึ่งในนั้นพูดปลอบอันหลิงหยุนว่า: “เดี๋ยวก็ชินเอง ต้องที่ฉันมาใหม่ๆก็ไม่ชิน แล้วเธอดูฉันตอนนี้สิ ไม่ใช่ว่ายังดีอยู่หรือ?”
“.....จริงสิ! เขาเป็นอะไร?” อันหลิงหยุนหันมองซูมู่หรง ซูมู่หรงค่อยๆมีปฏิกิริยาตอบสนองเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมองอันหลิงหยุน แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น
“เขาเป็นพวกบ้าทดลอง เขาต้องการที่จะข้ามมิติ สมองจึงเกิดความสับสนไปหมดแล้ว พวกเรารับผิดชอบการรักษาให้แก่เขา”
คนที่พูดเมื่อพูดจบก็เดินไป อันหลิงหยุนหันไปมองซูมู่หรงที่ถูกเข็นไป มือของซูมู่หรงห้อยลงมานอกรถวีลแชร์ ตัวของเขาถูกมัดเอาไว้เหมือนกับขนมบะจ่างก็ไม่ปาน มีเพียงแค่มือข้างนั้นเท่านั้นที่ขยับได้
อันหลิงหยุนเพ่งมองที่มือของซูมู่หรง 206?
อันหลิงหยุนหันกลับไปตามหาห้อง 206 กลับพบว่าจริงๆแล้วชั้นนี้ไม่มีห้อง 206 เธอลองไปหาที่อื่นดู จนกระทั่งตอนค่ำจึงหาพบ
ห้อง 206 อยู่ที่ชั้นใต้ดิน โรงพยาบาลมีชั้นใต้ดินอยู่ด้วย ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
อันหลิงหยุนแอบเข้าไปยังชั้นใต้ดิน พบว่าที่ทางเข้าชั้นใต้ดินยังมีคนยืนเฝ้ายามอยู่ 2 คนอีกด้วย แต่ตรงทางเข้าก็มีคนเดินเข้าออก อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังเข็นคนมาที่ชั้นใต้ดินอีก?
อันหลิงหยุนมองไปรอบๆ คนเหล่านั้นต่างสวมใส่ชุดป้องกัน ตัวเธอเองก็จะต้องหาชุดป้องกันมาสวมใส่เช่นกัน
อันหลิงหยุนเจอห้องเก็บของห้องหนึ่ง เธอยืนรออยู่ที่ด้านหน้าห้องเก็บของสักพัก เมื่อเห็นมีคนเดินมา อันหลิงหยุนก็รัดคนๆนั้นจากทางด้านหลัง แล้วออกแรงตีจนอีกฝ่ายสลบไป
เมื่ออีกฝ่ายหมดสติแล้ว อันหลิงหยุนจึงเปลี่ยนไปใส่ชุดป้องกันแทน ปลอมตัวเป็นอีกฝ่ายแล้วมุ่งหน้าไปยังทางเข้าชั้นใต้ดิน
เมื่อเดินไปถึงตรงนั้น อีกฝ่ายก็นำเครื่องสแกนมาสแกนอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนผ่านการสแกนจึงสามารถเข้าไปได้
อันหลิงหยุนลงลิฟต์ไปจนถึงชั้นใต้ดินชั้นที่ 3 อันหลิงหยุนไม่รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อย ด้านล่างจะต้องไม่ใช่ลานจอดรถธรรมดาๆอย่างแน่นอน แต่เป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย
เมื่อลิฟต์เปิดออก อันหลิงหยุนก็เข็นรถเข็นออกไป ภายในรถเข็นบรรจุอะไรไว้ อันหลิงหยุนเองก็ไม่ค่อยแน่ชัดนัก เพราะว่าด้านในนั้นเป็นกล่องทั้งหมด อีกทั้งยังหนักอีกด้วย เวลาผลักกล่องก็จะต้องออกแรงค่อนข้างมาก
เมื่อออกมาจากลิฟต์ เบื้องหน้าก็เป็นพื้นที่โล่งว่างเปล่า แต่มีคนกำลังยืนรออยู่ด้านหน้า อันหลิงหยุนเดินไปตรงนั้น แล้วจอดรถเข็น แสร้งทำท่าทีทุกอย่างให้เหมือนปกติ จะต้องวางกล่องลงตรงไหนถึงจะดี
แต่ตอนนี้เอง มีคนใส่ชุดป้องกันเดินออกมาพอดี เขาเดินเข้าไปหาอันหลิงหยุนแล้วส่งสัญญาณมือเพื่อบอกอันหลิงหยุนว่าไมต้องเข้ามาอีก
ตรงนั้นที่มีคนนอนตายอยู่อย่างอนาถก็เป็นผลงานของพวกเขา
อันหลิงหยุนคิดไม่ถึงเลยว่าด้านล่างของโรงพยาบาลจิตเวชจะมีงานแบบนี้อยู่ จึงตรงเข้าไปยิงคนที่กำลังถือมีดผ่าตัดเพื่อเตรียมที่จะผ่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่คนหนึ่งจนตาย
คนที่ถือมีดผ่าตัดผงะไปชั่วครู่ แล้วก็ล้มลงไปกองอยู่กับพื้น คนอื่นๆหันมามองอันหลิงหยุน เมื่อเห็นท่าทีดุร้ายของอันหลิงหยุนที่ตรงเข้ามาเพื่อที่จะฆ่าพวกเขา ต่างก็รีบหนี ฝีมือยิงปืนของอันหลิงหยุนนั้นไม่ธรรมดา จึงไม่ปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว ทุกคนตายหมด
อันหลิงหยุนหันไปมองคนสองสามคนที่วิ่งตรงเข้ามา คนเหล่านี้จับจ้องมาที่อันหลิงหยุน ตอนนี้พวกเขาแต่ละคนรู้สึกโกรธแค้นอันหลิงหยุนเป็นอย่างมาก อวัยวะภายในของคนเหล่านี้จะต้องส่งไปยังสถานที่พิเศษ เพื่อมอบให้กับเหล่าบรรดาผู้ซื้อรายใหญ่ขากต่างประเทศ มีมูลค่าที่สูงมาก คิดไม่ถึงว่าจะถูกอันหลิงหยุนทำลาย ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกโกรธอย่างแน่นอน
อันหลิงหยุนถูกล้อมเอาไว้ ในกระบอกปืนไม่มีลูกกระสุนแล้ว
คนเหล่านั้นหันมองหน้ากัน แล้วตัดสินใจว่าจะเอาอวัยวะภายในของอันหลิงหยุนออกมา เพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน
ขณะที่คนเหล่านั้นตรงเข้าไปหาอันหลิงหยุน ก็มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก ในมือถือปืนกลแล้วตะโกนว่า: “คุกเข่าลง!”
อันหลิงหยุนรีบมุดลงไปใต้โต๊ะ เพื่อที่จะป้องกันตนเอง อันหลิงหยุนนำร่างของหมอสองคนมาวางไว้บนตัว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ต้องตายเพราะปืนของซูมู่หรง
หลังจากเสียงสาดกระสุนจบลง รอบๆก็ว่างเปล่าทันที อันหลิงหยุนรออยู่สักพัก ก็มีคนคนหนึ่งเดินมาข้างๆเธอ แล้วเตะศพที่ทับอยู่บนร่างกายของเธอออก ตอนนี้เอง อันหลิงหยุนจึงได้เงยขึ้นไปมองคนที่เดินเข้ามาหาเธอ
เขาสวมใส่ชุดลายพราง สะพายปืนกลเอาไว้บนไหล่ ถ้าไม่ใช่ซูมู่หรงแล้วจะเป็นใคร?
“หัวหน้า!” อันหลิงหยุนทำตัวไม่ถูก เธอรู้ว่าซูมู่หรงนั้นแสดงละคร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...