ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 735

บทที่735แม่ลูกพบกัน

อันหลิงหยินแยกตัวออกไป เตรียมตัวจะไปนอน กงชิงวี่ท่าทางเย็นชา “เจ้ายังหลับลงได้อีก สามีของเจ้ามีคนมาชอบพอนะ”

อันหลิงหยุนอยู่ข้างหลังแลบลิ้นออกมา “นั้นเป็นความผิดของข้าหรือ ไม่ใช่เพราะท่านอ๋องรูปลักษณ์โดดเด่น เจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็น สายตาผู้หญิงที่อยู่ข้างนอก เวลามองข้าเป็นอย่างไร แต่ละคนลูกตาแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว”

“ยังกล้ามาพูดเหน็บแนม เจ้าตามข้ามา “กงชิงวี่ปากพูดเอาแต่ใจ แต่มือที่กลับอ่อนโยน ไปคว้าอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนถึงตามไป

แค่เอามือลูบ ตะเกียงในห้องก็สว่างขึ้น

กงชิงวี่มองไปที่อันหลิงหยุน อันหลินหยุบกลับมองไปที่เฟิงหลง ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น

เฟิงหลงใส่สวมชุดสตรีของประเทศเฟิ่ง เสื้อผ้าที่ดูหลวม แต่แขนเสื้อคับ คล้ายๆกับชุดสตรีราชวงศ์ชิง เพียงแต่ดูเรียบง่ายกว่า

แต่เฟิงหลงสวยงามมาก โดยเฉพาะทรงผมของเธอก็สวยงามเช่นกันเพียงแต่โดนถ้วยชาเขวี้ยงใส่ หน้าผากบวมเป่ง ทำให้มีผลกับความงามของนาง

อันหลิงหยุนมองผู้หญิงที่พื้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย นางเข้ามาในห้องของเจ้านายกลางดึกแล้วแต่งตัวแบบนี้?

มองลงไปอีก ที่เท้าก็ไม่สวมร้องเท้า

อันหลิงหยุนได้ยินมาว่าผู้หญิงประเทศเฟิ่งมีข้อกำหนดว่า ถ้าอยู่กับสามีตอนกลางคืน สามารถไม่ต้องสวมรองเท้าได้

ผู้หญิงประเทศเฟิ่งที่มีสามีมากกว่าหนึ่งก็มี ตอนที่ดูแลสามี ถึงจะเป็นแบบนี้

“เจ้านาย เฟิงหลงลุกขึ้นมาคุกเข่า”

“ข้าแต่งงานแล้ว เจ้าไม่รู้หรือ?” สีหน้าโกรธของกงชิงวี่

“เฟิงเอ๋อรู้คะ”

“เจ้ายังรู้อะไรอีก?”

“เจ้านายไม่ชอบพระชายา”

“งั้นหรือ?” กงชิงวี่เหลือบไปมองอันหลิงหยุน “นางก็คือพระชายา ข้าสามารถบอกเจ้าไว้เลยว่า ชีวิตนี้นอกจากพระชายา ข้าจะไม่มีหญิงอื่นเป็นคนที่สอง”

เฟิงหลงเงยหน้าขึ้นทันที มองไปที่หน้าของอันหลิงหยุน โมโหจนหน้ากลายเป็นสีเขียว

เฟิงหลงลุกขึ้นมายืน อยากจะเข้าไปตบอันหลิงหยุน กงชิงหวี่จังหวะมือไปคว้ากาน้ำชาฟาดไปที่หน้าของเฟินหลง หน้าทั้งหน้าพังยับเยิน เฟินหลงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

มีสองคนเข้ามาในห้อง คุกเข่าลงทันทีซึ่งก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่ และแต่ละคนก็สวยงามมาก

ครั้งนี้อันหลิงหยุนมองไปที่เท้าของทั้งสองคนก่อน ทั้งสองคนล้วนใส่รองเท้า

“ข้าน้อยถวายบังคมเจ้านาย”

กงชิงวี่มองไปที่ทั้งสองคน “นี่คือพระชายา เจ้านายคนใหม่ของพวกเจ้า”

ทั้งสองคนเงยหน้าขื้นไปมองอันหลิงหยุน ทั้งสองคนก็แสดงความกลัวออกมาผ่านแววตา

อันหลิงหยุนรู้สึกอายนิดหน่อย เหลือบไปมองที่กงชิงวี่

“ถวายบังคมเจ้านายคนใหม่”

ทั้งสองคนพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน

อันหลิงหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ชอบให้คุกเข่า คราวหน้าเจอข้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่า”

“คะ”

ทั้งสองคนลุกขึ้นยืน ในห้องตอนนี้เฟิงหลงกำลังจ้องมองไปที่อันหลิงหยุนอย่างดุร้าย สั่นเทาไปทั้งตัว

อันหลิงหยุนถาม “ท่านอ๋องคิดว่าจะจัดการอย่างไร?”

“เรื่องนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดการละกัน”

กงชิงวี่มีคำสั่ง อันหลิงหยุนก็จะจัดการด้วยตัวเอง

“เฟิงหลงไม่รู้จักธรรมเนียมประเพณี ลามก ดูหมิ่นเจ้านาย ไม่เหมาะที่จะอยู่ในประเทศเฟิ่งอีกต่อไป พวกเจ้าเอานางไป ข้าไม่อยากเห็นหน้านางอีก”

“คะ”

ทั้งสองคนที่อยู่บนพื้นลุกขึ้นมา ออกแรงถอดวิทยายุทธของเฟิงหลง และถอดป้ายประจำตัวออก

เฟิงหลงกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ดึงความสนใจของเสี่ยวเอ้อให้มาดู

คนหนึ่งในนั้นเดินออกมาจากประตูมา ถือป้ายประจำตัวออกมา เสี่ยวเอ้อตกใจหันตัวเดินกลับไปทันที

ทั้งสองคนจัดการกับเฟิงหลงแล้ว ส่วนอีกคนเดินมาตรงหน้าของอันหลิงหยุน ยื่นกระดาษที่มีข้องความสั้นๆ อันหลิงหยุนหยิบขึ้นมาดู แล้วส่งให้กงชิงวี่

ไม่กี่คนก็หยุดลง กงชิงวี่ก็วางอันหลิงหยุนที่แบกอยู่บนหลังลงมา อันหลิงหยุนหันไปทางพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ เฟิงอู๋ฉิงหยินขลุ่ยที่พกติดตัวออกมา แล้วก็เป่าขึ้น

พระราชวังที่เดิมที่มืดก็สว่างขึ้นพระราชวังเฟิ่งมีคนเปิดประตูออกมา ขันทีที่อยู่รอบๆก็มองดูอยู่ครู่หน่ง มองเห็นเฟิงอู๋ฉิงก็กลับไป ไม่นานนักหลังจากนั้น ประตูวังก็เปิดออก ขันทีน้อยต่างออกมาต้อนรับเฟิงอู๋ฉิง

“เจ้าสำนักเฟิง เชิญ”

เฟิงอู๋ฉิงถึงจะพาคนไม่กี่คนเข้าพระราชวังเฟิ่งได้ตามขั้นตอน”

พระราชวังมีขนาดใหญ่อุกอาจแต่สตรีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรของประเทศเฟิ่งช่างสง่างามตรงข้ามยังเด็กอยู่ข้างกายนางคือชายในชุดคลุมสีขาวชายงดงามไม่ธรรมดา ปล่อยผมยาวสยายอยู่ข้างหลังเขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนกับเป็นหยกประติมากรรมยังไงยังงั้น

อันหลิงหยุนมองไปที่ชายคนนั้น แล้วก็มองมาทางสตรีที่นั่งอยู่ตรงกลาง

ผู้หญิงผมยาวคลุมบ่า สวมเสื้อคลุมสีขาวนวล บนเสื้อคลุมปักเป็นลวดลายเฟิ่งเหนี่ยว(นกฟินิกซ์) และนางก็นั่งอยู่ที่นั่น ผอมบาง มือของนางจับที่หัวมังกรของเก้าอี้บัลลังก์ประเทศเฟิ่งจ้องมองลงมายังคนไม่กี่คนเบื้องล่าง ตอนลุกขึ้นมานางหันไปข้างหน้าและเดิน ชายข้างกายยื่นมือมาพยุงนางในทันที นางเหลือบไม่มองผู้ชาย แล้วหันมองไปยังเบื้องล่างเพื่อจะเดินต่อ

เดินมุ่งตรงไปยังอันหลิงหยุน พินิจอย่างระมัดระวัง “เจ้าช่างเหมือนกับพ่อของเจ้า”

อันหลิงหยุนลังเล นางดูไม่เหมือนจักรพรรดินีใช่หรือไม่?

จักรพรรดินีหญิงถาม “เจ้าชื่ออะไร?”

“อันหลิงหยุน”

“หลิงหยุน ทะเยอทะยาน เป็นชื่อที่ดี”

จักรพรรดินีมองไปที่แม่ทัพอัน “พี่ชายอัน ตั้งแต่แยกจากกันไป ยังสบายดีนะ?”

“ซูซู ทำไมเจ้าถึงมีสภาพเช่นนี้ ทำไมตอนนี้เจ้าถึงได้ผอมแห้งและบอบบางขนาดนี้?” แม่ทัพอันอารมณ์ไม่สู้ดี การเดินทางในครั้งนี้จิตใจช่างสับสนจนกระทั่งเข้ามาในเมือง เขาถึงจะอุ่นใจขึ้น

เธอปกครองประเทศนี้เป็นอย่างดี ตอนนั้นเขาไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่แค่เจอหน้า ชีวิตคนเราทำไมถึงเป็นแบบนี้?

เฟิ่งป่ายซูหัวเราะ แม้ว่าจะแห้งเหี่ยว แต่กลับเป็นที่รักของปวงประชา อันหลิงหยุนรู้สึกเหมือนส่องกระจก เห็นตัวเองมีสภาพเป็นแบบนั้น นางไม่เข้าใจเฟิ่งป่ายซูบอกว่านางมีลักษณะเหมือนกับคนคนนั้น แต่ทำไมความรู้สึกเวลาที่นางส่องกระจก

ก็คือเวลานี้ อันหลิงหยุนน้ำตาไหล เฟิ่งป่ายซูมองไปทางลูกสาว ยื่นมือไปสัมผัสที่ใบหน้าของอันหลิงหยุน “ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้อง!”

เฟิ่งป่ายซูกอดอันหลิงหยุนไว้ในทันที เหมือนกับกอดลูกเอาไว้ เล้าโลมเบาๆ

ตอนนี้ประตูของพระราชวังเฟิ่งปิดลง ผู้ชายข้างกาย อ๋าวชิงพูดว่า “เข้าไปข้างในก่อน สุขภาพของพระองค์อ่อนแอมาก ต้องเข้าไปข้างใน ที่นี่ลมแรงมาก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน