ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 701

บทที่ 701 เป็นหนักกว่าเก่า

เสินหยุนชูกำลังมองหวางฮองไทเฮาที่นั่งอยู่ด้านบน หวางฮองไทเฮาตรัสถามว่า : “ข้าขอถามเจ้า ที่เจ้าเข้าวังมาแล้วมิอาจตั้งครรภ์ได้เป็นเพราะกินยาจีฟูเข้าไปอย่างนั้นหรือ ?”

“เพคะ” เสินหยุนชูยอมรับ

นางใช้ยาจีฟูมาสิบกว่าปีแล้ว ในภายหลังเป็นเพราะไม่อยากกินจึงไม่กินแล้ว

แต่ยาจีฟูไทเฮาเป็นผู้ประทานให้

หวางฮองไทเฮารู้สึกขำ : “อย่างนั้นหรือ?”

ฮั๋วไท่เฟยเปิดเสื้อออก แล้วถอดถุงเครื่องหอมถุงหนึ่งออกมาจากคอเสื้อ แล้วโยนลงไปยังท้องพระโรงที่อยู่ด้านล่างแท่นบันได เป็นเพราะอยู่ห่างจากเสินหยุนชูไปสักระยะ ขณะโยนจึงออกแรงเล็กน้อย แต่ยาจีฟูกลับโยนลงไปตกอยู่ด้านหน้าของเสินหยุนชู

เสินหยุนชูผงะไปชั่วครู่ ถุงเครื่องหอมมีสีเขียวแกมดำ ด้านบนปักลายดอกโบตั๋นเอาไว้

“ฮองเฮา ลองเปิดดูซิว่าข้างในมีอะไร” ตอนนี้ฮั๋วไท่เฟยมีท่าทีที่เย็นชาขึ้นมาก

เสินหยุนชูหยิบขึ้นมาดูแล้วเปิดออก นางเห็นของที่อยู่ข้างใน ก็เงยหน้าขึ้นมองฮั๋วไท่เฟย : “นี่คืออะไรเพคะ ?”

“นี่คือยาจีฟู” ฮั๋วไท่เฟยรู้สึกขำ : “เสียแรงที่เจ้าเป็นถึงฮองเฮา แม้แต่ยาจีฟูคืออะไรเจ้าก็ยังไม่รู้ ยาจีฟูเป็นยาที่ใช้สำหรับบำรุงผิวพรรณและเลือด ไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ทุกเดือนกินได้สามวันรวมเก้าครั้ง จะทำให้ผู้หญิงดูมีน้ำมีนวล ของสิ่งนี้สามารถช่วยชะลอวัยได้ ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ได้ทรงหาคนมาปรุงให้ข้าและไทเฮาโดยเฉพาะ จะว่าไปก้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง

มีอยู่คืนหนึ่งฮ่องเต้องค์ก่อนทรงตื่นบรรทมจากพระสุบิน ทรงตรัสว่าในความฝันพระเกศาได้กลายเป็นสีขาวไปหมดสิ้น ดังนั้นจึงทรงเป็นกังวลว่าข้าและไทเฮาก็จะแก่ลงไปด้วย ฮ่องเต้องค์ก่อนจึงตรัสว่า หากพระองค์ชราภาพแล้วก็หวังว่าพวกเราจะยังคงดูอ่อนเยาว์อยู่ ดังนั้นจึงได้เรียกคนมาปรุงยาจีฟูขึ้น

ยาจีฟูเป็นยาบำรุงผิวพรรณและเลือด พวกเราต่างก็กิน

เพียงแต่ว่าของสิ่งนี้ กินไปๆก็ทำให้รู้สึกเบื่อ ข้าเองไม่มีผมขาวมาก็หลายปีแล้ว กินของสิ่งนี้ก็ถือว่าได้ผล

แต่หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงสวรรคต ข้าเองก็ขี้เกียจกิน

เพียงแต่ว่ายาจีฟูยังมีประโยชน์อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ หากพกติดตัวไว้สามารถช่วยขับไล่พวกแมลงไม่ให้เข้าใกล้ได้ ดังนั้นข้าจึงได้พกเอาไว้

ฮองเฮา เจ้าเข้าวังมา หากไทเฮาทรงให้เจ้าใช้ยาจีฟูแล้วล่ะก็ นั่นหมายความว่าไทเฮาทรงดีต่อเจ้านัก

เพราะว่ายาจีฟูนั้นมีไม่มาก อีกทั้งการปรุงยาจีฟูนั้นก็ถือเป็นสูตรลับของตระกูลหมอหลวงฮู๋ แต่หลังจากที่บิดาของหมอหลวงฮู๋จากไป ก็ไม่ได้ปรุงขึ้นอีก ดังนั้นในวังเองจึงมีอยู่เพียงเล็กน้อย”

เสินหยุนชูแปลกใจ : “ถ้าเช่นนั้นทำไมหลังจากที่หม่อมฉันเสวยเข้าไปแล้ว จึงไม่มีลูกล่ะเพคะ ?”

“เจ้ามีหรือไม่มีลูก ไม่ได้เกี่ยวกับยาจีฟู เจ้าไปได้ยินจากใครมา ว่ายาจีฟูสามารถให้โทษต่อคนได้”

“เพคะ......” เสินหยุนชูน้ำตาไหลรินออกมา : “อ๋องชินจงเพคะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันมองหวางฮองไทเฮา : “เสด็จแม่ ฮองเฮา......”

“ฝ่าบาท เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า ตอนนี้เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” หวางฮองไทเฮามองเสินหยุนชู : “แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องนี้แค่เรื่องเดียว ข้าขอถามเจ้า หลายปีมานี้ที่ฝ่าบาทไม่ทรงมีทายาท เป็นเพราะอะไรกัน ?”

“หม่อมฉันวางยาเพคะ” เสินหยุนชูตอบ หยุนโล๋ชวนเขยิบเข้าไปหาอันหลิงหยุน

“ใครให้ยาแก่เจ้า ?”

“อ๋องชินจงเพคะ”

“ตัวเจ้าเองก็กินด้วยอย่างนั้นหรือ ?”

“หากบางครั้งที่หม่อมฉันไม่สบายใจ ฝ่าบาทเสวยหม่อมฉันเองก็เสวยเพคะ”

“ที่เซียวกุ้ยเฟยถูกพิษเจ้าก็เป็นคนทำ ทำให้กลายเป็นบ้า ?”

“หม่อมฉันเองเพคะ หม่อมฉันเห็นนางให้กำเนิดทายาท หม่อมฉันจึงรู้สึกไม่สบายใจ”

“แล้วทำไมเจ้าจึงใส่ร้ายมู่มิง ?”

“หม่อมฉันอยากทำลายนาง”

เสินหยุนชูยอมรับทั้งหมด หวางฮองไทเฮาหันมององค์หญิงกู้กั๋ว แล้วหันกลับมามองเสินหยุนชู : “เจ้าให้องค์หญิงเสวยอะไร ?”

“ยานอนหลับเพคะ นางเอาแต่ร้อง” ฮองเฮายอมรับแล้ว

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าช่างไร้สาระ เรื่องของมู่มิงกับเซียวกุ้ยเฟยไม่มีทางที่เสินหยุนชูจะเป็นคนทำ

ตอนนั้นนางไม่น่าจะมีความสามารถ เท่ากับว่าเสินหยุนชูออกรับผิดแทนฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทกลับไม่พูดอะไร

“เจ้าเป็นถึงฮองเฮา แต่กลับทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ก็ควรได้รับโทษ แต่สวรรค์ยังมีเมตตา ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ในเมื่อเจ้ามีใจฝักใฝ่ธรรมะ ถ้าเช่นนั้นก็จงโกนหัวบวชชีเสีย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้เสินหยุนชูเข้าวังตลอดชีวิต จงไปสวดภาวนาขอพรให้แก่ฝ่าบาทเถอะ”

เสินหยุนชูผงะ : “พระองค์จะไม่ทรงสั่งประหารหม่อมฉันหรือเพคะ ?”

อันหลิงหยุนไปถึงด้านนอกของวังเย็นแต่กลับไม่ได้เข้าไป

“เข้าไปเถอะ” กงชิงวี่เรียกให้นางเข้าไป อันหลิงหยุนส่ายหน้า

“ไม่เข้าไปแล้ว พวกเราไปกันเถอะ ที่นี่เย็นเกินไป ข้าไม่ชอบ”

อันหลิงหยุนจูงมือกงชิงวี่เดินจากไป ระหว่างทางก็พูดขึ้นว่า : “ท่านอ๋องทรงทำเช่นนี้ ฝ่าบาทจะต้องทรงเคียดแค้นอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นจะต้องทรงระบายความแค้นกับมู่มิงเป็นแน่”

“มู่มิงเกิดในที่แห่งนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก หากนางไม่สามารถปกป้องตนเอง เอาแต่พึ่งพาเจ้า สักวันก็จะต้องตายอยู่ในวังหลวง หากเห็นแก่หน้าของเสด็จแม่ ก็คงไม่เป็นไรหรอก”

เมื่อกงชิงวี่พูด อันหลิงหยุนก็หยิกเขา กงชิงวี่เจ็บจนหน้าถอดสี : “เจ้ากล้าหยิกข้าอย่างนั้นหรือ ? “

“ท่านยังว่าที่ข้าหยิกท่านอีกหรือ ท่านเองก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าหากเรื่องทั้งหมดนี่เกิดขึ้น ก็จะเป็นการทำร้ายมู่มิง แล้วท่านยังวางใจได้อย่างไร ?”

“อืม ?” กงชิงวี่จูงอันหลิงหยุนเดินจากไป ไม่ได้สนใจนางเลยสักนิด

ตลอดทางที่อันหลิงหยุนออกจากวัง ในใจรู้สึกว้าวุ่นเป็นอย่างมาก คิดไม่ออกเลยว่า ทำไมฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงได้คิดไม่ซื่อต่อนาง

เป็นเพราะฝ่าบาทหลายใจ !

“ท่านอ๋อง ที่เสินหยุนชูต่อว่าฝ่าบาท ท่านไม่ถือสาหรอกหรือ ?”

อันหลิงหยุนออกจากวังจึงกล้าถาม

กงชิงวี่เหลือบมองอันหลิงหยุน : “เจ้าเป็นของข้า ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกล้วนหมายปองเจ้า แล้วยังไง ?”

อันหลิงหยุนเงียบไป หากพูดเช่นนี้แล้ว นางก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากอีก

ทั้งสองคนออกจากวัง อันหลิงหยุนตามกงชิงวี่เข้าไปเดินในร้านค้า แล้วเลือกซื้อสิ่งของใช้สอยสองสามอย่าง

เมื่อกลับถึงจวนอ๋องเสียน อันหลิงหยุนก็ไปอาบน้ำ หลังจากแช่น้ำออกมาก็กินยาและทายา

ในห้องไม่มีคนอื่น กงชิงวี่จึงพันแผลให้อันหลิงหยุนด้วยตัวเอง : “บาดแผลนี้ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่”

ไม่ใช่ว่าไม่ดีขึ้น แต่น่าจะเป็นหนักกว่าเก่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน