บทที่ 532 กำจัดอ๋องชินจง
ชีวิตคนก็เหมือนละคร ละครก็เหมือนชีวิตคน คำพูดนี้ไม่ได้หลอกจริงๆ
อันหลิงหยุนไม่อยากเจอซูมู่หรง แต่ก็ต้องมาเจอซูมู่หรงจนได้
ซูมู่หรงโน้มตัวลงมาดึงอันหลิงหยุนให้ลุกขึ้น แล้วถามอันหลิงหยุนว่า: “ทำไมเธอถึงได้กลับมาอีก เป็นเพราะอาลัยอาวรณ์ฉันใช่หรือเปล่า?”
อัรหลิงหยุนรู้ทันทีว่า เพื่อผู้ชายรู้สึกมีอารมณ์ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทัดทานไหว ตัวอย่างเช่นซูมู่หรง ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าซูมู่หรงเป็นคนแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองเขาเช่นไรก็รู้สึกว่าเขาเป็นพวกบ้ากาม
เมื่อก่อนซูมู่หรงเป็นพวกเย็นชา หาตาไม่รับแขก แต่ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
อันหลิงหยุนถึงขนาดรู้สึกว่า นี่คือตัวปลอม
แต่ต่อให้ซูมู่หรงจะกลายเป็นเถ้าธุลี เธอก็จำได้
“เกิดเรื่องนิดหน่อย ถูกคนทำร้าย น่าจะหมดสติไปจึงได้มาอยู่ที่นี่” อันหลิงหยุนยิ้มแบบเก้อเขิน เธอเกือบจะพูดกับซูมู่หรงแล้วว่า จริงๆแล้วเธอรับรู้ได้ว่าซูมู่หรงกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงได้มาที่นี่
อันหลิงหยุนสรุปนึกสรุปเหตุการณ์ดูสักครู่ โดยปกติแล้วเวลาที่ซูมู่หรงเกิดเรื่อง ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เธอก็จะข้ามเวลามาพบกันเสมอ เพื่อที่จะช่วยซูมู่หรง
วันนี้ก็เป็นเหมือนเดิมอีก
อันหลิงหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่เคยบอกเอาไว้ว่าจะไม่กลับมาอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็มา
ทำให้รู้สึกอายเป็นอย่างมาก ทำไมการบอกลาในครั้งก่อนกลับกลายมาเป็นการพบกันใหม่ไปได้ นี่มันเพิ่งจะผ่านมาไม่นานนี่เอง
ซูมู่หรงหยิบกุญแจมือออกมาจากตัว แล้วล็อกอันหลิงหยุนเอาไว้ ทำให้อันหลิงหยุนงงเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“หัวหน้า นี่คุณทำอะไรของคุณ?” อันหลิงหยุนดึงมือ พยายามที่จะถอดกุญแจมือออก ซูมู่หรงยิ้ม แล้วก้มหน้าลงไปหอมแก้มอันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนตกใจมาก เงยหน้าขึ้นจ้องมองซูมู่หรง เหมือนกำลังมองดูสัตว์ประหลาดก็ไม่ปาน
“หัวหน้า คุณทำอะไรของคุณ?”
“ฉันต้องการเธอ!” ซูมู่หรงยิ้มอย่างสดใส อันหลิงหยุนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก รู้สึกอยู่เสมอว่าตนเองกำลังทำเรื่องที่น่าอับอาย อีกทั้งครั้งนี้อันหลิงหยุนยังแอบมีความรู้สึกแปลกๆว่า การจะจากไปครั้งนี้คงจะต้องลำบากเล็กน้อย
“หัวหน้า หรือว่าคุณจะสติไม่ดีเสียแล้ว เพราะจริงๆแล้วที่นี่ก้คือโรงพยาบาลจิตเวช” อันหลิงหยุนยังคงพยายามดึงมือให้หลุดออกจากกุญแจมือ
เธอเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกมาโดยเฉพาะ การสะเดาะกุญแจมือแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา แต่อันหลิงหยุนรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ซูมู่หรงดึงเอาไว้ แล้วก็พาอันหลิงหยุนเดินตรวจสอบดูเหตุการณ์โดยรอบ
อันหลิงหยุนดึงไม่ออกจึงเลิกดึง แล้วจึงได้ถามซูมู่หรงว่า: “หัวหน้า ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลจิตเวชหรอกหรือ ทำไมถึงได้กลายเป็นที่ขโมยอวัยวะมนุษย์ใต้ดินไปได้”
“ที่นี่เดิมทีเป็นโรงพยาบาลจิตเวชจริงๆ แต่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผู้อำนวยการจึงได้นำผู้ป่วยทางจิตที่กำลังใกล้จะตายของที่นี่ มาบริจาคอวัยวะ ตอนเริ่มแรกก็ไม่มีอะไร เค้าใช้ก็เพียงแค่คนที่ใกล้จะตายเพียงคนสองคน แต่ในภายหลังเขายิ่งเกิดความโลภขึ้น จึงเริ่มใช้ผู้ป่วยทางจิตของที่นี่เป็นหนทางในการทำเงินให้แก่เขา
สามปีมานี้ได้มีการขายอวัยวะของมนุษย์ออกไปจำนวนไม่น้อย ก่อนหน้านี้ เบื้องบนให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก บอกว่าการลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์ของประเทศเรามีแนวโน้มที่สูงขึ้น
ฉันเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ จึงได้มาที่นี่”
อันหลิงหยุนฟังจบก็รู้สึกไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเรื่องอันตรายอะไร แล้วทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้?
แต่พวกลักลอบค้าอวัยวะมนุษย์พวกนี้ ทำให้คนรู้สึกเกลียดแค้น แม่ตายก็ไม่น่าเสียดาย
ไม่นานก็มีคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอก เดิมทีอันหลิงหยุนเตรียมที่จะหลบ แต่ถูกซูมู่หรงดึงไว้ มือของเธอยังถูกกุญแจมือล็อกอยู่ จึงถูกซูมู่หรงลากให้เดินออกไปด้านนอก
“กลัวว่าเธอจะหนีไปนะสิ ตอนนี้นอกเสียจากเธอจะฆ่าตัวตาย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางหนีไปได้ ในเมื่อเธอตายไม่ได้ เธอก็จะต้องอยู่ต่อ ดังนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ยอมให้เธอตาย”
“หัวหน้า คุณทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ โตขนาดนี้แล้ว ทำไมพูดอะไรฟังดูไม่เห็นจะเข้าใจเลย”
“เธอไม่ต้องเข้าใจ สมองแบบเธอเคยเข้าใจฉันเมื่อไหร่กัน?” ซูมู่หรงกินข้าวของเขา ไม่ว่าอันหลิงหยุนจะพูดอะไรเขาก็ไม่สนใจ แต่กลับพูดแต่เรื่องของเขา เมื่ออันหลิงหยุนฟังจึงได้รู้ว่า ที่เธอจากไปเมื่อคราวก่อนจนถึงตอนนี้ เกือบจะหนึ่งปีแล้ว อีกทั้งหนึ่งปีที่ผ่านมาก็ผ่านเรื่องราวมากมายอีกด้วย เขาก่อตั้งทีมวิจัยเล็กๆของตนเองขึ้นมา ถึงขนาดกำลังวิจัยเรื่องการเดินทางข้ามเวลาของมนุษย์
อันหลิงหยุนฟังจนมึนงง: “หัวหน้า ถึงแม้ฉันจะข้ามเวลามา แต่เรื่องนี้คุณจะเอาไปบอกคนอื่นไม่ได้นะ ถ้าทำแบบนี้......คนอื่นจะว่าคุณบ้า!”
ซูมู่หรงรู้สึกขำ หยิบกะละมัง ยาสีฟัน แปรงสีฟันและผ้าขนหนู ถอดเสื้อผ้าท่อนบนออกแล้วไปอาบน้ำ
อันหลิงหยุนเห็นว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงไม่พูดอะไรต่อ
เมื่อซูมู่หรงปลีกตัวออกไป อันหลิงหยุนก็เริ่มคิดหาวิธีการที่จะลองสะเดาะกุญแจมือออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เธอยิ่งทำยิ่งแน่น มือก็ยิ่งเจ็บ อันหลิงหยุนจึงเลิกดิ้นรน
รอจนซูมู่หรงกลับมา อันหลิงหยุนก็หลับไปเสียแล้ว
เมื่อเห็นเธอนอนอยู่บนเตียง ซูมู่หรงก็รู้สึกสับสน ตอนนี้คนทั้งโลกต่างคิดว่าเขาบ้า แต่เขาไม่ได้บ้า เขารู้ว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น
อันหลิงหยุนหลับไม่ตื่นหนึ่งวัน กงชิงวี่อุ้มอันหลิงหยุนกลับจวนอ๋องเสียน เพื่อเลี่ยงไม่ให้กระทบต่อการพักผ่อนของเด็กๆ กงชิงวี่อยู่ดูแลอันหลิงหยุนอยู่ที่ลานโอวหลาน และในขณะเดียวกันกุ๊กกู๋ใหญ่ก็ถูกบังคับให้อยู่ในต้าจงเจิ้งย่วน
ในคุกเกิดเรื่อง ก็คงจะเสี่ยงต่อไปไม่ได้ แต่กุ๊กู๋ใหญ่ก็ไม่อาจปล่อยไปได้ จึงจำต้องส่งไปที่ต้าจงเจิ้งย่วนดีที่สุด
กงชิงวี่หายใจไม่ทั่วท้อง อันหลิงหยุนเป็นแบบนี้ก็เพราะอ๋องชินจง กงชิงวี่สั่งให้นำศพของอ๋องชินจงแขวนไว้บนกำแพงเมือง ต่อให้เขาตายก็ไม่ได้ตายอย่างสงบ
เมื่อหยุนโล๋ชวนรู้เรื่องนี้ ก็รีบออกจากจวนอ๋องตวนแล้วรีบไปดู! แล้วก็เป็นลมไปโดยไม่ทันได้คาดคิด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...