บทที่ 648 ทายาทในวังหลังต้องดูฟ้าลิขิต
อันหลิงหยุนนอนไปสักพัก อาหยู่กลับมาเคาะประตูนางถึงได้ตื่นขึ้นมา
ฟ้ามืดแล้ว อันหลิงหยุนมองไปข้างๆตัวสองครั้ง คิดไม่ถึงว่าจะไม่เห็นหยุนจิ่น
ลุกขึ้นมาเปิดประตู อาหยู่อยู่ที่ประตู : “พระชายา สอบถามมาได้แล้วขอรับ”
“บอกว่าอย่างไร?”
อาหยู่บอกที่สอบถามมาได้กับอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนรู้สึกว่าควรไปจวนกั๋วจิ้วสักรอบจึงจะได้ หากว่าจวนกั๋วจิ้วไม่ได้ ก็ไปหาหวังฮัวเอี้ยน มี่ท่านซือของเขาก็ไม่ใช่ว่าให้โดยเปล่าประโยชน์ ถามเขาจะต้องรู้เป็นแน่
จุดสำคัญก็คือไม่ได้พบมู่มิง เช่นนี้จึงยุ่งยาก!
อันหลิงหยุนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเตรียมตัวไปจวนกั๋วจิ้ว รอบหนึ่ง เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะไปจวนกั๋วจิ้วพอดี เพียงแต่ไม่เห็นหยุนจิ่นจึงค่อนข้างแปลกใจ
อันหลิงหยุนรอที่ประตูอยู่ครู่หนึ่ง ถามหงเถา : “ทำไมจึงไม่เห็นหยุนจิ่น?”
“แม่นางหยุนจิ่นออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปที่ไหนเจ้าค่ะ” หงเถาก็ไม่รู้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไหนแต่ไรหยุนจิ่นจะมีการบอกกล่าว
“ถามๆดูว่ามีคนพบหยุนจิ่นหรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
หงเถาไปหาหยุนจิ่น อันหลิงหยุนรออยู่ที่ประตู ลานนี้ของนางเป็นลานเดียวกับที่ที่แม่ทัพอันอาศัยอยู่ อันหลิงหยุนรีบร้อนจะออกไป คิดวางแผนว่าจะขอให้แม่ทัพอันมาอยู่
เดินถึงหน้าประตูของแม่ทัพอัน ได้ยินหยุนจิ่นพูดจา : “ท่านแม่ทัพ นี่คือรองเท้าที่ข้าทำใหม่ ท่านดูพอดีหรือไม่เจ้าคะ”
อันหลิงหยุนหยุดลง มองไปทางในห้องของแม่ทัพอัน ได้ยินแม่ทัพอันพูดผ่านหน้าต่าง : “หยุนจิ่น ไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ เจ้าเป็นลูกผู้หญิง อย่ามาตอนกลางคืน เลี่ยงคนพูดนินทา เจ้ายังต้องแต่งงานในภายหน้า”
เป็นความหวังดีของแม่ทัพอัน เขาแค่รู้สึกว่าบางครั้งหยุนจิ่นก็ชั่งไม่สนใจไม่ไตร่ตรองเกินไป
แม้ว่าเขาจะอายุปูนนี้แล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรชายหญิงก็มีความแตกต่าง ไปมาหาสู่กันเช่นนี้ก็ไม่เหมาะสม
หยุนจิ่นกล่าว : “หยุนจิ่นต้องการดูแลเจ้านายตลอดชีวิต ไม่อยากแต่งงาน ท่านแม่ทัพไม่จำเป็นต้องถือสาเจ้าค่ะ”
“......เช่นนี้จะไม่ถือสาได้อย่างไร เจ้าเป็นลูกผู้หญิง ไม่สามารถที่จะวิ่งไปห้องของผู้ชายได้ เช่นนี้ไม่เหมาะสม” แม่ทัพอันยังคงยืนหยัด
“หยุนจิ่นก็ไม่รู้สึกว่าจะไม่เหมาะสม ที่จวนอ๋องเสียน หยุนจิ่นอยู่ข้างนอก ท่านแม่ทัพอยู่ข้างใน หยุนจิ่นก็ดูแลท่านแม่ทัพเช่นนี้ทุกวัน”
“......นี่ไม่เหมือนกัน” แม่ทัพอันหมดคำพูดแล้ว โดนหยุนจิ่นพูดจนหมดคำพูดแล้ว
เดิมทีแม่ทัพอันนอนแล้ว ลุกขึ้นมาเอาเสื้อมาคลุม มองไปทางหยุนจิ่นที่อยู่หน้าประตู
แม้ว่าไม่ได้เข้ามา แต่สำหรับแม่ทัพอัน เขาก็ยังรู้สึกอึดอัด
“หยุนจิ่น วางรองเท้าไว้แล้วกลับไปเถอะ หลังจากนี้ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้แล้ว สิ่งเหล่านี้มีเหล่าคนรับใช้ไปทำ เจ้าเพียงดูแลเด็กๆทั้งหลายก็ได้แล้ว”
“ฝีมือคนรับใช้ไม่ละเอียด ท่านแม่ทัพออกไปอยู่ข้างนอก ทั้งยังต้องเข้าออกพระราชวังราชสำนัก ด้านเสื้อผ้าต้องเอาใจใส่เป็นธรรมดาเจ้าค่ะ”
“ข้าเป็นคนที่ไม่ละเอียดลออ ยังจะสนใจฝีมือที่ไม่ละเอียดของคนรับใช้ได้หรือ ยิ่งไปกว่านั้นก็มองไม่ออก”
“ความหมายของท่านแม่ทัพคือ แรงงานผู้หญิงของหยุนจิ่นเทียบไม่ได้กับพวกคนรับใช้?” หยุนจิ่นแววตานิ่งเฉย กลับมีพลังที่แข็งกร้าวกดดันเข้ามา
ทันใดนั้นแม่ทัพอันก็หมดคำพูดแล้ว ไม่พูดจาอยู่นาน หยุนจิ่นกล่าว : “ท่านแม่ทัพลองเถอะเจ้าค่ะ ไม่พอดีหยุนจิ่นจะได้แก้ เจ้านายอยู่พอดี ข้าก็ไม่มีเรื่องอะไร”
แม่ทัพอันอึดอัดใจ : “หยุนจิ่น ไม่เช่นนั้นเจ้ากลับไปก่อน ข้าไม่ลองแล้ว หากว่าใส่ไม่พอดี พรุ่งนี้ค่อยปรับแก้”
“ยังไงท่านแม่ทัพก็ลองเถอะเจ้าค่ะ ครั้งก่อนท่านแม่ทัพใส่ไม่พอดี เรื่องมอบให้คน หยุนจิ่นรู้สึกผิดมากเจ้าค่ะ”
“อันนี้......หยุนจิ่น......”
“เชิญท่านแม่ทัพกล่าว”
รถม้าของอันหลิงหยุนมาถึงจวนกั๋วจิ้ว อาหยู่ไปเคาะประตู อันหลิงหยุนลงมาจากรถม้า รอชั่วครู่หนึ่งก็มีคนมีเปิดประตู
เมื่อคนของจวนกั๋วจิ้ว เห็นอันหลิงหยุน ก็รีบเชิญเข้าไป
ฮูหยินกั๋วจิ้วระยะนี้มักจะนอนไม่หลับเสมอ นางก็นอนหลับไม่ค่อยดี
นานขนาดนี้แล้ว ท้องของลูกสาวยังไม่มีข่าวคราว หมอหลวงก็ตรวจแล้ว ก็ไม่ได้ป่วยอะไร
ได้ยินว่าอันหลิงหยุนมาเยี่ยมตอนค่ำ ฮูหยินกั๋วจิ้วก็รีบลุกขึ้น หวางหวยเต๋อที่อยู่ข้างๆก็รีบลุกขึ้นด้วย
อันหลิงหยุนรออยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า ได้เจอหวางหวยเต๋อสามีภรรยาไม่บ่อยนัก
อันหลิงหยุนก็ไม่ได้ลังเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นค่ำคืนดึกดื่น นางก็ไม่มีเวลาว่างมาพูดเรื่องชีวิตทั่วไป
“กั๋วจิ้ว ฮูหยิน ข้าไม่มีเวลาพูดเยอะจะพูดสั้นๆ วันนี้ข้ามาเพื่อมาสอบถามเรื่องราวของมู่มิง ข้าไปออกศึกกับท่านอ๋อง ไม่อยู่ที่เมืองหลวงหลายวัน เรื่องวังหลังข้าก็ไม่รู้ แต่วันนี้ข้ามาก็เพียงเพื่อเรื่องของมู่มิง ข้าอยากรู้ หมอหลวงกล่าวว่าอย่างไร พวกท่านได้พบกับมู่มิงหรือไม่?”
ฮูหยินกั๋วจิ้วกำลังกังวลเรื่องนี้พอดี ได้ยินอันหลิงหยุนกล่าวก็ไม่ได้คำนึงถึงอีก จากมุมมองของฮูหยินกั๋วจิ้ว มีเพียงอันหลิงหยุนที่พอจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
คว้ามืออันหลิงหยุนแล้ว ฮูหยินกั๋วจิ้วแทบจะร้องไห้ออกมา กั๋วจิ้วให้ผู้อื่นถอยออกไปก่อน ฮูหยินกั๋วจิ้วจึงได้กล่าว : “มู่มิงอยากให้กำเนิดลูกเพื่อฮ่องเต้มาตลอด นางจริงใจต่อฮ่องเต้ แต่เวลาที่มู่มิงเข้าวังจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ ไม่ใช่ว่าพวกข้ารีบร้อน เพราะมู่มิงก็ค่อนข้างความร้อนใจ นางได้พบหมอหลวงในวังหมดแล้ว หมอหลวงก็ล้วนบอกว่านางไม่ได้เป็นอะไร แต่ก็ไม่สามารถเป็นปัญหาของฮ่องเต้ได้ เซียวกุ้ยเฟยฮองเฮาก็ล้วนมีลูกมาแล้ว
เรื่องนี้พวกข้าก็ไม่กล้าถามไถ่มากนัก เพื่อหลีกเลี่ยงฮ่องเต้จะถือสา
ทายาทของวังหลัง แต่ไหนแต่ไรมาก็ดูฟ้าลิขิต
ข้าได้คุยกับไทเฮาเรื่องนี้แล้ว ไทเฮาก็ต้องการให้หมอหลวงฮู๋เป็นผู้ดูแลบำรุงร่างกายด้วยมือเขาเอง แต่ก็ยังไม่ได้”
ฮูหยินกั๋วจิ้วกลั้นร้องไห้ไม่ได้ ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าน่าเกรงขาม แต่ตอนนี้กลับเป็นทำอะไรไม่ถูก
อายุของฮ่องเต้ ช้าเร็วก็ต้องนำหน้ามู่มิง คำพูดนี้ไม่สามารถเอ่ยได้ แต่ในใจกลับรู้ดี ถึงเวลานั้น ข้างกายไม่มีลูก ชีวิตความเป็นอยู่จะต้องลำบากเพียงไร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...