บทที่ 666 ลาก่อนซูมู่หรง
พวกหยุนจิ่นรีบตามออกไป อาหยู่อยากจะไปชิงตัวราชาอีกากลับมา ราชินีอีกาก็แผดเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกอยู่ด้านหลัง
หยุนจิ่นเอ่ยขึ้นว่า: "พวกเจ้าทุกคนอยู่ที่นี่เถอะ ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ข้าจะไปดูเอง เจ้าเสือน้อยมีความฉลาดแสนรู้อยู่"
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีใครมองออกว่า ความฉลาดแสนรู้ของเจ้าเสือน้อยนั้นอยู่ที่ไหน
คาบราชาอีกาที่กำลังเลือดไหล จนห้อยต่องแต่งอยู่ในปากไปพลาง น้ำลายเจ้าตัวก็ไหลย้อยไปพลาง คาบไปคาบมา ทั้งเลือดและน้ำลายไหลต่างก็ไหลหยดลงมาเป็นทาง หยุนจิ่นเดินตามมาด้านหลัง จิ้งจอกหางสั้นเองก็ชอบเลือดของราชาอีกามากเช่นกัน เดินตามไปก็เลียเลือดของราชาอีกาเป็นระยะๆไปด้วย
เป็นเพราะราชินีอีกากังวลว่า ราชาอีกาจะถูกเจ้าเสือน้อยกิน จึงยิ่งแผดเสียงร้องอย่างรุนแรงมากขึ้น เหล่าอีกาที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็คิดจะอยากเข้าประชิด แต่เจ้าเสือน้อยก็หยุดชะงัก พลางส่งเสียงคำรามขู่ดังโฮก โฮก สองครั้งในลำคอ บรรดาอีกาจึงไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว
หยุนจิ่นทำได้เพียงต้องอุ้มราชินีอีกาไว้ในอ้อมแขน แล้วปิดตาราชินีอีกาไว้
เดิมทีขนาดตัวของราชินีอีกา ไม่ได้ใหญ่เท่าราชาอีกา นางจึงสามารถอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนได้พอดี
เดินไปจนสุดทางจนถึงประตูห้องของเด็ก ๆ ในลานจุนจื่อ เจ้าเสือน้อยก็ผลักประตูเปิด แล้วลากราชาอีกาเข้าไป
ตอนนี้เสี่ยวเฉียวกับอามู่ก็เดินออกจากประตูมา ทั้งสองเข้าไปขวางหยุนจิน: "แม่นม"
หยุนจิ่นเห็นว่าประตูปิดลงแล้ว จึงรู้สึกแปลกใจ : "เกิดอะไรขึ้น?"
อามู่เอ่ยขึ้นว่า: "เจ้าห้าตื่นขึ้นมาแล้ว เอาแต่รอเจ้าเสือน้อยกับจิ้งจอกหางสั้น พวกเราก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรารู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก "
หยุนจิ่นมองเข้าไปข้างในอย่างเป็นห่วง: "เช่นนั้นพวกเจ้าก็คอยดูแลที่นี่ด้วยล่ะ"
“รับทราบ”
อามู่มองเฟิงอู่ฉิงที่กำลังเดินเข้าประตูลานจุนจื่อมา หลุบสายตาลง: "แม่นม คนตรงนั้นเขาจะเข้ามาแล้ว"
หยุนจิ่นหันไปมองเฟิงอู๋ฉิง: "อ๋อ เดี๋ยวแม่นมไปดูเอง พวกเจ้าอยู่ดูแลทางนี้นะ"
"รับทราบ"
หยุนจินหมุนกายเดินไปหาเฟิงอู๋ฉิง เฟิงอู๋ฉิงมองไปที่ประตูห้องของเด็กๆ: "ใครเป็นคนควบคุมอีกาอยู่ข้างใน?"
“ไม่มีใครควบคุมอีกาหรอกเจ้าค่ะ เจ้าสำนักเฟิงล้อข้าเล่นแล้ว เดิมทีพวกอีกาแค่ได้รับความตื่นตระหนกเฉยๆ ที่จวนอ๋องเสียนแห่งนี้ มักจะมีอีกาแวะเวียนมาบ่อยๆอยู่แล้ว บางครั้งเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว ต้องขายหน้าเจ้าสำนักเฟิงเหลือเกินแล้ว”
หยุนจิ่นอุ้มราชินีอีกาไว้ในอ้อมแขน คอยลูบปลอบโยนเบา ๆ ราชินีอีกาที่พยายามดิ้นรนในตอนแรก กลับเงียบสงบลงมาได้โดยพลัน
เป็นธรรมดาที่เฟิงอู๋ฉิงจะไม่เชื่อ จึงผลักหยุนจิ่นให้หลีกทาง ในใจคิดว่าจะเข้าไปดูพวกเจ้าห้า
หยุนจิ่นหันกลับมาออกคำสั่งทันที: "หยุดเขาไว้!"
ทันใดนั้น มีคนหลายสิบคนร่อนลงมาจากหลังคา ตรงเข้าขัดขวางเฟิงอู๋ฉิงเอาไว้ เฟิงอู๋ฉิงชักดาบขึ้นเผชิญหน้า: "หลีกไปให้พ้น"
"ข้าก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าใครกันแน่ที่ต้องหลีก"
เสียงของแม่ทัพอันดังมาจากนอกลานจุนจื่อ เฟิงอู๋ฉิงหันไปมอง
แม่ทัพอันก็เดินเข้ามาถึงด้านในแล้ว เมื่อหยุนจิ่นเห็นแม่ทัพอัน ก็รีบเดินเข้าไปหา เดิมทีนางคิดไว้ว่าจะอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้กระจ่างเสียก่อน แต่ก็ถูกแม่ทัพอันหยุดไว้ : "ให้ข้าจัดการเอง"
หยุนจิ่นเอ่ยขึ้นว่า: "ท่านแม่ทัพโปรดระวังด้วย"
"อื้ม"
แม่ทัพอันจ้องเฟิงอู๋ฉิงตาเขม็ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ห้องของหลานชายข้า เจ้าสำนักเฟิงต้องสนใจขนาดนี้เลยเชียวหรือ?"
"หึ!" เฟิงอู๋ฉิงหันหลังแล้วเดินต่อทันที ไม่เห็นแม่ทัพอันอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
แต่เขาเพิ่งหันหลังไป พลังปราณอันแข็งแกร่งทรงพลังของแม่ทัพอัน ก็พุ่งเข้าปะทะใส่เขาอย่างรุนแรง เฟิงอู๋ฉิงหยุดชะงักเท้า หันกลับไปมองดูแม่ทัพอัน
เพียงพริบตา แม่ทัพอันก็เข้ามาประชิดตัวเฟิงอู๋ฉิงเรียบร้อยแล้ว เฟิงอู๋ฉิงหยุดรั้งฝีเท้ารับมือ แม่ทัพอันเดินหน้าเข้าหา ทั้งสองแลกหมัดกันหนึ่งคนหนึ่งหมัด
ทั้งสองคนดูคล้ายว่าจะไม่มีใครเป็นอะไร แต่พลังปราณวรยุทธอันทรงพลังของพวกเขานั้น สะท้านสะเทือนจนกวาดล้างทั่วทั้งลานระเนระนาดไปหมด แววตาแม่ทัพอันทอประกายลึกซึ้งแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถอยู่ในท่าที่มั่นคงไม่ไหวติงได้ดังเดิม
เฟิงอู๋ฉิงถึงกับต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า กระตุ้นพลังปราณออกไปต้านทานแม่ทัพอัน
หยุนจิ่นคิดการบางอย่างอยู่ครู๋หนึ่ง วางราชินีอีกาลงแล้วเดินไปทางเฟิงอู๋ฉิง นางหรี่ตายิบหยี หยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ มุมปากยกแย้มรอยยิ้มประหลาด!
เฟิงอู๋ฉิงลมหายใจสะดุด แม่ทัพอันกระตุ้นปราณเข้าโจมตี เฟิงอู๋ฉิงชักเท้าถอยหลัง กระอักเลือดออกมาจนกบปาก
หยุนจิ่นรีบเก็บเอากริชในมือ ซ่อนกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทำราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น
แม่ทัพอันหันไปมอง หยุนจิ่นรีบเดินไปยังเบื้องหน้าแม่ทัพอันทันที: "ท่านแม่ทัพ เป็นอะไรบ้างหรือไม่เจ้าคะ?"
แม่ทัพอันส่ายหน้า หันไปมองเฟิงอู๋ฉิง: " เป็นข้าที่เอาเปรียบเจ้าแล้ว จิ่นเอ๋อเพียงมีใจอยากจะปกป้องเจ้านาย หากว่าเจ้าสำนักเฟิงในใจยังรู้สึกไม่ยินยอม วันหลังรอให้เจ้าสำนักเฟิงพักฟื้นร่างกายจนหายดีแล้ว ข้าพร้อมจะประลองกับเจ้าอีกสักยก!"
แม่ทัพอันอาบน้ำให้เจ้าห้าเสร็จจึงอุ้มออกมา สั่งให้คนไปเตรียมนมวัวมาป้อนเจ้าห้า จากนั้นก็อยู่ในห้องเด็กๆ
ในความฝันของอันหลิงหยุน นางได้เห็นว่าซูมู่หรงตายแล้ว อีกทั้งเป็นการแก่ตายอีกด้วย ก่อนตาย ซูมู่หรงยังได้ไปที่ห้องวิจัยชั้นใต้ดินส่วนตัวของเขา
ครั้งนี้อันหลิงหยุนไม่สามารถติดต่อ หรือกระทั่งเข้าใกล้ซูมู่หรงได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว
นางไม่รู้ว่าเป็นโรงพยาบาลอะไร
ซู่มู่หรงยืนอยู่นอก ภาชนะบรรจุสิ่งทดลองใบหนึ่งซึ่งอยู่ภายในห้องปฏิบัติการทดลอง กำลังดูสิ่งที่อยู่ข้างในอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลังจากดูอยู่นาน ซูมู่หรงก็หันกลับมา เดินตามชายหนุ่มคนหนึ่งจากไป ชายหนุ่มมีดวงตาที่ลึกล้ำ ใบหน้าหล่อเหลาน่ามอง ยิ่งเห็นหน้าก็ยิ่งรู้สึกว่าคุ้นเคย แต่นางจำไม่ได้ว่าคนคนนี้คือใคร
ดูเหมือนว่าตอนที่ซูมู่หรงล่วงเข้าสู่วัยชรา คนที่อยู่รอบตัวเขาต่างก็ไม่มีใครรู้จักเขา
ในตอนที่ซูมู่หรงตาย เขาดูสงบสุขอย่างมาก ร่างของเขาถูกเก็บบรรจุไว้ในภาชนะทรงหลอดแก้ว
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้เผาศพของซูมู่หรง จากนั้นจึงนำร่างของซูมู่หรง ไปไว้ยังที่ที่มองเห็นก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นชั้นล่างทั้งหมดของสถาบันวิจัยก็ปิดลง ประตูก็ถูกล็อคอย่างแน่นหนา
แสงไฟดับลง ทุกสิ่งรอบตัวก็เงียบงันวังเวงลงโดยพลัน
อันหลิงหยุนรู้สึกว่ามีพลังบางอย่าง ที่ดึงดูดร่างกายของนางให้ไปยังที่ที่หนึ่ง นางมีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถูกขังอยู่ในห้องทดลอง นางจำเป็นต้องหาสวิตช์ที่อยู่ตรงไหนสักแห่งให้เจอ จึงจะสามารถออกไปได้
อันหลิงหยุนสงสัยว่า มีอะไรในภาชนะที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามนั้นกันแน่ หากซูมู่หรงเก็บร่างของเขาเอาไว้ในนี้ เช่นนั้นแล้วอีกคนหนึ่งคือใครกัน?
เดิมทีอันหลิงหยุนอยากจะไปดูว่า ใครคือคนที่อยู่ในภาชนะทดลองนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปใกล้ ก็รู้สึกว่าถูกลมกระโชกแรง พัดนางจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อน
จู่ๆอันหลิงหยุนก็ลืมตาตื่นขึ้นมาฉับพลัน อ้าปากสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดเฮือกใหญ่
“ เจ้านาย!”
หยุนจิ่นเห็นว่าอันหลิงหยุนตื่นแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปหาทันที อันหลิงหยุนรู้สึกอ่อนระโหยโรยแรง อาการคล้ายถูกลมอัดปะทะจนเสียดอยู่ข้างใน
อันหลิงหยุนหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกเฮือกหนึ่ง
ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...