บทที่ 712 เปลี่ยนอาหยู่ออก
หลายวันต่อมา อันหลิงหยุนก็ตามกงชิงวี่ออกไปข้างนอก ทั้งสองไปทำรังวัดตรวจสอบที่ดินกัน อันหลิงหยุนนำเครื่องมือติดตัวมาด้วยไม่น้อย
ระหว่างทาง กงชิงวี่บอกว่า เขาอยากไปดูว่าตัวเองมีที่ดินมากน้อยเพียงใด จึงต้องไปพื้นที่ที่สูงสักหน่อย อันหลิงหยุนยังไม่อยากไป แต่กงชิงวี่บอกว่า หากเดินไม่ไหวเขาจะแบกนางไปเอง นางจึงแข็งใจขึ้นไปอย่างไม่เต็มใจนัก
เมื่อขึ้นไปถึงบนยอดเขา อันหลิงหยุนก็รับรู้ได้ว่ามีคนอยู่รอบ ๆ
อันหลิงหยุนหันมองไปรอบตัวครู่หนึ่ง จึงได้เห็นคนสองสามคนยืนอยู่ไม่ไกล นางเดินตรงไปทางด้านนั้น สุดท้ายจึงได้เห็นป๋ายสู้สู้ที่อยู่ในชุดสีขาว กับมู่มิงที่สวมชุดสีเขียวทั้งตัวยืนอยู่
มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังทั้งสอง ก่อนหน้านี้ อันหลิงหยุนเคยได้พบกับเขามาแล้ว
เมื่อเห็นอันหลิงหยุน มู่มิงก็ยกยิ้มยินดี: "ข้าร่างกายไม่แข็งแรง เลยต้องพักผ่อนอยู่สองวัน เจ้ามาเร็วเสียจริง!"
"เป็นอย่างนี้นี่เอง" อันหลิงหยุนพินิจมองมู่มิงครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินไปดูป๋ายสู้สู้ที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
"สู้สู้"
“ เจ้ามาได้พวกเราก็ดีใจมากแล้ว ข้าจะพามู่มิงไปจากที่นี่ คงจะไม่กลับมาในช่วงเร็วๆนี้เป็นแน่ได้ยินอ๋องเสียนบอกว่าเจ้าร่างกายไม่ค่อยดี ข้าถึงได้มารอเจ้าที่นี่ เข้ามาให้ข้าดูใกล้ๆหน่อย”
ป๋ายสู้สู้เรียกนาง อันหลิงหยุนจึงเดินเข้าไปหา ถอดผ้าพันแผลที่มือให้ป๋ายสู้สู้ดู นางตรวจดูอย่างละเอียดครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า: "น่าจะเป็นเพราะร่างกายของเจ้าเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ระบบการไหลเวียนไม่ดี ระบบปฏิบัติงานถึงได้รับความเสียหายไปด้วย ทว่าต่อให้ตอนนี้ข้าจะช่วยเจ้าได้ แต่ระบบการทำงานในร่างกายเจ้า ยังไม่กลับเป็นปกติ นี่ต่างหากที่ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่ง
ข้ามียาอยู่สองสามเม็ด เจ้ารีบกินยานี้ก่อน หนึ่งเม็ดทุกๆสองวัน เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานของร่างกาย หากเจ้าสามารถฟื้นตัวได้ ก็ยังพอมีความหวัง แต่หากฟื้นไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผ่านไปสักช่วงหนึ่ง ข้าจะให้คนมาหาเจ้า ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรจริงๆ ข้าจะมาเองแน่นอน
ไว้ข้ากลับไปแล้ว จะไปศึกษาระบบร่างกายของเจ้าให้รู้ชัด เจ้าไม่ต้องกลัวนะ! "
“ได้พบพวกเจ้าอีก ใจข้าก็ตื้นตันยินดีมากแล้ว มีอะไรให้กลัวกันล่ะ?”
อันหลิงหยุนหันไปมองมู่มิง: "เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว? หรือว่าไม่รู้มาก่อน?"
“ ข้าไม่รู้หรอก เดิมทีข้าเองก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว แต่เพราะไม่รู้ว่ามีคนวางยา จึงคิดไปว่าร่างกายของตัวเองย่ำแย่ลงรวดเร็วเหลือเกิน”
“ พูดอย่างนี้ก็หมายความว่า เจ้าได้เจอสู้สู้หลังจากตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”
"ข้าก็ยังอยู่ดีนี่อย่างไรเล่า ตายไปแล้วที่ไหนกัน พูดเสียหมดกำลังใจเลย!" มู่มิงกลอกตามองบนใส่อันหลิงหยุน "ปากอัปมงคล!"
"ใช่ๆ ข้านี่ปากอัปมงคลเสียจริง!" อันหลิงหยุนหันไปมองป๋ายสู้สู้อีกครั้ง: "พวกเจ้ารีบไปเถอะ อย่าเสียเวลาอีกเลย หลีกเลี่ยงเผื่อมีใครมาเห็นเข้า"
"ข้าก็กำลังคิดอย่างนั้นอยู่พอดี เจ้าเก็บยาไว้ดีๆล่ะ" ป๋ายสู้สู้ชี้แจงเสร็จ ก็หันกายเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลังมาดูแม้แต่น้อย
มู่มิงเดินไปพลาง หันกลับมามองข้างหลังไปพลาง อันหลิงหยุนกลับรู้สึกว่า ในใจช่างสงบนิ่งผ่อนคลายเหลือเกิน เรื่องจบได้แบบนี้ นางก็ปลาบปลื้มยินดียิ่งกว่าอะไรแล้ว อย่างไรก็ไม่ถึงกับต้องตายเหมือนอย่างจุนฉูฉูคนนั้น
ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร พวกเขาทั้งสามล้วนเลือนหายไปในสุมทุมพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว อันหลิงหยุนจึงหันกาย กลับไปหากงชิงวี่เพื่อเดินทางกลับพร้อมกัน มู่มิงไม่เป็นอะไรแล้ว ทั้งยังได้ร่วมทางไปกับป๋ายสู้สู้อีก สำหรับอันหลิงหยุนแล้ว นับว่าเป็นเรื่องมงคลที่น่ายินดีเป็นที่สุด นางถึงขั้นอยากกลับไปจัดงานเลี้ยงฉลองเลยด้วยซ้ำ
เพียงแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไป เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์สุดขีดของกงชิงวี่เข้า ก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา : "ท่านอ๋องไม่ดีใจหรือเพคะ?"
"ข้าควรจะดีใจด้วยหรือ?" กงชิงวี่เดินไปถึงเบื้องหน้าของอันหลิงหยุน จับมือของนางขึ้นมา ก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันที
อันหลิงหยุนประหลาดใจ: "ทำไมถึงไม่ดีใจล่ะเพคะ?"
“เห็นว่าร้องไห้จนปิ่มว่าจะขาดใจตายให้ได้ ข้าก็ยังคิดอยู่ว่า คงจะอาลัยอาวรณ์ ยากจะตัดใจได้ง่ายๆเป็นแน่ แต่มาตอนนี้ต้องแยกกัน กลับแลกเปลี่ยนคำพูดแค่ไม่กี่ประโยค ข้าถึงขั้นคิดไปแล้วว่า ขนาดกับพวกเขายังเป็นขนาดนี้ หากถึงตาข้าบ้าง จะเป็นขนาดไหนหรือ?
หากว่าวันหนึ่งจำต้องแยกจากกันจริงๆ ด้วยนิสัยใจคอของหยุนหยุนแล้ว คงไม่ใช่ว่าแค่หันหลังให้ ก็จะลืมข้าไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือเยื่อไยให้กันแล้วใช่หรือไม่? "
"ท่านอ๋องกล่าวได้ถูกต้องแล้วเพคะ" อันหลิงหยุนยิ้มอย่างมีความสุข มู่มิงไม่เป็นไรแล้วนางจึงปล่อยวางจิตใจด้านลบลงได้ นางเปลี่ยนใจ ไม่คิดจะทำการตอบแทนฮ่องเต้ชิงหยู่ให้สาสมแล้ว แต่นางก็ยังต้องคอยระวังตัวเอาไว้เช่นกัน
เพียงแต่ในยามนี้ เป็นช่วงเวลาที่ต้องแก้ไขปรับปรุง เร่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศต้าเหลียงให้ดีขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกอีกสามประเทศ สามารถเข้ามาทำลายได้ง่ายๆในวันข้างหน้า
"หยุนหยุนยอมรับแล้วหรือ?" ปากของกงชิงวี่ร้ายกาจใช่ย่อย แต่ระหว่างทางลงจากภูเขามา เขาก็ยังคอยดึง คอยประคองอันหลิงหยุนอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด
อันหลิงหยุนรู้สึกว่าร่างกายของนางไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก นางไปภูเขาสือหลี่นางก็ทั้งขึ้นไป ทั้งลงมาด้วยตัวเองไหวด้วยซ้ำ
"พระชายา ทำไมท่านถึงให้นายท่านถางมาเปลี่ยนข้าออกไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ? หรือเป็นเพราะข้าทำหน้าที่คุ้มครองไม่ดี?" อาหยู่รู้สึกร้อนใจ เมื่อเห็นว่าอันหลิงหยุนกำลังจะไป เขาก็ไม่มัวมาสนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว
อันหลิงหยุนหยุดชะงักไปชั่วครู่ : "นี่เป็นความตั้งใจของข้า เจ้าอย่าได้ไปตามตอแย สร้างเรื่องรบกวนให้กับท่านถางอีก"
“ เช่นนั้น เป็นเพราะอะไรท่านถึงต้องการให้ข้าออกไปหรือ?” อาหยู่ยังคงไม่เข้าใจ
"อาหยู่ รอไว้วันพรุ่งนี้ค่อยคุยกันเถอะ วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว" อันหลิงหยุนเหนื่อยเหลือเกินแล้ว อาหยู่ก็ยังขวางทางไม่ให้นางไปอยู่อย่างเดิม
"อาหยู่ เจ้าถอยไปก่อน" กงชิงวี่ลงมาแล้ว อาหยู่จึงยอมถอยไปตามคำสั่ง
อันหลิงหยุนหันกลับไปมองอาหยู่ที่สีหน้าเศร้าหมองมืดมน ครุ่นคิดสักพัก: "ข้าขอพักผ่อนครู่หนึ่ง แล้วจะเรียกหาเจ้าทีหลัง"
อาหยู่เงยหน้าขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีความสุขมากมายสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วอยู่ดี
ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าเป็นเรื่องของถางเหอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นความตั้งใจของพระชายาแน่แล้ว คงเป็นเรื่องยากที่จะได้กลับมายังจุดนี้อีกครั้ง
อันหลิงหยุนกลับไปพักผ่อนครู่หนึ่ง จึงออกมาพบหน้าอาหยู่
ใบหน้าของอาหยู่นั้น ดูกระวนกระวายไม่ปกติ คล้ายกับว่าจวนเจียนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
"อาหยู่ เจ้าอยู่ข้างกายข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว หากพูดตามหลักการ ก็ควรให้เจ้าติดตามข้าไปตลอดอยู่หรอก แต่เจ้าลองถามใจตัวเองดูหน่อยดีหรือไม่ ว่าตัวเจ้าที่ติดตามข้าอยู่ทุกวันนี้ ทำตัวมีประโยชน์ต่อข้ามากน้อยแค่ไหน?"
“ ข้า ... ” อาหยู่เริ่มจะรู้สึกแล้วว่า ตัวเองทำผิดขึ้นมานิดหน่อยแล้วจริงๆ
“อาหยู่ การที่เจ้าจะได้อยู่ที่ไหนนั้น เป็นข้าที่ตัดสินใจ หรือว่าเป็นเจ้าที่ตัดสินใจ ? แน่นอนว่า ตอนนี้สำหรับข้าแล้ว เจ้าก็ถือว่ามีความสำคัญอยู่มาก แต่ก็ไม่ได้สำคัญจนถึงขั้นที่ว่า เจ้าจะมีสิทธิ์มาคิดแทน หรือมาตัดสินใจเรื่องอะไรๆแทนข้าได้ แต่ทุกเรื่องที่เจ้ากำลังทำอยู่ตอนนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกว่า เจ้ากำลังตัดสินใจแทนข้าทั้งหมด เจ้าคือองครักษ์ ข้าคือพระชายา การที่พระชายาจะเปลี่ยนองครักษ์ ทำไมถึงต้องให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจด้วย? "
ทันทีที่อันหลิงหยุนพูดอย่างนี้ออกมา อาหยู่ก็ไม่กล้าพูดมากอีก
แต่เขารู้สึกน้อยใจยิ่งนัก จู่ๆก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไปโดยไม่มีเหตุผล เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...