ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 556

บทที่ 556 กองทัพบุกประชิดพรมแดน

อันหลิงหยุนตกใจ ตัวสั่น

กงชิงวี่กำหมัดแน่น “ข้าเกิดเป็นชายชาตรี แต่กลับต้องส่งหญิงสาวของประเทศต้าเหลียงออกไป ให้กับคนป่าเถื่อน

แม้บุรุษในประเทศต้าเหลียงจะตายจนไม่เหลือแล้ว ก็ไม่ยอมส่งหญิงสาวออกไปเด็ดขาด ข้าตายได้ แต่ไม่ยอมอับอาย ”

ราชครูจุนรู้สึกโล่งใจ ก้มหน้าไม่พูดอะไรอีก

อันหลิงหยุนเพิ่งจะเข้าใจ เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้ ก็เพื่อจะให้ราชครูจุนช่วย ราชครูจุนเป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ คงไม่ให้การช่วยเหลือ

แต่ผ่านเรื่องราวของฮูหยินรอง เขาคิดอยากตอบแทนบุญคุณเท่านั้น

“เรื่องนี้คงจัดการได้ไม่ง่าย หากการใช้หญิงสาวเพียงคนเดียวก็จะสามารถทำให้การสู้รบระหว่างสองประเทศสงบลงได้ เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำ”

อันหลิงหยุนมองราชครูจุนที่กำลังพูด เอ่ยขึ้นว่า“ท่านราชครู หากเป็นลูกสาวท่านไปเกี่ยวดอง ท่านยินดีหรือไม่”

“ขอเพียงสามารถทำประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ข้าก็ยินดี”ราชครูจุนนิ่งมาก

อันหลิงหยุนไม่พูดอะไรอีก นางไม่ยินยอม นางไม่ใช่คนเสียสละปานนั้น นางไม่ยินดีจะมอบลูกสาวให้กับคนที่ไม่รู้จัก

คิดถึงในคืนหนึ่งที่แสนมืดมิด ข้างกายไร้ญาติขาดมิตร บุรุษคนหนึ่งที่ไม่รู้จักกันกระทำการขืนใจหญิงสาวผู้น่าสงสารเช่นนี้ อันหลิงหยุนรู้สึกตระหนกเป็นอย่างยิ่ง

“แม้ข้าจะตกลงช่วยท่าน ในราชสำนักยังมีใครช่วยท่านอีก แม้ในท้องพระคลังจะมีเงินสะสมอยู่บ้าง แต่สำหรับประเทศต้าเหลียงของเราแล้ว แทบไม่พอใช้ประโยชน์ ขอเพียงสู้รบกันขึ้นมา ท่านคิดว่าจะสามารถสนับสนุนได้นานแค่ไหน พวกขุนนางในราชสำนักเหล่านั้น มีกี่คนกันที่ยินยอมทำเพื่อเรื่องนี้ ยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกวัน

ใช้ชีวิตมีเกียรติมั่งคั่งจนเคยตัว ไม่มีใครยินดีจะออกรบ

ทั้งสี่ทิศของประเทศ มีคนมากมายจ้องจะตะครุบประเทศต้าเหลียงของเราอย่างกระหาย ตอนนี้เราต้องผจญทั้งศึกในและศึกนอก อ๋องเสียนคิดว่า ทำไมหวูโยกั๋วถึงได้ผยองนัก ”

“รังแกประเทศต้าเหลียงของเราโดยการล้อมทั้งสี่ด้าน ดูหมิ่นประเทศต้าเหลียงของเราไร้คนมีประโยชน์”

“หวูโยกั๋วแรกเริ่มก็ยอมจำนนแต่โดยดี เป็นแค่แผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสมเท่านั้น พอได้สติพวกเขารู้ตัวว่าไม่ควรปล่อยไปเช่นนี้ เพราะถูกคิดบัญชี ในเมื่อพวกเขาสามารถสร้างเรื่องที่ชายแดนได้ แสดงว่ามีการวางแผนในราชสำนักไว้นานแล้ว

จึงเสนอเรื่องแต่งงานเพื่อปรองดอง เพื่อต้องการเตรียมพร้อมจะเปิดศึกกับประเทศต้าเหลียง แค่อ๋องเสียนปฏิเสธการแต่งงาน เช่นนั้นเขาก็มีข้ออ้างในการเปิดศึกแล้ว ”ทุกคำของราชครูจุนมีเหตุผล อันหลิงหยุนมองไปทางกงชิงวี่

“ในเมื่อท่านราชครูรับปากจะช่วย การประชุมพรุ่งนี้เช้าก็เชิญไปทูลฮ่องเต้พร้อมกันเถอะ”กงชิงวี่กำลังไล่เป็ดขึ้นคอน

ราชครูจุนไม่ได้ปฏิเสธ “อีกไม่กี่วันทูตของหวูโยกั๋วก็จะถึงแล้ว หากฮ่องเต้มีใจคิดปฏิเสธ ก็คงไม่ให้พวกเขามา ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ข้ากับท่านจะขัดขวางได้ ข้าสามารถช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถส่งสาส์นให้ฮ่องเต้ได้ ในเมื่ออ๋องเสียนเป็นอ๋องซื่อเจิ้น เช่นนั้นก็ให้อ๋องเสียนเป็นคนถวายสาส์นเถอะ ข้าจะคอยสนับสนุนความคิดเห็น”

พูดไปพูดมา ก็ไม่เต็มใจจะช่วยเหลือ อันหลิงหยุนมองราชครูจุนแวบหนึ่ง คิดอยากจะข่มขู่เขาถ้าเขาไม่ช่วยก็จะไม่สนใจฮูหยินรอง แต่คำพูดติดอยู่ที่ปาก อันหลินหยุนก็กลืนมันกลับไป

นางเป็นหมอ

กงชิงวี่ครุ่นคิดอยู่สักครู่ “พรุ่งนี้ข้าจะถวายสาส์น ต้องลำบากท่านราชครูแล้ว”

พูดจบกงชิงวี่ก็ลุกเดินออกไปข้างนอก อันหลิงหยุนเดินตามออกไป

ข้างนอกกำลังมีหิมะตก อันหลิงหยุนออกจะประตูก็รีบเอาเสื้อคลุมไปคลุมให้กับกงชิงวี่

กงชิงวี่ยืนเหม่ออยู่ในลานบ้าน อันหลิงหยุนถาม “ลำบากใจมากหรือ”

“ไม่ใช่ลำบากใจ ข้ารู้ว่าควรทำอะไร แต่ไม่เต็มใจ และโกรธ ชายชาตรีประเทศต้าเหลียงมีเป็นสิบล้าน แต่กลับต้องพึ่งหญิงสาวเพื่อสงบศึก เช่นนี้ช่างน่าอับอาย”

“ท่านอ๋องเคยถามอ๋องตวนหรือยัง”คนแรกที่อันหลิงหยุนนึกถึงก็คืออ๋องตวน

กงชิงวี่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าพี่รองมีความคิดเดียวกันกับข้า ไม่นึกเลยว่าเขาจะไม่คิดช่วยข้า เขารู้สึกว่าแบบนี้ก็ไม่เห็นเป็นไร”

“อ๋องตวนช่างซื่อบื้อจริงๆ”อันหลิงหยุนไม่เกรงใจ

กงชิงวี่ขำ“อืม เขามันซื่อบื้อ”

“ท่านอ๋อง ข้าจะไปจวนอ๋องตวน ให้เขาช่วยท่านอ๋อง”อันหลิงหยุนตัดสินใจแล้ว ต้องให้ราชสำนักเกลียดชังและเคียดแค้นศัตรูคนเหมือนกัน จึงจะสามารถแก้ไขเรื่องราวต่อไปได้

กงชิงวี่มองอันหลิงหยุน รู้สึกตลก“เจ้ารู้หรือไม่ ท่านพ่อตาก็ไม่ตกลง”

อันหลิงหยุนนิ่งอึ้ง “ทำไม”

“ท่านพ่อตาอายุมากแล้ว แม้จะยังสามารถไปสนามรบได้อย่างเคย แต่ไม่กล้าจะรับผิดชอบต่อหน้าที่นี้ ประชาชนไม่เต็มใจเปิดศึก เต็มใจส่งหญิงสาวไปแต่งงานแทน ยังคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดี

แม่ทัพทำได้เพียงทำตามความคิดเห็นของประชาชน เพราะแม่ทัพไม่ควบคุมทหารไม่ได้ สงครามนี้ ไม่มีคนเต็มใจสู้”

“ไม่จำเป็นต้องสู้รบ หวูโยกั๋วจะสู้รบจริงหรือ”อันหลิงหยุนถามกลับ

กงชิงวี่หมุนตัว “มี่ท่านซือกับสายลับของข้าได้รายงานมาแล้ว หวูโยกั๋วได้ให้กองทัพประชิดชายแดนแล้ว รอจะสู้รบ ชายแดนเองก็ส่งม้าเร็ว รายงานให้ราชสำนัก เตรียมการตอนนี้ก็ไม่ทันการแล้ว กรมทหารก็ตื่นกลัวก่อนแล้ว ”

อันหลิงหยุนสูดลมหายใจ“หวูโยกั๋วที่แท้ก็กลับกลอก องค์ชายของหวูโยกั๋วเคยพูดแล้วว่าจะไม่มีวันรุกราน”

“จุนโม่ซ่างเคยพูด แต่ต่างเวลาต่างสถานการณ์ ใครจะรู้เล่า”กงชิงวี่สีหน้าเคร่งขรึม ความหนาวเหน็บของพายุหิมะเหมือนจะชุบแสงสีขาวให้เขาหนึ่งชั้น ภายใต้แสงสว่างของโคมไฟในลานบ้าน เห็นแววตาแหลมคมเยือกเย็น เหมือนกำลังเตรียมจะเข่นฆ่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน