ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 604

บทที่ 604 ตายหลอก

เสินเฉิงเสี้ยงจัดเตรียมสถานที่ให้อันหลิงหยุนเรียบร้อย เสินหยุนเจ๋มีภาวะอารมณ์ที่ถูกเร้าจนตึงเครียดมากเกินไปจึงถูกพาตัวไปแล้ว โดยมีแม่นมในจวนคอยรับผิดชอบดูแล

เพียงไม่นาน อาหยู่ก็กลับมาพร้อมอุ้มจิ้งจอกหางสั้น และหิ้วกล่องยามาด้วย

อาการของเสินหยุนเจ๋ไม่สู้ดีนัก อันหลิงหยุนฉีดยากล่อมประสาทให้เขาไปเข็มหนึ่ง

หลังจากฉีดยาไป เสินหยุนเจ๋มีอาการง่วงซึมเล็กน้อย อันหลิงหยุนสั่งให้อาหยู่พยุงเสินหยุนเจ๋เอนตัวลงนอน ส่วนตัวเองก็ตั้งใจว่าจะอยู่ดูอาการเสินหยุนเจ๋ต่อ

ไม่รู้ว่าเสินหยุนเอ๋อหลุดออกมาจากห้องเก็บฟืนได้อย่างไร เมื่อนางได้เจออันหลิงหยุน ก็คิดแต่จะพุ่งเข้ามาฆ่าอันหลิงหยุนให้ตายให้จงได้ อาหยู่ทะยานตัวไปด้านหน้า ยกเท้าขึ้นเตะทีเดียว เสินหยุนเอ๋อก็ปลิวกระเด็นออกจากห้อง ลอยละลิ่วออกไปด้านนอกทันที นางล้มกระแทกลงกับพื้น พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาได้ ก็กระอักเลือดกบปาก ตื่นตระหนกตกใจหน้าซีดเผือด ถึงกับแผดเสียงเรียกหมอจวนเองเลยทีเดียว

เสินเฉิงเสี้ยงโกรธจัด เรียกให้คนมาลากตัวนางออกไป จากนั้นจึงเข้ามาขอโทษขอโพยอันหลิงหยุนเป็นการใหญ่

"ใต้เท้าเฉิงเสี้ยงอย่าโทษตัวเองแบบนี้เลยเจ้าค่ะ" อันหลิงหยุนเหลือบมองไปที่เสิ่นหยุนเจ๋ จากนั้นจึงนั่งลงแล้วเอ่ยขึ้นว่า "ข้าอยากรอให้แม่ทัพน้อยเสินตื่นเสียก่อนถึงจะกลับไป หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนใต้เท้าเฉิงเสี้ยง"

"ไม่รบกวนเลย ข้าจะสั่งให้คนคอยจับตาดูลูกสาวคนเล็กอย่างเคร่งครัดเอง ขอพระชายาเสียนโปรดวางใจ นางจะออกมาสร้างปัญหาอีกไม่ได้อย่างแน่นอน"

"ขอบคุณเจ้าค่ะ"

อันหลิงหยุนเอ่ยปากรับเสียงหนึ่ง เสินเฉิงเสี้ยงจึงถอยออกไป ทั้งยังปิดประตูตามหลังให้ เรียกคนมาสองสามคนคอยดูแลอยู่ด้านนอก

อาหยู่รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง หันกลับไปสบตาอันหลิงหยุน: "พระชายา นี่พวกเขา ... "

"ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพวกเรา เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก" อันหลิงหยุนหันไปมองจิ้งจอกหางสั้น ลูบขนของจิ้งจอกหางสั้นเบาๆ จิ้งจอกหางสั้นจึงเดินออกจากทางหน้าต่างหายลับไป

รอจนถึงตอนค่ำ เสินหยุนเจ๋ก็ตื่นขึ้นมา ในเวลานั้นจิ้งจอกหางสั้น ก็ได้กลับไปอยู่ในอ้อมแขนของอันหลิงหยุนเรียบร้อยแล้ว

อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืน: "แม่ทัพน้อยเสิน ขอแสดงความเสียใจด้วย"

เสินหยุนเจ๋ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรทั้งสิ้น เพียงนั่งอยู่บนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย

อันหลิงหยุนหันมองอาหยู่ : "อาหยู่ เจ้าออกไปเตรียมตัวก่อน พวกเราจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว"

อาหยู่ออกไปเตรียมรถม้า และพบว่ามีคนแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ อันหลิงหยุนส่งจิ้งจอกหางสั้นในอ้อมแขนให้เสินหยุนเจ๋: "เผื่อไว้ว่าหากเจ้าเกิดเรื่องอะไรแล้วไม่อาจมาหาข้าได้ ให้จิ้งจอกน้อยอยู่กับเจ้าไปก่อนชั่วคราวนะ รอให้เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วค่อยส่งคืนให้ข้า "

อันหลิงหยุนพูดจบก็ออกไป เสินหยุนเจ๋จ้องมองจิ้งจอกหางสั้นในอ้อมแขนตัวเองอย่างโง่งม ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เหมือนว่าเขากลายเป็นคนโง่ เสียสติไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

กลับไปถึงรถม้า อันหลิงหยุนก็รีบตรงดิ่งกลับจวนอ๋องเสียนทันที ลงจากรถม้าได้ก็ตรงไปยังลานโอวหลาน

เมื่อเข้าประตู ก็เห็นกงชิงวี่เอนหลังนอนพักผ่อนอยู่อย่างที่คิดไว้

อันหลิงหยุนเดินเข้าไปนั่งลง ยามนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว

“ท่านอ๋อง หลับแล้วหรือเพคะ?”

มือของกงชิงวี่คว้าหมับเข้าที่มือของอันหลิงหยุนแน่น โกรธจนแทบเดือดไปทั้งตัว: "ที่ข้าบอกว่าอยากจะพักผ่อนสักสองสามวัน ไม่ใช่ว่าตัวข้าคนเดียวที่ได้พักผ่อนสองสามวันหรอกนะ หยุนหยุนเองก็ควรต้องพักผ่อนด้วยไม่ใช่หรือ?"

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขันขึ้นมาแล้ว : "ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นหรอกหรือเพคะ? จะนิ่งดูดายปล่อยเสินหยุนเจ๋ไว้คนเดียวได้อย่างไรกัน?"

“แปลว่าเจ้าปล่อยข้าไว้คนเดียว แล้วไม่ต้องสนใจก็ได้อย่างนั้นหรือ? ความเป็นความตายของข้าสำคัญ? หรือความเป็นความตายของเสิ่นหยุนเจ๋กันแน่ที่สำคัญ?”

อันหลิงหยุนยิ่งรู้สึกขบขันขึ้นเรื่อยๆ: "นั่นมันไม่เหมือนกันนี่เพคะ เสินหยุนเจ๋ต้องสูญเสียแม่ของตัวเองไป ท่านอ๋องไม่ใช่ว่ายังอยู่ดีไม่มีปัญหาหรอกหรือเพคะ?"

"เฮอะ! เจ้ารังเกียจที่เสด็จแม่ของข้าอยู่รอดปลอดภัยดีอย่างนั้นหรือ?"

"นั่นข้ามิบังอาจ ท่านอ๋องพูดเหลวไหลอะไรกัน ถ้าคำพูดพวกนี้ไปถึงพระกรรณของไทเฮา ข้าคงแบกรับผลที่จะตามมาไม่ไหวหรอกนะเพคะ!"

อันหลิงหยุนพูดหยอกเอิน ก้มหน้าลงจุมพิตบนริมฝีปากของกงชิงวี่ไปทีหนึ่ง จากนั้นค่อยถามว่า "แบบนี้ได้หรือยังเพคะ?"

กงชิงวี่ลืมตาขึ้น: "หยุนหยุนรู้ได้อย่างไรว่า เสินหยุนเจ๋สูญเสียแม่ไปแล้ว?"

“ ….. นี่ท่านอ๋องรู้ได้อย่างไรกันเพคะ?” อันหลิงหยุนตกใจจนผงะ แต่ไม่นานนางก็คืนสติกลับมาจนเหมือนยามปกติได้

นางรู้ดีว่า ถึงแม้ว่ากงชิงวี่จะนอนเอกเขนกอยู่ที่นี่ ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ข่าวคราวความเป็นไปทั่วหล้า เขาสามารถติดต่อสื่อสารได้ทั่วทุกสารทิศ ตัวเขาอยู่ในเมืองหลวง แต่กลับควบคุมเรื่องราวน้อยใหญ่ทางชายแดนได้ทั้งหมด เห็นได้ชัดว่า เขามีเครือข่ายสายข่าวที่คล้ายใยแมงมุม ใช้ติดต่อเชื่อมโยงหากันได้อย่างรวดเร็วฉับไว ในทุกวันตลอดสิบสองชั่วยาม จะมีคนคอยรายงานความเคลื่อนไหวให้เขาฟังอย่างไม่หยุดนิ่ง

นี่คือสิ่งที่กงชิงวี่กลัวที่สุดแล้ว โอบแขนรอบเอวของอันหลิงหยุน พลิกตัวเข้าไปกอดคนเข้ามากดแนบกาย: "ดึกแล้วต้องเรียกว่าอะไร หืม?"

"เรียกว่า ท่านอ๋องนักส่งเสบียงน้ำอสุจิ ดีไหมเพคะ" อันหลิงหยุนพูดหยอกเย้า ยกมือขึ้นไล้ใบหน้าของกงชิงวี่: " ท่านอ๋อง ทำไมท่านถึงได้หล่อเหลาสง่างามขนาดนี้ได้นะ พูดตามตรง ตอนแรกข้าไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเจ้าของร่างเดิมถึงชอบท่านอ๋องมากถึงขนาดนั้น รู้สึกว่าท่านอ๋องก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งก็เท่านั้น หน้าตาก็ธรรมดา ๆ รูปร่างหรือก็แค่กลางๆ.....

แต่ตอนนี้กลับยิ่งมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้วสิ

แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่ได้มีใบหน้าที่สวยงามเหมือนอย่างผู้หญิง แต่ท่านอ๋องก็มีเสน่ห์งดงามตามแบบผู้ชาย เป็นชายชาตรีแกร่งกล้า ..... "

"เจ้านี่ช่างพูดจาฉอเลาะเสียจริง ข้าว่าเจ้านี่นะ เวลาจะช่วยผู้คนขึ้นมา ไม่ว่าอะไรก็ล้วนทำได้หมด ช่างไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีเอาเสียเลย"

อันหลิงหยุนรู้สึกขบขัน: "เช่นนั้นท่านอ๋องรับปากแล้วใช่หรือไม่เพคะ?"

"ข้าสามารถปล่อยไปทำเป็นไม่สนใจได้ แต่ถ้าพวกเขาออกมาสร้างปัญหาเอง และตรวจสอบจนพบเรื่องที่เชื่อมโยงไปถึงพวกเขาเมื่อไหร่ อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน"

"อื้ม" อันหลิงหยุนรู้สึกพอใจมาก จึงจุมพิตกงชิงวี่เบาๆไปทีหนึ่ง ทั้งสองดึงผ้าห่มขึ้นคลุม เป่าไฟให้ดับเพื่อทำเรื่องสำคัญของสองคน

จวนเฉิงเสี้ยง

กลางดึกเงียบสงัดไม่มีผู้คน เสินเฉิงเสี้ยงแอบยัดหมั่นโถวสองลูก กับแอปเปิ้ลอีกลูกหนึ่งเข้าไปในโลงศพ

แม่นมชุยสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว ส่วนนางก็คอยเฝ้ามองรอบ ๆ

เสินเฉิงเสี้ยงกระซิบข้างโลงศพ "หนาวหรือไม่?"

"ยังพอไหว"

เฉิงเสี้ยงฮูหยินยอมรับว่า ต้องเผชิญความลำบากทุกข์ยากจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับการที่ยังได้มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ก็ไม่นับว่าเป็นอะไรได้

เสินเฉิงเสี้ยงพยักหน้า ย้อนนึกถึงความวิตกกังวลเมื่อตอนกลางวัน ที่อันหลิงหยุนมาที่นี่ ยังดีที่นางกลับไปแล้ว อีกทั้งวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นพิธีฝังศพแล้วด้วย

รอให้ผ่านพ้นพิธีฝังศพไป ก็วางใจได้เสียที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน