ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 676

บทที่ 676 เฟิงอู๋ฉิงรับลูกศิษย์

กงชิงวี่หันกลับไปนั่งในรถม้า ขณะที่เพิ่งเข้าไป ก้มีคนแหวกผ้าม่านแล้วขึ้นรถมา กงชิงวี่คิดว่าเป็นหวางหวยอันจึงตั้งใจจะหันหลังกลับไปผลักออก แต่มือของเขาเกือบจับเข้าไปที่หน้าอกของฮั๋วฉิง จึงรีบดึงมือกลับมาทันทีแล้วเอาไปไว้ด้านหลัง ทำให้เขาตกใจจนรีบหันไปมองอันหลิงหยุน แล้วจึงรีบเข้าไปนั่งติดกับอันหลิงหยุน ตกใจจนใจเต้นตุบตับ

ฮั๋วฉิงหันไปมองทางอันหลิงหยุน แล้วค่อยๆพิจารณาอย่างละเอียด แล้วเดินเข้าไปหาอันหลิงหยุน แล้วนั่งลงข้างๆอันหลิงหยุน

อาหยู่ร้อนใจอยู่ด้านนอก : “ท่านอ๋อง !”

“กลับจวน !” ยังไม่ทันได้รอให้กงชิงวี่พูดอะไร อันหลิงหยุนก็พูดขึ้นมาก่อน

ฮั๋วฉิงผงะไปชั่วครู่ กงชงิวี่ยื่นมือออกไปกุมมือของอันหลิงหยุน ถูกนางทำให้โมโหจะตายอยู่แล้ว

ถ้าหากไม่ใส่เสื้อผ้าผู้ชายออกมา ก็คงไม่ต้องถูกสงสัยเช่นนี้

กงชิงวี่แสร้งทำเป็นสงบ กุมมือของอันหลิงหยุนเอาไว้ไม่หันไปมองฮั๋วฉิง อาหยู่ขึ้นนั่งบนรถม้า แล้วบังคับรถม้ากลับไป

ฮั๋วฉิงยื่นมือออกไปลูบหน้าของอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนไม่ได้สนใจ กงชิงวี่ทนไม่ไหวแล้ว

“แม่ทัพน้อย เอามือของเจ้าออกไป”

ฮั๋วฉิงทำเหมือนกับไม่ได้ยิน ตาของนางแดงแล้ว

ฮั๋วฉิงยังอยากที่จะยื่นมือออกไปดึงใบหน้าของอันหลิงหยุนออก กงชิงวี่ดึงอันหลิงหยุนมา แล้วหันไปมองด้วยความโมโห

เมื่อรถม้ามาถึงจวนอ๋องเสียน อันหลิงหยุนก็ลุกขึ้นเพื่อจะลงจากรถม้า ฮั๋วฉิงจึงตามลงไปด้วย

กงชิงวี่กลายเป็นคนสุดท้ายที่ลงจากรถม้า

ทั้งสามคนเข้าไปข้างใน ฮั๋วฉิงถาม : “ท่านไปเยี่ยมใคร ?”

“ก๊กกู๋ใหญ๋”

“แล้วทำไมจะต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วย ไม่ใช่ว่าท่านเคยบอกว่าท่านเป็นพระชายาเสียน ไม่สามารถแต่งกายแบบผู้ชายได้หรอกหรือ ? “

“ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ จึงไม่อาจไปสู้หน้าพวกเขา”

ทั้งสองพูดพลางก็เดินเข้าไปด้านใน กงชิงวี่เดินตามไปข้างหลังอย่างหดหู่

เมื่อกลับถึงลานโอวหลาน อันหลิงหยุนก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฮั๋วฉิงเดินไปถึงนอกห้อง ก็ยืนรออยู่ที่ด้านนอกห้องของอันหลิงหยุน กงชิงวี่ยืนเอามือไขว้หลัง หน้าตาเย็นชาอยู่ที่ด้านในลาน

อันหลิงหยุนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมา ฮั๋วฉิงเดินเข้าไปหา : “หลายวันมานี้ข้านอนไม่หลับ ท่านตรวจดูให้ข้าหน่อย”

ฮั๋วฉิงดึงอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนเดินตามไปที่ด้านหน้าม้านั่งที่อยู่ในลาน ทั้งสองนั่งลง ฮั๋วฉิงวางมือลงบนโต๊ะหินเพื่อรออันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนยกมือขึ้นแล้วกดลงที่ข้อมือของฮั๋วฉิง แล้วก้มลงมองสแกนอัตโนมัติ

ฮั๋วฉิงจับจ้องไปที่ดวงตาของอันหลิงหยุน มองนางอยู่ตลอด

กงชิงวี่ที่ยืนอยู่อีกทางด้านหนึ่ง ทำเหมือนกลืนแมลงวันที่ตายแล้วเข้าไปก็ไม่ปาน

แม้แต่ผู้หญิงเข้าก็ไม่ปล่อยเอาไว้แน่ เข้าจะเข้าไปตีให้ตาย !

“ไม่เป็นอะไร” อันหลิงหยุนลุกขึ้นแล้วเดินไปยังลานจุนจื่อ เตรียมที่จะไปดูเด็กๆ ฮั๋วฉิงก็ตามไปด้วย

กงชิงวี่พูดว่า : “ แม่ทัพน้อย ลานจุนจื่อเป็นที่พักของเจ้าห้า เจ้าห้าไม่ชอบแม่ทัพน้อยนัก แม่ทัพน้อยอย่าไปเลย”

ฮั๋วฉิงทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วเดินตามอันหลิงหยุนไปยังลานจุนจื่อ

เมื่อเห็นอันหลิงหยุน หยุนจิ่นก็คำนับ : “เจ้านาย”

“อืม หลายวันมานี้ลำบากเจ้าแล้ว”

“เจ้านายหายดีก็ดีแล้ว หลายวันมานี้แม่ทัพอันก็นอนไม่หลับ ไปเยี่ยมสักหน่อยเถอะเพคะ”

“อืม”

อันหลิงหยุนเดินไปถึงหน้าห้องของพวกเด็กๆ แล้วจึงผลักประตูเดินเข้าไป

เฟิงอู๋ฉิงเดินออกมาจากด้านใน เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็ผงะไปชั่วครู่ อ้าปากจะถามว่าท่านไม่เป็นอะไรแล้วหรือ แต่เห็นกงชิงวี่เดินตามมาด้านหลัง จึงรู้สึกผิดหวังแล้วเดินกลับไป

“มีธุระหรือ ? “ เฟิงอู๋ฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่ล้ำลึกและทรงพลัง

อันหลิงหยุนถาม : “เจ้าสำนักเฟิง หยุนจิ่นบอกข้าว่า วรยุทธของท่านในใต้หล้าไม่มีใครเทียบได้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?”

เฟิงอู๋ฉิงตอบอย่างเย็นชา : “มิใช่หรือ ?”

“เจ้าสำนักเฟิง ถ้าหากท่านเป็นหนึ่งในใต้หล้า ขอจงรับเจ้าห้าและเสี่ยวเฉียวเป็นศิษย์ด้วยเถิด เพื่อที่จะทดสอบว่าท่านเป็นหนึ่งในใต้หล้าจริงหรือไม่”

อันหลิงหยุนพูดพลางก็หันไปโค้งคำนับให้เฟิงอู๋ฉิงสามครั้ง เฟิงอู๋ฉิงยืนนิ่งเหมือนหุ่น ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอยู่พักใหญ่ เมื่อรู้สึกตัวแล้ว เฟิงอู๋ฉิงก็ถามว่า : “ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่ ?”

อันหลิงหยุนพูด : “ข้ามีลูกเจ็ดคน ข้าตั้งใจที่จะหาคนที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นหนึ่งในใต้หล้าสักสองสามคน ใครพวกเขามาแบ่งกันรับผิดชอบถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ให้แก่บรรดาลูกชายของข้า รอจนลูกๆของข้าโตก็ให้ประลองกันดูสักตั้ง เช่นนี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นหนึ่งในใต้หล้ากันแน่”

“ข้าบอกเมื่อไหร่กัยว่าจะรับลูกศิษย์ ?” แววตาของเฟิงอู๋ฉิงเต็มไปดูความดูถูก มองอันหลิงหยุนอย่างดูแคลน แต่หลายวันมานี้ไม่เห็นอันหลิงหยุน เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ

โดยเฉพาะทุกคืนที่ลุกขึ้นออกไปข้างนอก ก็มักจะมองเห็นห้องๆนั้นในลานโอวหลานมีไฟส่องสว่างอยู่ เฟิงอู๋ฉิงก็ยิ่งรู้สึกสงสัย ว่าทำไมดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีก ไม่ดับไปตลอดทั้งคืน เพื่ออะไรกัน ?”

มีหลายครั้งที่เฟิงอู๋ฉิงคิดจะไปดู แต่ก็ถูกอู๋ซานรบกวน ยังไงเสียเขาก็เป็นถึงเจ้าสำนักทิงเฟิง จึงไม่ได้คิดที่จะสนใจ

วันนี้เห็นอันหลิงหยุนที่ดูรูปร่างผอมบางจนเหมือนจะปลิวเมื่อลมพัด ก็รู้สึกดูถูกกงชิงวี่ ท่านอ๋องอะไรกัน แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็เลี้ยงไม่ได้

“เจ้าสำนักเฟิง ถ้าหากท่านไม่รับเจ้าห้าและเสี่ยวเฉียวของข้า ก็ช่างเถอะ อีกไม่นานข้าก็คงหาผู้ที่เป็นหนึ่งในใต้หล้าเจอ

แน่นอน อีกหน่อยจะต้องมีคนรู้ว่า อาจารย์ของลูกๆข้านั้นล้วนเป็นหนึ่งในใต้หล้า

แต่คนที่คิดว่าตนเองเป็นหนึ่งในใต้หล้าเหล่านั้น แต่กลับไม่ได้เป็นอาจารย์ของลูกๆข้า ก็ไม่จำเป็นต้องเอามานับ”

“เหลวไหล ข้านี้แหละคือหนึ่งในใต้หล้า ลองมองดูในโลกนี้ มีใครที่เอาชนะข้าได้บ้าง ?” เฟิงอู๋ฉิงพูดโอ้อวดออกมา อันหลิงหยุนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

“ถ้าไม่รับก็ถือว่าไม่ใช่ ปากคนนั้นไวนัก ใครก็คงห้ามไม่ได้”

“......ก็ดี ข้าจะรับเจ้าห้ากับเสี่ยวเฉียวไว้ จริงๆแล้วข้าก็ชิบเจ้าเด็กนี่ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าท่านเองที่ไม่ยอมหรอกหรือ มาวันนี้ทำไมถึงเห็นด้วยแล้ว ?” ก่อนหน้านี้เฟิงอู๋ฉิงคิดจะรับเสี่ยวเฉียวเป็นศิษ์ แต่อันหลิงหยุนไม่ยอมรับปาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน